ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 667

ไป๋ชิงหลิงก้มตัวลงกอดลูกทั้งสองเข้าสู่อ้อมอก ลูบหลังปลอบใจอย่างอ่อนโยน

"เซิงเอ๋อร์ จิ่งหลิน พวกเราไม่สามารถคาดเดาเรื่องในอนาคตได้ แต่พวกเราสามารถรักษาและทะนุถนอมช่วงเวลาตอนนี้ได้"

ไป๋ชงเซิงพูดพร้อมกับน้ำตาคลอว่า:"ท่านแม่ หมายความว่าอะไรหรือ"

"หมายความว่าสามารถทะนุถนอมคนอย่างเจ้าที่จับต้องได้ ความตายและการจากลาไม่น่ากลัว เพราะความตายเป็นวงจรสุดท้ายของทุกชีวิตอยู่แล้ว แต่ขอเพียงเจ้าสามารถจดจำคนเหล่านั้นที่ตายจากไปได้ เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่หายไปไหน"นางค่อยๆอธิบายอย่างใจเย็น

ไป๋ชงเซิงไม่เข้าใจคำพูดของนาง แต่หรงจิ่งหลินกลับเห็นความตายเป็นเรื่องปกติ

"เสด็จแม่ ท่านเหนื่อยมากไม่ได้ กลับห้องพักผ่อนเถอะขอรับ"หรงจิ่งหลินพูดขึ้นเพราะรู้ความ

ไป๋ชงเซิงก็คิดขึ้นมาได้ จึงรีบขยี้ตาตัวเอง เอาตัวออกจากอ้อมอกของไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า:"ท่านแม่ เสด็จพ่อไม่อยู่ที่จวนโหว ท่านจะดื้อไม่ได้ รีบกลับห้องพักฟื้นร่างกายเถอะเพคะ"

"เช่นนั้นเจ้าก็ห้ามร้องไห้อีกแล้ว"

"ข้าไม่ร้องแล้วเพคะ"แม้ว่าไป๋ชงเซิงไม่ได้ร้องไห้อีก แต่ดวงตาทั้งสองยังคงแดงอยู่

ไป๋ชิงหลิงเห็นด้วยตาแต่เจ็บปวดอยู่ในใจ

หลังจากนั้นสามวัน หรงเยี่ยก็อยู่ในวังตลอด

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกลึกๆได้ว่าในวังต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ อิงเหลียนกลับมาจากข้างนอก ไป๋ชิงหลิงจึงถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวังกับนาง

อิงเหลียนพูดว่า:"เหล่าขุนนางแม่ทัพทั้งหลายต่างก็คอยอยู่ที่ตำหนักเฉียนชิง ท่านอ๋องหรง ท่านผู้เฒ่าเสิ่น หวู่กั๋วกงทั้งหลายกำลังปรึกษาหารือกันเรื่องการแต่งตั้งฮองเฮา สามวันเต็มๆ ท่านอ๋องก็ยังไม่ได้ออกมา ส่วนเรื่องที่ว่าจะเลือกใครขึ้นเป็นฮองเฮานั้น ฝ่าบาทยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ในวังมีการกระจายข่าวกันว่า......จะแต่งตั้งเหอเฟยขึ้นเป็นฮองเฮา"

"เหอเฟย!"ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

ในความทรงจำของนาง เหอเฟยเป็นคนขี้อิจฉา ชาติตระกูลเบื้องหลังก็ไม่ดี แต่กลับชอบออกหน้าออกตา

ตอนเยาว์วัยเคยก่อเรื่องผิดพลาดไว้ จึงถูกจักรพรรดิเหยาเพิกเฉยเย็นชาอยู่หลายปี

คงรู้ว่าตัวเองจะไม่มีวันได้เฉิดฉาย ก็ได้สงบเงียบไปอยู่หลายปี

คิดไม่ถึงว่าการจากไปของฮองเฮาตระกูลอู่ทั้งสองคน จะทำให้คนโง่ได้เก็บผลประโยชน์ไป

แต่ว่า ไป๋ชิงหลิงคิดยังไงก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจักรพรรดิเหยาถึงได้เลือกนาง

"เทศกาลโคมไฟใกล้เข้ามาแล้ว ฝ่าบาทอยากจะเลือกฮองเฮาให้ได้ทันเทศกาลโคมไฟ เพื่อจะได้จัดงานแต่งตั้งฮองเฮาพร้อมกับวันเทศกาลโคมไฟเลย เกรงว่าท่านอ๋องคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะถอนตัวออกมาได้ เมื่อวานท่านอ๋องเฉินก็ถูกเรียกไปเข้าวังแล้วเพคะ"

"เรียกพบท่านอ๋องเฉินกับท่านอ๋องหรงเพียงสองคนหรือ?"

"เพคะ!"อิงเหลียนพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า:"และมีคนพูดว่า ฝ่าบาทอยากจะเลือกหนึ่งในสองจากท่านอ๋องหรงและท่านอ๋องเฉินเพื่อรับตำแหน่งรัชทายาท"

"แล้วท่านอ๋องอันจวินได้เข้าวังหรือไม่"

"เข้าเพคะ แต่เมื่อวานได้กลับจวนอ๋องอันจวินไปแล้ว ได้ยินว่าทางด้านพระชายาอันจวินเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น"

อ๋องอันจวินถือว่าเป็นแขนซ้ายแขนขวาของจักรพรรดิเหยา ทุกครั้งที่ในวังมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น จะขาดอ๋องอันจวินไปไม่ได้

อยู่ๆน้ำเสียงของอิงเหลียนก็เปลี่ยนไปแล้วพูดว่า:"และอีกเรื่องก็คือ พระชายาอันจวินหลายวันมานี้ได้ส่งคนมาหาพระชายาทุกวันเพคะ"

"ส่งคนมาหาข้า?"ไป๋ชิงหลิงเงยหน้ามองไปที่อิงเหลียน

อิงเหลียนพยักหน้าแล้วพูดว่า:"แต่ว่า แม่นมของพระชายาอันจวินคนนั้นพึ่งจะบอกที่มา ก็ถูกทหารองครักษ์เหยี่ยวดำไล่ออกไปก่อน"

ไป๋ชิงหลิงก้มหน้ายิ้ม:"เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องจริง ที่ท่านอ๋องได้เปลี่ยนองครักษ์ของจวนโหวเป็นทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ ให้พวกเจ้าทหารองครักษ์เหยี่ยวดำคุ้มกันผู้หญิงคนหนึ่งอย่างข้า ไม่เป็นธรรมต่อพวกเจ้าจริงๆ"

"พระชายาพูดอะไรเพคะ ปกป้องพระชายาก็เหมือนกับปกป้องประเทศ ขอแค่พระชายาปลอดภัย ท่านอ๋องถึงจะสามารถวางใจทำงานเพื่อบ้านเมือง"อิงเหลียนหลุดยิ้มออกมา

ไป๋ชิงหลิงคิดว่าคำพูดของนางมีเหตุผลดี จึงไม่ได้โต้เถียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น