ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 651

ทั้งสองคนจ้องหน้ากันเป็นเวลานาน ทำให้บรรยากาศในห้องหยุดนิ่ง เวลานั้นพอดีกับที่หรงจิ่งหลินถูกแม่นมซั่งจูงเข้ามาในห้อง แล้วก็เห็นว่าคนในห้องต่างไม่ส่งเสียงอะไร เขาจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย " เสด็จตา เสด็จยาย ทำไมไม่นั่งกัน เสด็จแม่ทำไมลงจากเตียงล่ะ แล้วทำไมทุกคนถึงไม่พูดกันเลย"

เสียงของหรงจิ่งหลินทำลายความเงียบขรึมของห้องทันที ติ้งเป่ยโหวเป็นคนปริปากคนแรก เขาแนะนำสถานะของหลิวหานเยียนอย่างเป็นทางการให้ไป๋ชิงหลิง " อาเสวี่ย นางคือแม่ของเจ้า เป็นคนให้กำเนิดเจ้า ก่อนหน้านั้นเป็นนางที่กลับมาช่วยชีวิตเจ้าและเด็กในท้องอย่างทันเวลา เจ้าเรียกนางว่าท่านแม่สิ"

ไป๋ชิงหลิงยังคงจ้องมองที่หลิวหานเยียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นนางไม่เคยยอมรับว่า ฮูหยินติ้งเป่ยโหวหลิ่วอวี่เยียนจะเป็นแม่ของนาง แต่ตอนนี้แม่แท้ๆ ของนางกลับมาแล้ว นางกลับไม่รู้จะพูดอะไรดี

หลิวหานเยียนเห็นว่านางเห็นตัวเองเป็นคนแปลกหน้า ก็ไม่อยากจะบังคับนาง " ค่อยๆ ไป ไม่ต้องไปบีบคั้นลูก"

ติ้งเป่ยโหวเห็นอย่างนี้ก็ผงกหัวหลายที " ใช่ ใช่ ใช่ ค่อยๆ ไป ไม่ต้องรีบ"

หลิวหานเยียนปล่อยมือที่จับไป๋ชงเซิงและติ้งเป่ยโหว แล้วเดินไปหาไป๋ชิงหลิง นางค่อยๆ กำมือทั้งสองข้างของไป๋ชิงหลิง สายตาตกลงไปบนใบหน้าของไป๋ชิงหลิง เอ่ย " ข้าเคยเห็นหน้าเจ้า ตอนนั้นเจ้าอายุได้ห้าขวบ และเดินหลงจากเมืองหลวงเป็นครั้งแรก ครั้งนั้นข้าเป็นคนพาเจ้ากลับมาจวนติ้งเป่ยโหว คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาจะเร็วกะพริบตา เจ้ามีลูกแล้ว วันนั้นข้าเห็นเซิงเอ๋อร์ที่ร้านอาหาร ข้ายังคิดว่าเป็นเจ้า"

ใจของไป๋ชิงหลิงเหมือนกับถูกน้ำมันร้อนราดใส่ ร้อนจนหายใจแทบไม่ออก

นางรับรู้ได้ถึงความรักที่หลิวหานเยียนมีต่อไป๋ชิงหลิง

และนางก็ไม่ได้ปฏิเสธมัน แต่กลับน้อมรับความรักนี้ด้วยความเต็มใจ

นางก้มหน้าลง จ้องมองมือที่ถูกหลิวหานเยียนกุมไว้ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตัวเองกุมมือนางไว้แน่นเอ่ยตอบ " ท่านแม่"

เสียงเรียกครั้งนี้ ทำให้หลิวหานเยียนตะลึงงัน

คำว่า " ท่านแม่" นั้นมาเร็วจนนางตั้งตัวไม่ทัน

แต่เป็นเรื่องน่ายินดีแน่นอน

หลิวหานเยียนขานตอบ " เอ้" เสียงหนึ่ง พร้อมกับผงกหัวไปหลายที จากนั้นก็กอดไป๋ชิงหลิงอย่างอดไม่ได้ เอ่ยด้วยเสียงร้องไห้ " แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น แม่ได้แต่ฝันถึงเจ้า ทุกครั้งก็จะฝันว่าเจ้าร้องไห้ ข้างกายเจ้าไม่มีใครเดินด้วย เดินไปตามทางด้วยตัวคนเดียวอย่างไร้จุดหมาย แม่อยากจะจับมือเจ้าไว้ แต่ก็จับไม่ได้ อาเสวี่ย แม่ขอโทษด้วย ต้องโทษแม่ที่ตอนนั้นไม่เข้มแข็งพอ ไม่มีกำลังจะดูแลเจ้า"

เสียงร้องไห้ของนางก้องอยู่ข้างหูของไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงก็ค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดหลิวหานเยียนไว้ เอ่ยด้วยเสียงสะอื้น " ข้าได้เข้าใจเรื่องทั้งหมดของท่านแม่แล้ว เรื่องในอดีตผ่านไปแล้ว เราแม่ลูกอยากได้พูดถึงเรื่องเศร้าหมองอีกเลย"

"อืม" หลิวหานเยียนพยักหน้า

แต่ติ้งเป่ยโหวนั้นกลับส่ายหัวด้วยแววตาที่แดงระเรื่อ " ไม่ เรื่องทั้งหมดยังไม่จบ ในตอนนั้นแม่เจ้าได้ให้กกำเนิดลูกแฝดชายหญิง ไม่ใช่แฝดหญิงทั้งคู่"

ไป๋ชิงหลิงและหรงเยี่ยต่างก็ตะลึงงงตามๆ กัน

แม่นมซั่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

ไป๋ชิงหลิงถอยออกมาจากอ้อมกอดแล้วจับแขนของหลิวหานเยียนไว้ เอ่ย " ไม่ใช่แฝดหญิงมันหมายความว่าอย่างไร"

หลิวหานเยียนเช็ดน้ำตาบนหน้าออก เอ่ย " บนตัวเจ้ามีปานกระต่ายใช่หรือไม่"

" ใช่"

" แสดงว่าในตอนนั้น บนแผ่นหลังน้องชายเจ้าต้องมีปานรูปเสือดำแน่นอน ยายเหวินได้ฉวยโอกาสตอนที่แม่หมดเรี่ยวหมดแรง อุ้มพวกเจ้าหนีไป มาภายหลังแม่ถึงได้รู้ว่า วันนั้นคนที่แย่งลูกข้าไปก็คือฮูหยินอาวุโสไป๋ นางได้แต่งเรื่องโกหกขึ้นมาแล้วก็หลอกให้ทุกคนหลงเชื่อ"

" มีเรื่องเหลวไหลแบบนี้ด้วยหรือ" แม่นมซั่งเอ่ยด้วยความโกรธ

ไป๋ชิงหลิงได้ดึงสติกลับมา " ถ้าหากเรื่องที่ท่านแม่เล่านั้นเป็นความจริง เรื่องทั้งหมดก็ง่ายขึ้นแล้ว"

นางหันหน้ากลับไปมองหรงเยี่ย หรงเยี่ยแค่ได้เห็นสายตาของนางก็รู้ได้ทันทีว่านางต้องการทำอะไร เขาจึงชิงเอ่ยก่อน " วิธีการของฮูหยินอาวุโสไป๋นั้นผิดต่อกฎหมายของแคว้นหรง ถือได้ว่าเป็นคดีร้ายแรง เรื่องนี้ข้าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ ให้ข้าเป็นคนจัดการเองเถิด"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น