ทุกคนภายในพระที่นั่งต่างพากันตื่นตระหนกตกใจ
และหมอหลวงจ้าวก็รู้สึกตื่นตระหนกหวาดกลัวอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อพระสนมเอกหรงได้ทีเล่นงานก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นอย่างอดไม่ได้
เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว วิ่งมาหาที่ตายเอง นางจึงไม่ต้องลงมือทำอะไร
ฮองเฮาอู่ขมวดคิ้วมองไปยังหรงเยี่ย เรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นนี้ ฮองเฮาหวังเพียงว่าท่านอ๋องหรงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และปล่อยให้ไป๋ชิงหลิงรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คนเดียว
"ส่งคนมาที่นี่!" จักรพรรดิเหยาตรัสสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
มีทหารรักษาพระองค์สองนายเดินเข้ามาจากภายนอก
พระเนตรอันเยือกเย็นของจักรพรรดิเหยาจับจ้องไปยังไป๋ชิงหลิง "จัดการนางเดี๋ยวนี้"
ทหารรักพระษาพระองค์รีบเดินเข้ามาข้างหน้า ทว่าไป๋ชิงหลิงกลับลุกขึ้นยืนอย่างนิ่งเฉยและกล่าวว่า "ข้าเดินเองได้"
นางหันไปชำเลืองมองหรงเยี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นจึงหันไปมองทางอื่น "ยาชาที่อยู่ในพระวรกายของไทเฮายังไม่หมดไป วิธีการดูแลหลังจากการผ่าตัดข้าก็ได้เขียนและวางไว้ที่ใต้หมอนของไทเฮาแล้ว"
เมื่อพูดจบ นางก็ได้หันหลังกลับและเดินออกจากตำหนักฮุ่ยหนิง โดยไม่กล่าวแก้ตัวใดๆ เลย
เพราะคนในตำหนักฮุ่ยหนิง ไม่มีใครเลยสักคนที่เชื่อนาง การพูดแก้ตัวของนางในสายตาของพระสนมเอกหรงนั้น เป็นเพียงเพื่อต้องการหลุดพ้นจากความผิดเท่านั้น
พระสนมเอกหรงจะยิ่งได้ใจและใส่ร้ายนางมากขึ้นต่อหน้าฝ่าบาท
และจักรพรรดิเหยาจำเป็นต้องหาใครคนหนึ่งเพื่อมารับความผิดนี้ แม้ว่านางจะมีทักษะทางการแพทย์ที่สูงส่ง แต่ในขณะที่ไทเฮายังไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้นั้น จักรพรรดิเหยาก็ได้มองนางเป็น "คนร้าย" ที่ฆ่าสังหารไทเฮาไปเสียแล้ว
ส่วนหรงเยี่ย......
เขาสามารถโยนความผิดมาที่นางได้และกราบทูลฝ่าบาทว่าเขาไม่รู้อะไรด้วยเลย
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาในใจ......
นางถูกหรงเยี่ยหลอกเข้าให้แล้วจริงๆ ตอนนี้นางหวังเพียงขอให้ไทเฮารีบฟื้นขึ้นมา คนในสำนักหมอหลวงสามารถจัดการดูแลบาดแผลหลังการผ่าตัดที่นางเขียนเอาไว้ได้
ซึ่งใช้เวลาแค่เพียงสองวันเท่านั้น
ทว่ากลับรู้สึกสงสารอิงซาที่ต้องถูกจับเข้าคุกไปพร้อมกับนาง
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น อิงอู๋หนึ่งในทหารองครักษ์เหยี่ยวดำได้ส่งอาหารเข้ามา
เขานั่งลงกับพื้นและนำสำรับอาหารเช้าออกมา จากนั้นจัดวางไว้ตรงหน้าของนาง
อิงอู๋รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย "นายท่านบอกให้ข้าน้อยนั่งเฝ้าแม่นางไป๋รับประทานอาหารเช้าให้หมด อาหารในคุกไม่อร่อย แม่นางไป๋อย่าได้รับประทานอาหารที่คนอื่นนำมาให้เลยขอรับ"
"นายท่านของเจ้าต้องการวางยาพิษข้าใช่หรือไม่!" ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองสำรับอาหารที่มีทั้งข้าวฟ่างต้มพุทธาจีน ขนมแป้งเกาลัดและผลไม้หนึ่งถาด ล้วนแล้วแต่จัดเตรียมตามความชอบของนาง
นางกลับรู้สึกเป็นเรื่องน่าขบขัน
"ต้องการฆ่าปิดปากเร็วเช่นนี้เลยหรือ"
นางพูดออกมาเช่นนี้ ทำให้อิงอู๋พูดอะไรไม่ออกอีกเลย
เขาอยากบอกว่า นายท่านไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่ต่างกัน พระสนมเอกหรงพยายามหาเรื่องเขาตลอดเวลา และพยายามพูดกับฝ่าบาทเพื่อกล่าวหาเขาเรื่องที่เขาช่วยเหลือนาง และไม่ยอมให้นายท่านของเขาเข้าใกล้ไทเฮาเลย......
