ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 675

จิ้นฮวารีบหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนฉากบังลงมา คลุมเข้าที่ตัวของไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงก้มตัวมอง ยื่นมาจับเข้าเบาๆแล้วพูดว่า:"ท่านองค์รัชทายาท ท่านพึ่งรับตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาท คงจะยุ่งอยู่ไม่น้อย......"

"พูดดีๆ อย่ามาพูดจาเหน็บแนม"หรงเยี่ยเงยหน้ามองไปที่นาง

มุมมองแบบนี้ทำให้ขอบตาของเขาดูชัดขึ้น ไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันหลายวัน ดวงตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด

ไป๋ชิงหลิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังโกรธอะไรอยู่......

ตั้งแต่ตอนที่นำพระราชโองการจากจงซูลิ่งมาประกาศจนถึงตอนนี้ นางรู้สึกถึงแรงกดดันหนึ่งที่กดทับอยู่ในใจตลอดเวลา

จนทำให้เกิดความรู้สึกกลัวและสับสนกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงทำให้เกิดความสงสัยครั้งใหญ่ในความรักระหว่างเขาสองคน

ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แต่เพราะ......ความรักสามารถคงอยู่ไปกับพวกเขาได้ตลอดจริงหรือ

นางดึงมือของตัวเองออกจากมือของเขาอย่างแรง ฝ่ายชายก็ลุกขึ้นทันที แม่นมซั่งก็ถึงกับตกใจจนร้องออกมาโดยจิตใต้สำนึกว่า:"ท่านอ๋อง ท่านต้องคอยระวังพระกายาของพระชายานะเพคะ ท่านยังอุ้มท้องอยู่!"

แม่นมซั่งปากไวจนลืมไปว่าตอนนี้เจ้านายของตัวเองเป็นถึงองค์รัชทายาทแล้ว

แต่คนใช้ทั้งหลายบวกกับติ้งเป่ยโหวต่างก็ไม่รู้ตัว

แต่ไป๋ชิงหลิงกลับเป็นคนแรกที่รู้ตัว:"แม่นมซั่ง เจ้าเรียกผิด ตอนนี้เขาเป็นองค์รัชทายาทแล้ว"

"พวกเจ้าออกไปก่อน"หรงเยี่ยกวาดตามองคนใช้และติ้งเป่ยโหวที่อยู่ในห้อง

แม่นมซั่งพูดว่า:"เพคะ ท่านค่อยพูดค่อยจานะเพคะ พระชายา......เจ้านายน้อยพึ่งมาอยู่ได้หนึ่งวัน หม่อมฉันกับติ้งเป่ยโหวดูแลเจ้านายน้อยอยู่ตลอดเพคะ"

"แม่นมซั่งออกไปก่อนเถอะ"ไป๋ชิงหลิงพูด

นางอยากรู้พอดีว่าทำไมจูเอ๋อร์ถึงอยู่นอกวัง

ภายในวังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ไม่นานนักคนในห้องก็ถอยออกไป หรงเยี่ยเข้าไปกอดไป๋ชิงหลิงไว้ อุ้มนางวางลงบนตักเบาๆ

ไป๋ชิงหลิงบิดหน้าไปทางอื่น ในใจยังคงโกรธอยู่

เขาจึงจับใบหน้าเล็กๆของนางแล้วหันมาตรงหน้าตัวเอง:"หันกลับมา มองข้า!"

"เจ้ามีดีอะไรให้มอง"ไป๋ชิงหลิงพูดด้วยความไม่พอใจ

"ข้าดูดีหรือไม่ดี เจ้าไม่รู้หรือ ยังโกรธอยู่หรือ ข้าแค่ว่าเจ้าไปสองสามคำ ดูเจ้าสิเจ้าพูดอะไรที่ไม่น่าฟังเช่นนั้นออกมา เจ้ากลับกลายเป็นฝ่ายที่มีเหตุมีผลซะอย่างนั้น"

หรงเยี่ยก็พูดออกมาด้วยความหงุดหงิด

แม้ว่าในใจยังคงโกรธอยู่ แต่ยังไงผู้หญิงในอ้อมอกคนนี้ก็เป็นภรรยาที่เขาเลือกมาเอง เขาจะโกรธแค่ไหนก็ปล่อยไว้เช่นนี้ไม่ได้

เขาทนดูนางที่พูดจาเย็นชากับตน และท่าทีที่เหน็บแนมแบบนี้ไม่ไหว

นางยังทรมานเขาไม่พอหรือ

เขากอดหัวของนางไว้แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของนาง แต่ไป๋ชิงหลิงดันเขาออก

นางเอามือข้างหนึ่งวางไว้ที่คางของเขาแล้วพูดว่า:"เจ้าไม่มีอะไรจะบอกกับข้าเลยหรือ"

"ไม่ใช่ว่าข้าอยากเป็นองค์รัชทายาท"

"เจ้าเป็นลูกแท้ๆของฉุ๋นฮองเฮา เจ้าไม่เป็นองค์รัชทายาท แล้วใครจะเป็น ที่ข้าจะถามเจ้าก็คือทำไมจูเอ๋อร์ถึงออกวังมากับเจ้า เจ้าอย่าตอบข้าว่า นางมุดรูสุนัขออกมาเอง แล้วเจ้าไปจับได้พอดี"

"ไม่แน่นอน!"หรงเยี่ยนำมือของนางที่วางไว้ตรงคางมาประกบที่ริมฝีปากของตัวเอง:"เช่นนั้นเจ้าบอกข้าสิ เจ้ายังโกรธอยู่หรือไม่"

"ข้าจะโกรธอะไรล่ะ?"นางดึงมือตัวเองกลับ หันตัวไปอีกข้าง ไม่ยอมมองหน้าเขา:"เดิมทีข้าก็ทำไม่ถูกอยู่แล้ว และทำให้เจ้าเป็นกังวลเพราะข้าอีก ข้าจะย้ายกลับจวนอ๋องกับเจ้าเดี๋ยวนี้เลย การเป็นการตายของพระชายาอันจวิน หรือจวิ้นอ๋องน้อยจะกลับมาเดินได้อีกหรือไม่ เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับข้า"

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนาง หรงเยี่ยไม่เพียงไม่รู้สึกสบายใจขึ้น แต่กลับทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิม......

"แล้วเสด็จแม่ล่ะ ท่านผมขาวภายในคืนเดียวก็เพื่อเจ้า นับวันก็ยิ่งแก่ขึ้น ก็ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรือ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น