ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 676

หรงเยี่ยลูบหัวของนางเบาๆ:"พระชายาหราว"

ไป๋ชิงหลิงยิ้มแห้ง:"ถ้าหากนางกล้าทำร้ายเชื้อพระวงศ์ ก็หมายความว่านางก็ทำร้ายตัวนางเองด้วยเช่นกัน"

"พระชายา เรื่องอุบัติเหตุบางอย่างนางไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเอง เสด็จพ่อพึ่งประสบกับเหตุการณ์วัดเต๋อหลินมา จึงไม่กล้าประมาทอีกแล้ว"

"อ๋องหราว......เขาไม่เหมือนหรงฉี่ คงไม่กล้ามีความทะเยอทะยานเช่นนั้นหรอก"

หรงเยี่ยไม่ได้เก็บอ๋องหราวไว้ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แต่ว่า คนชั่วบางคนขี้ขลาดกลัวตาย แต่ไม่แปลว่าคนแบบนั้นจะไม่กล้าทำเรื่องสกปรกลับหลัง

"มีความทะเยอทะยานสูง แต่ความกล้ากลับเท่าเมล็ดงา เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาทำอะไรลับหลังไปบ้าง"จากนั้นหรงเยี่ยก็ยกถ้วนซุปที่เย็นไปแล้วตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมด จากวางถ้วนลง แล้วก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า:"ให้ผู้หญิงคนหนึ่งออกหน้าทำงานเพื่อเขา"

"พระชายาหราว?"

"ใช่แล้ว!"พูดจบ หรงเยี่ยก็จับคางของนางจากนั้นก็จูบลงที่ริมฝีปาก

นางอยากขัดขืน แต่ถูกเขากอดไว้อย่างแน่น นางขัดขืนไม่ไหว

เขากอดนางแบบนี้แล้วจูบอยู่นาน จนไม่มีอารมณ์โกรธใดๆแล้ว เขาถึงปล่อยตัวนางออก มองดูผู้หญิงในอ้อมอกด้วยสีหน้าที่ได้ใจและคลั่งรัก:"พระชายาคืนนี้แช่อยู่ในถังน้ำส้มสายชูสินะ(หมายถึงการหึงหวง)"

"ถังน้ำส้มสายชูอะไรกัน?"

"ข้ายังไม่ทันขึ้นเป็นจักรพรรดิเลย เจ้าก็เริ่มคิดสมมตินางสนมขึ้นมามากมายจนเปรี้ยวปาก(หึงหวง)ตัวเองซะแล้ว!"

ไป๋ชิงหลิงตบเข้าที่หน้าอกของเขา ก็นึกได้ว่าคืนนี้ตนเองดูไร้เหตุผลยิ่งนัก ความรู้สึกอับอายก็พุ่งสูงขึ้น

นางกัดฟันพูด:"ใครกินเปรี้ยว ใครชอบกินเปรี้ยวกัน อาหารคืนนี้ไม่มีรสเปรี้ยวแม้แต่น้อย"

หรงเยี่ยหัวเราะเสียงดัง:"ข้ายังไม่ทันกิน ทำไมถึงรู้สึกเปรี้ยวๆแล้วล่ะ"

นางกัดริมฝีปาก ตบเข้าที่ไหล่ของเขาอีกครั้ง เขาจับข้อมือของนางไว้ทันที ก้มหน้าจูบเข้าที่ริมฝีปากของนางอีกครั้งด้วยความเร้าร้อน

และเมื่อเขาปล่อยนางออก ทั้งสองคนก็ไม่อยากคุยเรื่องที่ชวนทะเลาะอีกแล้ว:"ในเมื่อมาก็มาแล้ว และเจ้าก็มีแผนการของตัวเองด้วย เช่นนั้นก็ทำตามแผนของเจ้าเถอะ"

"ไม่โกรธแล้วหรือ?"

"ข้าจะไปโกรธอะไรล่ะ!"

"เจ้าตอนนี้ควรจะแก้คำเรียกตัวเองว่าข้า(ฝ่าบาท)แล้วหรือยัง"ไป๋ชิงหลิงถาม

หรงเยี่ยขมวดคิ้ว:"ยังไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ"

"ในเมื่อเสด็จพ่อมีความคิดที่จะจัดพิธีแต่งตั้งฮองเฮาในเทศกาลโคมไฟ พิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทก็คงอีกไม่ช้าแล้ว ถึงตอนนั้น......คงจะยุ่งมากสินะ ได้ยินมาว่า ปีหน้าเดือนสองช่วงเริ่มฤดูใบไม้ผลิ จะมีการจัดงานเลือกบัณฑิตประจำปีขึ้น คิดว่าเสด็จพ่อไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ๆ ปล่อยให้เจ้ารอนาน!"

หรงเยี่ยหรี่ตาลง อุดปากที่พูดเก่งของนางไว้ จูบลงอย่างลึกซึ้ง

ในจังหวะที่นางจะหายใจไม่ทัน เขาถึงปล่อยนางออก บีบหน้าเล็กๆของนางแล้วพูดว่า:"อย่าคิดว่ามีครรภ์แล้วข้าจะไม่กล้าลงโทษเจ้า"

"รสนิยมแปลก"

"ข้าตั้งใจไปสอบถามหมอซูมาโดยเฉพาะ"

ไป๋ชิงหลิงตัวแข็งทื่อ จ้องไปที่เขา

"หลังผ่านสามเดือนอย่างสงบไปได้แล้ว ถ้าระวังหน่อยก็พอมีได้อยู่"

"เจ้าคิดอะไรเนี่ย ตอนนี้พึ่งสองเดือนนิดๆ!"ไป๋ชิงหลิงดันเขาออกแล้วพูดต่อว่า:"หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงฮั่วคอยอยู่ข้างนอกนานแล้ว ข้าออกไปดูก่อน เจ้าใส่ใจหน่อย อย่าให้จูเอ๋อร์อยู่ที่จวนอ๋องอันจวิน พานางมาที่จวนอ๋องหรงเถอะ ข้าเชื่อฟังเจ้า ขอแค่สามารถเข้าออกจวนอ๋องอันจวินได้สะดวก ข้าไม่พักอยู่ที่นี้ก็ได้"

วิธีที่ดีที่สุดคือ สามารถให้จวิ้นอ๋องน้อยกลับไปที่โรงหมอฮุ่ยหมิน

แต่ว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ของพระชายาอันจวินแล้ว พระชายาอันจวินไม่มีทางปล่อยให้นางพาจวิ้นอ๋องน้อยกลับไปที่โรงหมอของนางอีกแน่นอน

ดังนั้น จัดสร้างห้องผ่าตัดชั่วคราวจึงเป็นเรื่องจำเป็น และต้องไม่ใช่ห้องผ่าตัดเล็กๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น