ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 628

ไป๋ชิงหลิงตะลึง สบตานางแวบหนึ่ง เอ่ย " บาดเจ็บขนาดนี้แล้ว ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นกับข้าหรือ เจ้าไม่กลัวจะเสียโฉมเรือนร่างดอกหรือ"

" ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะไปแย่งผู้ชายจากเจ้าไม่ใช่หรือ เจ้าจะได้สบายใจ" ฉางเล่อเหยียนเอาหน้าวางไว้บนแขนของตัวเอง เห็นไป๋ชิงหลิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงพอดี

สองคนสบตากัน

ไป๋ชิงหลิงส่ายหัว ไม่อยากจะสนใจนาง

ฉางเล่อเหยียนเอ่ย " ข้าติดหนี้บุญคุณพี่น้องอ๋องหรงสองคนนี้จริงๆ ผู้ชายที่ข้าหมายปองครั้งแรกก็ถูกหมาขุดข่วนจนได้แผล เห็นว่าแผลใกล้จะหายแล้ว ก็เจอกับอ๋องเฉิน นั่งรถม้าของเขากลับบ้านก็ถูกตีจนแผลเหวอะหวะ เจ้าจะปลอบโยนข้าหน่อยไม่ได้หรือ"

" เจ็บก็ไม่ต้องพูดมาก"

" ท่าทางของเจ้าตอนนี้ชั่งเหมือนกับตอนที่อ๋องหรงทำหน้าเคร่งขรึมเสียจริง น้ำเสียงที่พูดก็เหมือน เขาก็ปฏิบัติข้าเช่นนี้เหมือนกัน ข้ารู้สึกว่าอ๋องเฉินมีความอ่อนโยนกว่า" สีหน้าที่ซีดเผือดของฉางเล่อเหยียนแย้มปากเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย

ไป๋ชิงหลิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เบิกตากว้างเอ่ย " นั่นมันก็เป็นการหาเคราะห์ใส่ตัว เจ้าก็รู้ว่าทำไม่ได้ แต่ก็ยังทำ เจ้าได้เหยียบถูกจุดอ่อนของนายผู้เฒ่าเข้าแล้ว"

" เอ๋ เจ้าจะไม่สงสัยเลยหรือว่า ทำไมนายผู้เฒ่าถึงได้อ่อนไหวกับเรื่องนี้" ฉางเล่อเหยียนได้เอ่ยถึงนายผู้เฒ่าอีกครั้ง และได้กระตุ้นความอยากรู้ของไป๋ชิงหลิง

แต่นางในฐานะคนรับใช้ ก็ไม่กล้าไปสืบหา

เพราะอย่างนี้ นางจึงไม่ตอบกลับฉางเล่อเหยียน

" พระชายาหรง"

ไป๋ชิงหลิงได้ฉีกผ้าอีกข้างของนางออก พอดีกับเห็นบาดแผลของนางเข้าพอดี

ฉางเล่อเหยียนสูบอากาศเย็นเข้าเฮือกใหญ่ พูดเสียงแผ่วต่ำ " เจ็บนะ"

" อีกชั่วครู่ก็จะไม่เจ็บแล้ว" ไป๋ชิงหลิงได้ใส่ยาชาให้นาง

ผ่านไปไม่นาน แผ่นหลังของนางเหมือนจะชาไป แล้วก็ไม่เจ็บจริงๆ

" ไม่เจ็บจริงๆ ด้วย รู้สึกสบายขึ้นเยอะเลย" หน้าของฉางเล่อเหยียนพิงลงไปบนหมอน ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

ในระหว่างนี้ ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ปริปาก

ฉางเล่อเหยียนนั้นเมื่อไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ก็กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น

" พระชายาหรง เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้าเลย"

" ไม่มีอะไรน่าสนใจดอก เรื่องของผู้ใหญ่ผู้น้อยไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว คนรุ่นหนึ่งก็มีเรื่องของตัวเอง ต่อให้ตอนหนุ่มนั้นนายผู้เฒ่าจะมีเรื่องอะไรกับไทเฮา แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาคนหนึ่งก็เป็นถึงหัวหน้าครอบครัวในจวนฉาง อีกคนก็เป็นไทเฮาผู้สูงส่งในวังหลัง เจ้าไปหาข้อมูลมากมายขนาดนั้นแล้วมีอะไรดีต่อพวกเขาล่ะ" คำพูดของไป๋ชิงหลิงได้ขัดขวางความอยากรู้อยากเห็นทั้งหมดในใจของฉางเล่อเหยียน

นางรู้สึกว่านางเหมือนหรงเยี่ยเข้าทุกทีแล้ว ไม่ใช่ นางน่าสนใจมากกว่าชายหน้าเย็นชาคนนั้นอีก

