“ได้ เช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องสนใจเขา ให้เขาไปด้วยตัวเอง จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง” ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นมาจากตักของเขา จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
หรงเยี่ยมองมาที่นางด้วยความไม่พอใจ “พระชายา ข้าเป็นคนรักษาคำพูด”
“ปากแข็ง!” ไป๋ชิงหลิงรินน้ำอุ่นให้ตัวเอง ดื่มน้ำไปสองแก้ว ในตอนที่วางมันลง นางเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “แม่บ้านสิงที่อยู่ข้างกายของแม่นางฉางสาม ระหว่างที่นางเดินทางไปยังจวนอ๋องเฉินเพื่อทำการรายงาน นางก็ถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิต และข้าได้ฟังความจริงบางอย่างจากคนรอบข้างมาบ้าง ได้ยินมาว่าในตอนที่คุณหนูรองออกมาจากพระราชวัง รถม้าของนางเสียหลัก เจ้าคิดว่าเรื่องนี้มันไม่บังเอิญไปหน่อยอย่างนั้นหรือ?”
“คนของจวนฉางไปแจ้งความแล้วหรือยัง?”
“เรื่องนี้ข้าไม่ได้ถาม หากหรงเฉินไปถึงห้องโถงบรรพชนเร็วกว่านี้ ไม่แน่ว่าคุณหนูรองอาจจะรอดพ้นจากการถูกลงโทษได้!” ไป๋ชิงหลิงก้มหน้ามองแก้วที่อยู่ในมือ หลังจากนั้นก็หยิบแก้วของหรงเยี่ยมาไว้ด้านหน้าของตัวเอง วางแก้วทั้งสองใบไว้ด้วยกัน
หรงเยี่ยมองการเคลื่อนไหวของนางด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางความคิดของนาง
ในเวลานี้ ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ยื่นมือออกไปจับคางของเขาไว้พร้อมกับจ้องมองอย่างละเอียด
หรงเยี่ยขมวดคิ้ว เขาถามออกมา “พระชายา เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”
“สิ่งที่เกิดขึ้นในพระราชวังในวันนี้ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉางเล่อเหยียน มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างไร”
หรงเยี่ยหรี่ตาลง เขายิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาพูดออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจับมือน้อย ๆ ของนางหอม “คิดอะไรออกงั้นหรือ เจ้าบอกข้ามาได้เลย”
“ฉางเล่อเหยียนและฉางเล่ออัน สองพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกกัน!”
ดวงตาที่เร่าร้อนของนางจ้องมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา “และข้าก็กล้าฟันธงได้เลยว่า ฉางเล่ออันเองก็ชอบท่านอ๋อง”
เมื่อชายที่อยู่ตรงหน้าของนางได้ยินเช่นนั้นก็มีอาการหวั่นไหว
เปลือกตาของเขากระตุกอยู่หลายครั้ง กำมือของไป๋ชิงหลิงไว้แน่น “อย่าพูดจาเหลวไหล”
“ท่านอ๋อง คำพูดนี้ออกมาจากปากของฉางเล่อเหยียนเอง อีกอย่าง ข้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลที่ใช้ในการคาดเดาความคิดของคุณหนูสี่ตระกูลฉาง” นางเล่าเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างฉางเล่ออันและฉางเล่อเหยียนที่เกิดขึ้นในตำหนักเฟิ่งหลิวออกมาให้หรงเยี่ยฟังอย่างละเอียด
ยิ่งฟังมากเท่าไหร่ ใบหน้าของหรงเยี่ยก็ยิ่งมืดมนมากเท่านั้น
หลังจากนั้นเขาก็กำหมัดและทุบลงไปบนโต๊ะน้ำชา พูดออกมาด้วยความโกรธ “นางกล้าชอบข้าก็ลองดู”
ไป๋ชิงหลิงถึงกับพูดไม่ออก......
มีคนมาชอบเขา เขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด ท่าทางของเขาราวกับว่าตนเองไปติดหนี้ผู้อื่นไว้เป็นร้อยล้าน
“ข้าก็แค่อยากเตือนเจ้า เจ้าต้องระวังคุณหนูสี่ตระกูลฉางไว้ให้มาก ข้าคิดว่าการจากไปของแม่บ้านสิงนั้นเกี่ยวข้องกับคุณหนูสี่ผู้นี้ หากหัวใจเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เกรงว่าไม่ว่าเรื่องอะไรนางก็สามารถทำได้” ไป๋ชิงหลิงนึกถึงประโยคที่ฉางเล่อเหยียนเคยพูดออกมา......
จับตาดูองค์หญิงน้องเอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นข้าเกรงว่าคนที่ต้องน้ำตาตกก็คงจะเป็น......
จู่ ๆ หรงเยี่ยก็เดินเข้ามา อุ้มนางขึ้นมาจากบนเก้าอี้
ไป๋ชิงหลิงตกใจเล็กน้อย มือทั้งสองข้างของนางโอบไปรอบคอของเขา เมื่อเห็นว่าเขากำลังเดินไปที่เตียง นางก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด
ด้วยสภาพร่างกายของนางในตอนนี้ นางไม่อาจมีเพศสัมพันธ์ได้ หมอเทวดาซูก็ย้ำนางอยู่หลายครั้ง ในช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ นางไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้!
