ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 63

ไทเฮาแย้มพระสรวล และพระพักตร์ที่เดิมทีดูซีดเซียว จากอาการเจ็บป่วยก็กลับมามีชีวิตชีวาและมีเลือดฟาดขึ้นอีกครั้ง

พระนางหันกลับไปทอดพระเนตรหรงเยี่ยและตรัสว่า "เยี่ยเอ๋อร์กล่าวว่า เพราะผู้หญิงคนหนึ่งได้ทำการผ่าตัดให้กับข้า และได้ตัดลำไส้ที่เสียหายทิ้งไป หลังจากนั้นจึงได้เย็บปากแผลกลับไปเหมือนเดิม ไม่แปลกใจเลยเหตุใดที่ข้ารู้สึกปวดท้องจนแทบทนไม่ได้ ที่แท้ก็เป็นเพราะอวัยวะภายในพัง ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ใด ข้าอยากจะพบเจอ และข้าอยากตอบแทนรางวัลให้กับนาง นางช่างมีทักษะด้านการรักษาที่โดดเด่นเช่นนี้ เช่นนั้นต่อไปก็ให้นางคอยอยู่ข้างกายของข้า เพื่อเป็นหมอหญิงหลวง"

อันที่จริงพระนางฟื้นขึ้นมาหลายชั่วยามแล้ว และค้นพบว่านอกจากร่างกายอ่อนเพลียเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่รู้สึกปวดท้องทรมานอีกเลย

แม้แต่ปากแผลก็เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

พระนางรู้สึกว่าผู้หญิงคนที่ทำในสิ่งที่เรียกว่า "การผ่าตัด" ให้พระนางนั้น นับเป็นเทวดานางฟ้าผู้มีอยู่จริง

พระนางรีบร้อนอยากจะเจอนางสักครั้ง

จักรพรรดิเหยาชำเลืองมองหรงเยี่ยโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

เสด็จแม่ไม่ได้บอกให้ปล่อยตัวไป๋เจาเสวี่ย เช่นนั้นก็แสดงว่าองค์ชายเจ็ดไม่ได้บอกเสด็จแม่ว่าเขาจับตัวไป๋เจาเสวี่ยไปขังคุก

พระพักตร์ของจักรพรรดิเหยาอ่อนโยนลงเล็กน้อย จากนั้นโบกพระหัสถ์และตรัสรับสั่ง "รีบไปนำตัวไป๋เจาเสวี่ยมาเดี๋ยวนี้"

ฟางกงกงตอบรับและรีบเดินออกไป

เมื่อพระสนมเอกหรงได้ยินว่าไทเฮามีรับสั่งให้เข้าพบ ความหนาวเหน็บก็ได้แวบผ่านแววตาของนาง

โชคดีที่นางเตรียมเตรียมตัวไว้ก่อน โดยการฆ่าไป๋เจาเสวี่ยไปเสียก่อน

หากรอให้ผู้หญิงคนนั้นออกมา อีกทั้งยังได้เป็นหมอหญิงหลวงของไทเฮา เช่นนั้นนางคงปีกกล้าขาแข็งกว่านี้อย่างแน่นอน

และในขณะที่นางคิดว่าศพของไป๋ชิงหลิงคงเย็นชืดไปแล้วนั้น

ฟางกงกงได้พาหญิงสาวคนหนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยคราบเลือด เดินเข้ามายังภายในตำหนักฮุ่ยหนิง

ขณะที่พระสนมเอกหรงจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียดนั้น สีหน้าของนางได้ซีดลงอย่างกะทันหัน

ไป๋เจาเสวี่ย!

เป็นไปได้อย่างไรกัน!!!

"ข้าน้อยไป๋เจาเสวี่ยคารวะฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงมีพระชนมายุยืนนานหมื่นปี......"

"เหตุใดร่างกายของเจ้าถึงมีรอยคราบเลือดมากมายเช่นนี้" พระพักตร์ของจักรพรรดิเหยาเคร่งขรึม และพระเนตรของพระองค์ก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของนาง ลำคอ และชุดกระโปรงสีฟ้าธารน้ำแข็งของนาง

นางได้เช็ดคราบเลือดออกไปจากใบหน้าแล้ว ทว่ายังเช็ดออกไปไม่สะอาดหมดจด จึงทำให้ใบหน้าของนางยังคงมีคราบรอยแดง

ทันใดนั้นพระองค์หันไปทอดพระเนตรฟางกงกง

ฟางกงกงรีบคุกเข่าลงและกราบทูลรายงาน "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ แม่นางเจาเสวี่ยถูกลอบทำร้ายในคุกพ่ะย่ะค่ะ"

"อะไรนะ!" มีนางสนมร้องอุทานออกมา

"ใครต้องการฆ่านางอย่างนั้นหรือ?"