อย่างน้อยพระชายาก็มีคำพูดพูดกับนางมากมาย

นางยังไม่เคยมีคุณหนูคนไหนที่อยู่กับนางนานขนาดนี้ และมีคำพูดคุยกันมากมายขนาดนี้

พวกนางส่วนใหญ่เพียงแค่กล่าวทักทายนางเท่านั้น จากนั้นก็จะไปหาเล่นกับน้องสี่ของนาง

ที่พวกคุณหนูไม่ยอมไปมาหาสู่กับนางนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่พวกผู้ใหญ่ชอบนำจุดเด่นของเด็กๆ มาเปรียบเทียบกัน และความได้เปรียบของฉางเล่อเหยียนนั้นมากกว่าพวกนาง อย่างไรก็ตาม เพราะความโดดเด่นและมากความสามารถของฉางเล่อเหยียน ทำให้พวกนางออกห่าง

มีหลายครั้งที่นางเองก็รู้สึกอิจฉาฉางเล่ออันเหมือนกัน

" พระชายาหรงสอนถูกแล้ว" ฉางเล่อเหยียนเอ่ย

ไป๋ชิงหลิงคิดว่าฉางเล่อเหยียนจะโต้ตอบนางสักอีก แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะยอมรับคำพูดของนาง

ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะมองนางอีกครั้ง

" เจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีแผลเป็น"

เขาก้มหน้าลง ด้วยสีหน้าที่สำนึกสุดซึ้ง " ข้าทำไปเพราะความหวังดี ข้าไม่ได้คิดมาก ข้าก็คิดไม่ถึงว่าจะต้องเจอกับนายผู้เฒ่า ท่านกลับตีคนเพราะเรื่องเล็กๆ แบบนี้ แล้วจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า"

" ใช้เชือกเส้นหนึ่งแล้วแขวนคอที่จวนฉางซะ" หรงเยี่ยยกน้ำชาแล้วก็ดื่มเฮือกเดียวจนเกลี้ยง

ไป๋ชิงหลิงเหลือบตาไปมองหรงเยี่ย เห็นว่าเขากำลังโกรธ

ส่วนหรงเฉินนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของหรงเยี่ยก็หมดปัญญาจริงๆ

ไป๋ชิงหลิงเห็นว่าเขาไม่ปริปาก จึงเดินไปข้างกายหรงเยี่ย ตบหลังเขาเบาๆ " เจ้าไปหานายผู้เฒ่าฉาง"

"ฮึ" หรงเยี่ยส่งเสียงฮึคำหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

หรงเฉินเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง " ข้าไปกับพี่เจ็ดได้หรือไม่"

"คงต้องทำแบบนี้แหละ" ไป๋ชิงหลิงคิดว่าเรื่องนี้ต้องพูดให้เข้าใจกัน " พรุ่งนี้ข้าจะไปกับพวกเจ้าไปหานายผู้เฒ่าฉางกัน"

หรงเฉินดีใจมาก แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าออกมา ทำเพียงแค่เอ่ยเสียงเบา " ถ้าอย่างนั้นข้าขอกลับจวนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่"

" ไปเถิด" ไป๋ชิงหลิงไม่ได้รั้งไว้

ถ้าเขาอยู่ก็จะทำให้ตัวเองรู้สึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งแต่เกิดเรื่องที่วัดเต๋อหลิน เขาก็เปลี่ยนเป็นคนที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองอีกเลย

หลังจากที่อ๋องเฉินออกไปแล้ว หรงเยี่ยก็ยื่นมือออกไปโอบไป๋ชิงหลิงมาไว้ในอ้อมกอด อุ้มนางตะแคงเอ่ย " ทำไมข้ารู้สึกว่า เจ้าดีต่อเขามากกว่าข้าสักอีกล่ะ"

"เจ้าว่ากระไร" ไป๋ชิงหลิงทุบตีเขาด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก " ข้าเห็นเขาเป็นน้องชายเท่านั้น"

" แต่ก่อนเขาปฏิบัติต่อเจ้า..."

ไป๋ชิงหลิงรีบยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วอุดริมฝีปากของเขาไว้ ไม่ให้เขาพูดออกมา" ถึงเขาจะไม่ต่อข้าขนาดไหน เขาก็เป็นผู้ชายที่สูญเสียแม่และภรรยาไป อีกทั้งยังเป็นน้องชายเจ้าด้วย จิตใจของเขาก็ไม่ได้ชั่ว กำลังสำนึกผิด เจ้าคงไม่ถือสาหรอกใช่ไหม"

" ข้าจะถือสาเขาหรือ" หรงเยี่ยทำหน้ามาดนิ่ง แล้วบีบแก้มนาง เอ่ย " ข้าแค่รู้สึกเกลียดเขาเล็กน้อย เขาไม่สมควรจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้จากพระชายา"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น