จิ้นฮวารีบหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนฉากบังลงมา คลุมเข้าที่ตัวของไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงก้มตัวมอง ยื่นมาจับเข้าเบาๆแล้วพูดว่า:"ท่านองค์รัชทายาท ท่านพึ่งรับตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาท คงจะยุ่งอยู่ไม่น้อย......"
"พูดดีๆ อย่ามาพูดจาเหน็บแนม"หรงเยี่ยเงยหน้ามองไปที่นาง
มุมมองแบบนี้ทำให้ขอบตาของเขาดูชัดขึ้น ไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันหลายวัน ดวงตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด
ไป๋ชิงหลิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังโกรธอะไรอยู่......
ตั้งแต่ตอนที่นำพระราชโองการจากจงซูลิ่งมาประกาศจนถึงตอนนี้ นางรู้สึกถึงแรงกดดันหนึ่งที่กดทับอยู่ในใจตลอดเวลา
จนทำให้เกิดความรู้สึกกลัวและสับสนกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงทำให้เกิดความสงสัยครั้งใหญ่ในความรักระหว่างเขาสองคน
ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แต่เพราะ......ความรักสามารถคงอยู่ไปกับพวกเขาได้ตลอดจริงหรือ
นางดึงมือของตัวเองออกจากมือของเขาอย่างแรง ฝ่ายชายก็ลุกขึ้นทันที แม่นมซั่งก็ถึงกับตกใจจนร้องออกมาโดยจิตใต้สำนึกว่า:"ท่านอ๋อง ท่านต้องคอยระวังพระกายาของพระชายานะเพคะ ท่านยังอุ้มท้องอยู่!"
แม่นมซั่งปากไวจนลืมไปว่าตอนนี้เจ้านายของตัวเองเป็นถึงองค์รัชทายาทแล้ว
แต่คนใช้ทั้งหลายบวกกับติ้งเป่ยโหวต่างก็ไม่รู้ตัว
แต่ไป๋ชิงหลิงกลับเป็นคนแรกที่รู้ตัว:"แม่นมซั่ง เจ้าเรียกผิด ตอนนี้เขาเป็นองค์รัชทายาทแล้ว"
"พวกเจ้าออกไปก่อน"หรงเยี่ยกวาดตามองคนใช้และติ้งเป่ยโหวที่อยู่ในห้อง
แม่นมซั่งพูดว่า:"เพคะ ท่านค่อยพูดค่อยจานะเพคะ พระชายา......เจ้านายน้อยพึ่งมาอยู่ได้หนึ่งวัน หม่อมฉันกับติ้งเป่ยโหวดูแลเจ้านายน้อยอยู่ตลอดเพคะ"
"แม่นมซั่งออกไปก่อนเถอะ"ไป๋ชิงหลิงพูด
นางอยากรู้พอดีว่าทำไมจูเอ๋อร์ถึงอยู่นอกวัง
ภายในวังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่นานนักคนในห้องก็ถอยออกไป หรงเยี่ยเข้าไปกอดไป๋ชิงหลิงไว้ อุ้มนางวางลงบนตักเบาๆ
ไป๋ชิงหลิงบิดหน้าไปทางอื่น ในใจยังคงโกรธอยู่
เขาจึงจับใบหน้าเล็กๆของนางแล้วหันมาตรงหน้าตัวเอง:"หันกลับมา มองข้า!"
"เจ้ามีดีอะไรให้มอง"ไป๋ชิงหลิงพูดด้วยความไม่พอใจ
"ข้าดูดีหรือไม่ดี เจ้าไม่รู้หรือ ยังโกรธอยู่หรือ ข้าแค่ว่าเจ้าไปสองสามคำ ดูเจ้าสิเจ้าพูดอะไรที่ไม่น่าฟังเช่นนั้นออกมา เจ้ากลับกลายเป็นฝ่ายที่มีเหตุมีผลซะอย่างนั้น"
หรงเยี่ยก็พูดออกมาด้วยความหงุดหงิด
แม้ว่าในใจยังคงโกรธอยู่ แต่ยังไงผู้หญิงในอ้อมอกคนนี้ก็เป็นภรรยาที่เขาเลือกมาเอง เขาจะโกรธแค่ไหนก็ปล่อยไว้เช่นนี้ไม่ได้
เขาทนดูนางที่พูดจาเย็นชากับตน และท่าทีที่เหน็บแนมแบบนี้ไม่ไหว
นางยังทรมานเขาไม่พอหรือ
เขากอดหัวของนางไว้แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของนาง แต่ไป๋ชิงหลิงดันเขาออก
นางเอามือข้างหนึ่งวางไว้ที่คางของเขาแล้วพูดว่า:"เจ้าไม่มีอะไรจะบอกกับข้าเลยหรือ"
"ไม่ใช่ว่าข้าอยากเป็นองค์รัชทายาท"
"เจ้าเป็นลูกแท้ๆของฉุ๋นฮองเฮา เจ้าไม่เป็นองค์รัชทายาท แล้วใครจะเป็น ที่ข้าจะถามเจ้าก็คือทำไมจูเอ๋อร์ถึงออกวังมากับเจ้า เจ้าอย่าตอบข้าว่า นางมุดรูสุนัขออกมาเอง แล้วเจ้าไปจับได้พอดี"
"ไม่แน่นอน!"หรงเยี่ยนำมือของนางที่วางไว้ตรงคางมาประกบที่ริมฝีปากของตัวเอง:"เช่นนั้นเจ้าบอกข้าสิ เจ้ายังโกรธอยู่หรือไม่"
"ข้าจะโกรธอะไรล่ะ?"นางดึงมือตัวเองกลับ หันตัวไปอีกข้าง ไม่ยอมมองหน้าเขา:"เดิมทีข้าก็ทำไม่ถูกอยู่แล้ว และทำให้เจ้าเป็นกังวลเพราะข้าอีก ข้าจะย้ายกลับจวนอ๋องกับเจ้าเดี๋ยวนี้เลย การเป็นการตายของพระชายาอันจวิน หรือจวิ้นอ๋องน้อยจะกลับมาเดินได้อีกหรือไม่ เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับข้า"
ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนาง หรงเยี่ยไม่เพียงไม่รู้สึกสบายใจขึ้น แต่กลับทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิม......
"แล้วเสด็จแม่ล่ะ ท่านผมขาวภายในคืนเดียวก็เพื่อเจ้า นับวันก็ยิ่งแก่ขึ้น ก็ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...