ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 666

สรุปบท บทที่ 666 หลิวหานเยียนแก่ขึ้นในพริบตา: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 666 หลิวหานเยียนแก่ขึ้นในพริบตา – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 666 หลิวหานเยียนแก่ขึ้นในพริบตา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

อิงซาพึ่งจะเก็บภาพวาดเสร็จ ติ้งเป่ยโหวกับหลิวหานเยียนก็กลับมาพอดี

เมื่อหลิวหานเยียนเดินเข้าจวน ไป๋ชิงหลิงก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของนางไม่ค่อยดี นางจึงรีบลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง เดินไปหาหลิวหานเยียน:"ท่านแม่ ท่านสีหน้าไม่ค่อยดี เพราะพระชายาอันจวินหรือไม่......"

"ไม่ใช่หรอก เจ้าอย่าคิดมาก ข้าไม่ใช่ตัวข้าในยี่สิบปีที่แล้วอีกแล้ว ต่อกรกับพระชายาจวินได้สบายๆ"หลิวหานเยียนหยุดนางไม่ให้คิดเรื่อยเปื่อย:"ข้าพูดกับนางแล้ว เตือนนางว่าเจ้าจะไม่ส่งหมอหญิงไปจวนอ๋องจวินอีกแล้ว"

"ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่หรือไม่"ไป๋ชิงหลิงมองไปทางติ้งเป่ยโหว

ติ้งเป่ยโหวพยักหน้าอยู่หลายรอบแล้วพูดว่า:"แม่เจ้าอยู่ภายใต้การดูแลของข้า นางจะไม่กล้าทำอะไรแม่เจ้าหรอก"

"ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว เรื่องต่อจากนี้ท่านแม่ไม่ต้องคิดมากแล้ว ข้ากับท่านอ๋องจะเป็นคนจัดการเอง"

และตอนนี้เองที่หรงจิ่งหลินเดินมาที่ข้างกายไป๋ชิงหลิง หลิวหานเยียนลูบตัวของหรงจิ่งหลินเบาๆแล้วพูดว่า:"เจ้าก็ต้องดูแลร่างกายตัวเองให้ดี แม้ว่าชีพจรครรภ์จะดูคงที่แล้ว แต่ก็เกิดอุบัติเหตุอะไรไม่ได้อีกแล้ว มิเช่นนั้น......รอบหน้าคงไม่โชคดีเช่นนี้อีก"

เรื่องของหรงจิ่งหลินนางทราบดี การตั้งครรภ์ครั้งนี้ของไป๋ชิงหลิงสำคัญอย่างมาก

ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวนางเอง แต่ยังเกี่ยวข้องกับชีวิตของลูกทั้งสองคน

ไป๋ชิงหลิงออกเสียง"อื้ม":"ท่านแม่ ท่านวางใจได้ ข้าจะไม่ทำให้พลังวิญญาณที่ท่านให้กับข้าต้องเสียเปล่า"

"ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว"

"ข้าช่วยตรวจดูสักหน่อยดีหรือไม่"

"ไม่ต้องแล้วอาเสวี่ย"หลิวหานเยียนยกมือของนางที่วางอยู่ตรงข้อมือของตัวเองออกเบาๆ:"ร่างกายของข้าข้ารู้ดี ไม่ใช่ยาธรรมดาทั่วไปสามารถรักษาให้หายได้ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เป็นห่วงตัวเองก่อน เช่นนั้นถึงจะเป็นการปลอบใจที่ดีที่สุดสำหรับข้าและท่านอ๋อง"

พูดจบ หลิวหานเยียนก็พูดกับติ้งเป่ยโหวว่า:"ข้าขอกลับจวนก่อน"

"ข้าไปกับเจ้า"

ทั้งสองคนไม่ได้หยุดอยู่นานนัก จากนั้นก็ออกจากลานชิงชิงไป

ไป๋ชิงหลิงมองดูหลิวหานเยียนที่จากไป ไป๋ชงเซิงพูดขึ้นมาว่า:"เสด็จยายดูเหมือนจะแก่ขึ้นเล็กน้อย

ดูแก่ขึ้นเล็กน้อย?

ไป๋ชิงหลิงไม่เข้าใจประโยคนี้ นางก้มหน้ามองไปที่ไป๋ชงเซิง:"เซิงเอ๋อร์ เจ้าพูดอะไรเนี่ย?"

"ท่านแม่ ตอนที่เสด็จยายพึ่งกลับมาที่เมืองหลวงดูอ่อนเยาว์พอๆกับท่านแม่เลย เส้นผมก็เป็นสีดำ แต่หลังจากที่ออกจากห้องของท่านแม่ ผมของท่านก็เปลี่ยนเป็นสีขาวเลย คนก็ดูแก่ขึ้นเป็นสิบปี"ไป๋ชงเซิงพูด

ใจของไป๋ชิงหลิงปวดร้าวยิ่งนัก:"เป็นเพราะข้า"

"เสด็จแม่!"หรงจิ่งหลินเงยหน้า ดึงแขนเสื้อของนางไว้แน่น:"ไม่ได้เป็นเพราะท่านแม่ เป็นเพราะจิ่งหลิน ถ้าหากไม่เป็นเพราะพิษในตัวของจิ่งหลิน เสด็จแม่ก็คงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตอุ้มท้องน้องชาย เมื่อก่อนข้าคาดหวังว่าเสด็จแม่จะคลอดน้องชายให้ข้าอีกสักคน แต่ตอนนี้ข้าหวังเพียงให้เสด็จแม่และเสด็จยายอยู่อย่างปลอดภัย

ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วหนักขึ้น มือสองข้างวางอยู่บนหัวของลูกทั้งสอง หันหน้าพูดกับหรงเยี่ยงว่า:"จวนอ๋องจวินข้าไปแน่นอน ยิ่งหาเด็กคนนั้นไม่เจอนานเท่าไหร่ โรคใจของท่านแม่ข้าก็หายยากเท่านั้น ความเจ็บปวดที่เสียลูกไปเช่นนั้น......ข้าเข้าใจดี"

หรงเยี่ยลมหายใจหนักหน่วง

เวลานี้เอง หงเหนียงพาวั่นฝูกงกงเข้ามา

"ท่านอ๋อง พระชายา วั่นกงกงมาถึงแล้ว

คนในลานก็ดึงสติกลับมา วั่นฝูเป็นขันทีติดตามที่เยาว์วัยคนใหม่ที่จักรพรรดิเหยาได้แต่งตั้งขึ้นมาไม่นานนี้ เป็นคนดีคนเด่นของจักรพรรดิเหยา

หลังจากที่เขาคำนับต่อท่านอ๋องหรงและไป๋ชิงหลิงเรียบร้อยแล้ว ก็พูดขึ้นว่า:"ท่านอ๋องหรง ฝ่าบาททรงมีเรื่องด่วนเรียกท่านเข้าวัง ขอให้ท่านเข้าพบที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อปรึกษาพูดคุยบัดเดี๋ยวนี้"

ไป๋ชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ ก็รู้ทันทีว่าวันหยุดของหรงเยี่ยจบลงแล้ว

นางพูดเสียงเบาว่า:"ท่านอ๋อง ไปเถอะ"

นางรู้เพียงหรงเยี่ยลงโทษแม่หญิงฉางสี่และเหยาชุนซึ่งเป็นนางกำนัลข้างกายของเขาเพื่อนางเท่านั้น

"ก็ไม่ระวังเกินไป หวาดเสียวเกินไป"ไป๋ชิงหลิงพูด:"หลายวันนี้ไม่ว่าจะเป็นคนของจวนอ๋องจวินหรือคนของตระกูลฉาง ต่างก็ปฏิเสธไปเสียเถอะ จะได้ไม่ทำให้ท่านอ๋องที่ได้ยินว่าข้าติดต่อกับคนพวกนั้นแล้วกังวลใจ"

"พระชายาคิดเช่นนี้ก็ดีแล้ว"

"ผ่านเรื่องครั้งนั้นไป ข้าก็กลัวแล้วล่ะ ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นอีก ข้าในตอนนี้คือแม่ที่มีลูกสามคนแล้ว"นางก้มหน้ามองไปที่ลูกสองคน

และสังเกตเห็นขอบตาที่แดงขึ้นของไป๋ชงเซิง เมื่อเห็นไป๋ชิงหลิงมองมาที่นาง นางจึงหันหลังแล้วแอบเช็ดน้ำตา

ไป๋ชิงหลิงสะอื้นไปหนึ่งที จากนั้นก้มตัวลง นำมือวางไว้ที่ไหล่ของไป๋ชงเซิงแล้วพูดว่า:"เซิงเอ๋อร์ เป็นอะไรไป?"

ไป๋ชงเซิงไม่ได้สนใจนาง เช็ดน้ำตาต่อไป ร้องไห้โดยไม่ออกเสียง

แม่นมซั่งจึงรีบเดินมาตรงหน้าของนาง ย่อตัวลงแล้วพูดว่า:"นายหญิงตัวน้อย ทำไมถึงร้องไห้เพคะ?"

หรงจิ่งหลินพูดขึ้นว่า:"น้องแอบร้องไห้อยู่หลายครั้ง"

"นายหญิงตัวน้อย ร้องไห้ทำไมหรือเพคะ มีเรื่องไม่สบายใจบอกกับข้าได้"แม่นมซั่งปลอบใจด้วยความอ่อนโยน

ไป๋ชงเซิงหันหน้ามองไปที่ไป๋ชิงหลิง พูดว่า:"ข้าก็ไม่อยากให้ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นอีก เพราะเห็นหมอหลวงมากมายเข้าๆออกๆ ตอนที่รอคอยอย่างร้อนรนนั้นเซิงเอ๋อร์กลัวมากจริงๆ"

ไป๋ชิงหลิงสะอึกสะอื้นขึ้นมาทันที

นางกัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว ลูบหัวของไป๋ชงเซิงอย่างอ่อนโยน

นางไม่ได้รับปากกับไป๋ชงเซิงว่าอนาคตจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้อีก เพราะเรื่องบางเรื่องคนเราไม่อาจคาดเดาได้

แม้ว่าตอนนี้ชีพจรครรภ์ของนางจะคงที่ สามารถผ่านช่วงอุ้มท้องได้อย่างสงบ แต่หมอซูบอกว่ายังเหลือด่านเป็นด่านตายอยู่อีกด่านหนึ่ง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น