"ใครเรียกนางให้มาเข้าพบในวังหลวง"

"ว่ากันว่านางมีเรื่องขัดแย้งกับพระชายาต้วน!"

ทุกคนต่างจ้องมองไปยังพระสนมเอกหรง......

พระสนมเอกหรงรีบเก็บอาการและแสร้งทำเป็นงุนงง "พวกเจ้าจ้องมองมาที่ข้าทำไมหรือ? ข้าเฝ้าอยู่ที่ตำหนักฮุ่ยหนิงตลอดเวลา"

บรรดานางสนมต่างพากันหลบสายตา เพราะตำแหน่งที่ต่ำต้อยกว่านางจึงไม่กล้าสร้างความบาดหมางต่อนาง ส่วนนางสนมที่มีตำแหน่งฐานะเท่าเทียมกับนางก็ได้แอบกลอกตาขาวใส่

ใครบ้างไม่รู้ว่าบรรดาเจ้านายทั้งหลายที่ต้องการฆ่าใครสักคนนั้น ปกติแล้วมักไม่เคยลงมือทำด้วยตัวเอง

เหตุผลนี้ช่างไร้สาระเสียเหลือเกิน

และพระพักตร์ของจักรพรรดิเหยาในขณะนี้นั้นแย่กว่าทุกคนอย่างมาก ประการแรกเพราะไป๋ชิงหลิงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรอยคราบเลือดเต็มตัวในตำหนักฮุ่ยหนิง

พระองค์รู้สึกเป็นเป็นลางร้าย

ประการที่สองคือ พระองค์กลัวว่านางจะไม่ไร้มารยาทและส่งผลร้ายถึงอาการประชวรของไทเฮาได้ พระองค์กำลังจะตรัสรับสั่งให้พานางออกไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้ดี แต่......

ไทเฮาฮุ่ยได้ตรัสถามไป๋ชิงหลิงด้วยพระพักตร์ที่ดูเป็นกังวล "เจ้า......ร่างกายมีรอยคราบเลือดเต็มไปหมด ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือ รีบเรียกหมอหญิงเข้ามาตรวจดูอาการให้นางเดี๋ยวนี้"

ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองดูรอยคราบเลือดบนร่างกายของนางและกล่าวว่า "ไทเฮาไม่ต้องเป็นกังวลหรอกเพคะ รอยคราบเลือดบนร่างกายของข้าน้อย เกิดขึ้นเพราะความจงใจทำขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว อันที่จริงนี่ไม่ใช่เลือด แต่เป็นเพียงยาน้ำชนิดหนึ่งเท่านั้นเพคะ"

"ป้องกันตัว?" ไทเฮาฮุ่ยไม่เข้าใจ

จักรพรรดิเหยาก็ไม่เข้าใจ

ป้องกันตัวไม่ใช่การเรียกคนอื่นมาหรอกหรือ เหตุใดถึงทำให้ตัวเองมีรอบคราบเลือดเต็มตัวเช่นนี้

"ใช่เพคะ" ไป๋ชิงหลิงเล่าความจริงทั้งหมดที่วันนี้ตัวเองได้รับประทานอาหารที่เหมือนกันทั้งสามมื้อ และเรื่องที่มีคนจุดธูปในตอนกลางคืน

หลังจากที่ไทเฮาฮุ่ยได้ฟังก็รู้สึกตกใจอย่างมาก "เจ้าหมายความว่า อาหารนั้นไม่มียาพิษ แต่เป็นเพราะได้สูดดมกลิ่นธูปนั้นเข้าไปหลังจากกินอาหารเหล่านั้น จากนั้นจึงทำให้เกิดเป็นพิษร้ายแรง"

"เพคะไทเฮา พิษนี้มีฤทธิ์ร้ายแรงอย่างมาก เพียงชั่วพริบตาก็สามารถทำให้คนที่ได้รับพิษนั้นเสียชีวิตลง และมีเลือดออกมาจากทวารทั้งเจ็ด และตายลงอย่างน่าอนาถมากเพคะ" ไป๋ชิงหลิงพูดออกมาช้าๆ ด้วยเสียงที่ดังและชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น