ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 655

สรุปบท บทที่ 655 กลอุบายใหม่ของฉางเล่ออัน: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอน บทที่ 655 กลอุบายใหม่ของฉางเล่ออัน จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 655 กลอุบายใหม่ของฉางเล่ออัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“อร๊าย!” ฉางเล่ออันอุทานออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นนางก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันยิ่งใหญ่ มือทั้งสองข้างของนางจับแขนอีกฝ่ายไว้โดยไม่รู้ตัว บนร่างกายของผู้ชายคนนั้นมีกลิ่นหอมจาง ๆ อยู่

เนื่องจากบนร่างกายของชายผู้นั้นมีกลิ่นหอมของดอกไม้อยู่จาง ๆ เป็นกลิ่นที่หอมหวานเป็นอย่างมาก ฉางเล่ออันแอบคิดในใจว่าในที่สุดนางก็ได้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของหรงเยี่ย

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อคนในจวนฉางเห็นว่าอ๋องหรงกอดนางอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องรับผิดชอบนางเป็นแน่

ต่อให้ท่านปู่ทวดไม่ยอม เขาก็ต้องกัดฟันปล่อยให้นางแต่งเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องหรง ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่อาจทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนที่รุนแรงได้

แน่นอนว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนนั้นสามารถสร้างขึ้นมาได้

และสิ่งที่นางกำลังขาดอยู่ก็คือความคิดเห็นของประชาชนพวกนี้

หลังจากนั้น จู่ ๆ สาวใช้สองสามคนที่อยู่ด้านหลังของนางก็ตะโกนขึ้นมาว่า “พ่อบ้านหวู่!”

“คุณหนูสี่!”

เสียงของผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านบนศีรษะของนาง

ฉางเล่ออันได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกผิดปกติ นางรีบเงยหน้าขึ้นมาทันใด เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่อ๋องหรงที่นางหมายปอง แต่กลับเป็นพ่อบ้านหวู่!

นางกรีดร้องออกมา จากนั้นก็ผลักพ่อบ้านหวู่ออกไปพร้อมพูดออกมาด้วยความโกรธ “เหตุใดจึงเป็นเจ้า?”

เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดจึงเป็นเขา เขาวิ่งออกมาเพื่อส่งท่านอ๋องหรง สุดท้ายเมื่อออกมาเขาก็ถูกอีกฝ่ายพุ่งมาชน

แถมยังถูกอีกฝ่ายกอด

ฉางเล่ออันหันกลับมามองหาหรงเยี่ย “อ๋องหรงไปไหนแล้ว?”

เหยาเซี่ยชี้ไปที่มุมประตูและพูดออกมาอย่างสั่นเทาว่า “ท่านอ๋องหรงบินหนีไปแล้ว”

“ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อครู่ท่านอ๋องหรงยืนอยู่ตรงนี้ จู่ ๆ เขาจะบินหนีไปได้อย่างไร คนโง่เขลาอย่างพวกเจ้า คนเพียงคนเดียวก็ดูไว้ให้ดีไม่ได้” ฉางเล่ออันจะบ้าตายอยู่แล้ว นางคิดกลอุบายใหม่ออกมาได้ แต่กลับล้มเหลวอีกครั้ง แถมยังมาล้มเหลวต่อหน้าพ่อบ้านหวู่ นางไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนจริง ๆ

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อบ้านหวู่ได้เห็นคุณหนูสี่แห่งตระกูลฉางสั่งสอนคนรับใช้

เพียงแต่ครั้งนี้มันทำให้พ่อบ้านหวู่ตกใจเป็นอย่างมาก

เนื่องจากเขาพบว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่นั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากแผนร้ายของใครบางคน

พ่อบ้านหวู่หันไปอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเดินกลับเข้าไปในลานเซี่ยหลิน

นายผู้เฒ่ากำลังเล่นอยู่กับนกตัวหนึ่ง เห็นพ่อบ้านหวู่เดินกลับเข้ามาในลานจึงถามออกไปว่า “เหตุใดถึงกลับมาเร็วขนาดนี้”

“นายผู้เฒ่า ท่านอ๋องหลงเดินออกไปจากเรือนหลัง เขาน่าจะหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับปัญหา”

นายผู้เฒ่าหยุดการเคลื่อนไหวของเขาทันที เงยหน้าขึ้นมามองเขา “มีปัญหาอะไรอีกอย่างนั้นหรือ? ฉางเล่อเหยียนก็อยู่ในห้องตลอดเวลา ข้าเพิ่งจะสั่งให้คนพานางกลับไปส่งที่โรงเตี๊ยมตระกูลฉางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก”

“ขอรับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณหนูรอง แต่เป็นคุณหนูสี่” เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมาให้นายผู้เฒ่าฟังโดยละเอียด

หลังจากนายผู้เฒ่าได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ กรงนกในมือของเขาร่วงลงพื้น ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันใด จากนั้นพูดออกมาด้วยความโกรธ “ฉางเล่ออันเป็นคนเช่นนี้เองอย่างนั้นหรือ”

“นายผู้เฒ่า พวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี”

ในตอนนั้นเอง เสียงของฉางเล่อเหยียนก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกของลาน “ท่านปู่ทวด อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น!”