นางทุบไหล่ของเขาด้วยความตื่นตระหนกในทันที “เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”
เขาพูดออกมาพร้อมกับก้มลงไปจูบปากของนาง ไป๋ชิงหลิงพยายามผลักเขาออก แต่ชายผู้นี้ไม่ได้สัมผัสนางมากกว่าครึ่งเดือนแล้ว เขาเริ่มจะทนไม่ไหว
หลังจากที่เขาวางนางลงบนเตียง เขาก็กดร่างของนางพร้อมกับจูบอย่างบ้าคลั่ง
ไป๋ชิงหลิงพยายามเอียงศีรษะหนีอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกเขาบังคับกลับมา ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ไป๋ชิงหลิงจึงแสร้งทำเป็นอาเจียนออกมา!
หรงเยี่ยรู้สึกตกใจในทันที รีบพยุงร่างของนางขึ้นมา จากนั้นรูปหลังให้นางอย่างนุ่มนวล......
ใครจะไปรู้ว่าการแกล้งอาเจียนของนาง สุดท้ายแล้วนางจะอาเจียนออกมาจริง ๆ
“แหวะ!” ไป๋ชิงหลิงอาเจียนออกมาจนฟ้าเหลือง ร่างกายของนางพิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง
หรงเยี่ยกอดร่างของนางไว้แน่น “พระชายาอาเจียนออกมาแบบนี้ หากคนไม่รู้คงคิดว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์!”
รูม่านตาของไป๋ชิงหลิงหดตัวลงในทันที มือของนางกำแน่นเล็กน้อย หันกลับมามองเขาพร้อมกับพูดว่า “หมอเทวดาซูบอกว่านี่เป็นอาการข้างเคียง เกรงว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะกลับมาเป็นปกติ”
“เจ้าว่ามันจะบินไปที่ใด?” ไป๋ชิงหลิงหยุดอยู่ใต้ชายคาและด้วยความสงสัย
หรงเยี่ยเงยหน้าขึ้นมองทิศทางที่เหยี่ยวดำบินออกไป ซึ่งทิศทางนั้นตรงกับทิศทางของพระราชวัง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาหรี่ลง “สัมผัสทางกลิ่นของเหยี่ยวดำนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าสุนัข เหยี่ยวประเภทนี้สามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้จากกระแสลมที่พัดไปมา สามารถระบุตำแหน่งของเจ้านายได้ และพวกมันจะนำข่าวที่หามาได้ไปรายงานกับเจ้านายของพวกมันเป็นคนแรก ในเมื่อมันคิดว่าเซิงเอ๋อร์เป็นเจ้านายของมัน แน่นอนว่ามันก็ต้องบินไปหาเซิงเอ๋อร์”
“เข้าไปในวัง?” ไป๋ชิงหลิงหันกลับมามองเขา “จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”
หากเหยี่ยวดำตัวนั้นอาละวาดขึ้นมา มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสุนัข มันทำให้นางไม่สบายใจ
“เหยี่ยวจะไม่โจมตีใครง่าย ๆ มันจะโจมตีเฉพาะตอนที่มันรู้สึกว่าเป็นอันตราย และในสถานการณ์ทั่วไป มันจะฟังคำสั่งของเจ้านายของมันเป็นอันดับแรก” หรงเยี่ยอธิบายออกมา
ไป๋ชิงหลิงถามกลับมาว่า “ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจเหยี่ยวประเภทนี้เป็นอย่างดี”
“ข้าเคยเลี้ยงมันมาก่อน!”
พูดจบเขาก็จูงมือเล็ก ๆ ของนางเดินไปยังห้องอาหาร แต่ไป๋ชิงหลิงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก หรงเยี่ยอธิบายออกมาสั้น ๆ เขาบอกว่าต้องการใช้ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมัน ดังนั้นจึงเลี้ยงมันขึ้นมาเป็นฝูง และสุดท้ายพวกมันก็ตายจากไป
เมื่อบินออกไปจากตำหนัก เหยี่ยวดำก็บินเข้าไปในพระราชวังจริง ๆ
มันบินลงบนตำหนักเฟิ่งหลิว จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปทางประตูวังเพื่อตามหาเจ้านายน้อยของมัน
มันส่งเสียงร้องออกมาเพื่อเรียกหาไป๋ชงเซิง
ไป๋ชงเซิงที่กำลังทานอาหารอยู่จ้องมองมันด้วยใบหน้าตกใจ “เจ้าเหยี่ยวน้อย เหตุใดเจ้าถึงรู้ว่าข้าอยู่ในพระราชวัง?”
หลวนอี๋หันมามองเหยี่ยวดำ นางรู้สึกตกใจกับวัตถุสีดำสนิทเช่นนี้เป็นอย่างมาก “นี่มันตัวอะไร”
“เสด็จน้า ท่านไม่ต้องกลัว มันคือเหยี่ยวดำที่เสด็จพ่อมอบให้ข้า มันเป็นนกที่สุดยอดเป็นอย่างมาก สามารถปกป้องข้าได้ ตอนนี้มันฟังคำสั่งของข้า มันไม่มีทางทำร้ายท่าน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...