นายท่านต้องการแน่ใจว่าไทเฮาปลอดภัยดี จึงจะสามารถปกป้องความปลอดภัยของนางและกล้าแย้งต่อจักรพรรดิเหยาได้
และฮองเฮาอู่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้เขาทำเช่นนั้น
เขาก็เหลือเพียงตัวคนเดียวเท่านั้น
ทว่านายท่านกลับไม่ยอมให้เขาพูดออกมา
"ไม่มีเรื่องเช่นนั้นแน่นอนขอรับ" อิงอู๋เกลี้ยกล่อม "แม่นางไป๋ ท่านรีบรับประทานเข้าไปเถอะขอรับ"
เมื่อไป๋ชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกว่าหรงเยี่ยกำลังเร่งให้นางรีบตายไปเสีย
เพราะถึงอย่างไรเสีย เมื่อวานเขาก็เพิ่งจะพูดกับนางว่า นางตายไปก็ดี จิ่งหลินจะได้มีเพื่อนเพิ่มอีกหนึ่งคน
นางไม่ยอมตกลงเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกชายของเขา เขาจึงพยายามแย่งชิงลูกสาวของนางไปเป็นเพื่อนเล่นกับลูกชายของเขา ช่างเป็นผู้ชายที่มีความคิดชั่วร้ายอย่างมาก
ยิ่งคิดยิ่งโมโห
ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นและเดินไปเตะสำรับอาหารที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวออกมาด้วยความโกรธ "เอาล่ะ กลับไปรับใช้นายท่านของเจ้าได้แล้ว"
อิงอู๋ยืนมองอาหารที่กระจัดกระจายเต็มพื้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก......
แม่นางไป๋โมโหขึ้นมาช่างเหมือนกันกับซื่อจื่อน้อยเหลือเกิน
ช่างเหมือนกันไม่มีผิด
อิงอู๋มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่กลับรู้สึกว่าเหตุการณ์ตรงหน้าช่างคุ้นตาอย่างมาก เขาแทบเกือบเกิดความสงสัยว่าแม่นางไป๋เป็นผู้ให้กำเนิดซื่อจื่อน้อยหรือไม่
แต่เมื่อความคิดเช่นนี้แวบผ่านเข้ามาในหัว อิงอู๋ก็รีบสะบัดออกไป
แม่แท้ๆ ของซื่อจื่อน้อยได้เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว และเขาเป็นคนลงมือฝังศพด้วยตัวเอง
"แม่นางไป๋ ท่านต้องจำคำพูดของข้าน้อยเอาไว้นะขอรับ อย่ากินอาหารที่คนอื่นนำมาให้เด็ดขาด"
เมื่ออิงอู๋เห็นว่าไม่สามารถพูดเกลี้ยกล่อมได้อีก จึงได้จัดการเก็บอาหารที่กระจัดกระจายตามพื้นจนสะอาดเรียบร้อย และจากไป
และหลังจากที่อิงอู๋ออกไปได้เพียงไม่นานก็มีคนส่งอาหารเข้ามา......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...