นายผู้เฒ่าฉางหันกลับไปมองทันที “เจ้ามาได้อย่างไร ข้าให้คนไปส่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ?”

“ท่านปู่ทวด ต่างหูของข้าหล่นหายไปข้างหนึ่ง” นางชี้ไปที่ต่างหูข้างซ้ายของตนเอง

นายผู้เฒ่าหันไปมอง หูด้านขวาของฉางเล่อเหยียนมีต่างหูห้อยอยู่ แต่หูด้านซ้ายของนางกลับว่างเปล่า

“เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าทันทีที่กลับมาจะได้ยินพ่อบ้านหวู่พูดถึงเรื่องของน้องสี่เช่นนี้ ตอนแรกข้าก็ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าน้องสี่เป็นคนอย่างไร ข้าจึงไม่อยากพูดกับท่านปู่ทวด”

“เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรือ?”

“ข้าไม่ได้รู้เพียงแค่นี้ เพื่อเข้าใกล้ท่านอ๋องหรง น้องสี่พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับพระชายาหรง เรื่องที่เกิดขึ้นกับรถม้าวันนั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ท่านปู่ทวดลองตรวจสอบเด็กและแม่ของเด็กที่วิ่งออกไปบนถนนในวันนั้นให้ดี รวมถึงคนขายม้าที่กระโดดออกมาในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ”

ในตอนที่กลับมาถึงจวน ไป๋ชิงหลิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ดูจากท่าทางของนาง ดูสดชื่นและมีเรี่ยวแรงมากกว่าเมื่อวานอยู่มาก

จ้องบอกเลยว่านายผู้เฒ่าปฏิบัติกับเขาดีอย่างยิ่ง

เขาอารมณ์ดีมาก แต่เวลานี้อารมณ์ของนายผู้เฒ่านั้นกำลังเลวร้ายอย่างสุดขีด

อิงซา และทหารองครักษ์เหยี่ยวดำอีกสองสามคนพาตัวคนที่มีส่วนร่วมไปส่งยังห้องโถงบรรพชนของจวนฉางด้วยตัวเอง

ทันทีที่นายผู้เฒ่าเดินมาถึงหน้าประตูของศาลาจิ่นสวี่ ยังไม่ทันได้เข้าไป เสียงของเด็กรับใช้ที่อยู่ในห้องโถงบรรพชนก็ดังขึ้นมา “นายผู้เฒ่า แย่แล้วขอรับ”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ?” นายผู้เฒ่าถามออกมาอย่างอารมณ์เสีย

เสียงของเด็กรับใช้สั่นเทา ชี้ไปทางห้องโถงบรรพชนพร้อมกล่าวว่า “ท่านอ๋องหรง ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของท่านอ๋องหรงพาคนมามากมาย ตอนนี้อยู่ด้านนอกของห้องโถงบรรพชน พวกเขาบอกว่ากำลังรอให้นายผู้เฒ่ามาจัดการ”

นายผู้เฒ่ามีอายุมานานถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าเพียงแค่ได้ยินคำพูดของเด็กรับใช้ก็รู้ถึงเหตุผล เขาหันกลับมาด้วยใบหน้าอันแก่ชราซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ “ไปพาตัวฉางเล่ออันมาที่ห้องโถงบรรพชนแห่งจวนฉาง จากนั้น......ส่งคนไปแจ้งผู้อาวุโส ขอให้พวกเขานำแผ่นลำดับของตระกูลมาด้วย”

“ขอรับ!” พ่อบ้านหวู่รีบจากไปทันที

คุณหนูสี่แห่งตระกูลฉางทำความผิดครั้งใหญ่ และเกรงว่าครั้งนี้นางคงไม่สามารถอยู่ในจวนฉางได้อีกต่อไป

หลังจากที่นายผู้เฒ่าฉางมาถึงห้องโถงบรรพชน อิงซาก็เดินเข้ามา นำรายชื่อในมือมอบให้กับนายผู้เฒ่าฉางพร้อมกับกล่าวว่า “นายผู้เฒ่าฉาง นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องของพวกเราส่งมอบให้ท่าน คนที่อยู่ในรายชื่อทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว”

มือของนายผู้เฒ่าฉางสั่น เปิดรายชื่อดู หลังจากอ่านรายชื่อที่ถูกเขียนด้านในอย่างหนาแน่น เขาก็กวาดสายตามายังพวกของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน......

ในตอนนี้ฉางเล่ออันถูกแม่นมสองคนพาตัวมา และฉางเล่อเหยียนกับแม่นางฉางสามเองก็มาด้วย

แม่นางฉางสามรู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เดินเข้ามาในห้องโถงบรรพชน กลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อนางได้เห็นเหล่าทหารองครักษ์เหยี่ยวดำพร้อมกับพวกที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของห้องโถงบรรพชน แม่นางฉางสามก็รู้ได้ทันทีว่า......เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว!

“ท่านพ่อ คนพวกนี้......”

“เจ้าลองถามลูกสาวของเจ้าเองแล้วกัน!” 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น