ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 678

สรุปบท บทที่ 678 ตบปาก: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 678 ตบปาก – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 678 ตบปาก ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฉางเล่ออันดูสับสน นางหันกลับมามองหรงเยียน แล้วเอามือปิดปากและร้องไห้ด้วยความน้อยอกน้อยใจ"เล่ออัน......เล่ออันจำได้แล้ว ขอภัยจวิ้นอ๋องน้อย วันนั้นแม่นมข่งพาเล่ออันกลับมาที่สวนชิงฮุย ข้าเลยถามแม่นมข่งว่าคนที่เข้าออกห้องของจวิ้นอ๋องน้อยช่วงสองสามวันนี้เป็นใคร แม่นมข่งบอกว่านางเป็นหมอหญิงที่ดูแลจวิ้นอ๋องน้อย ตอนนั้นเล่ออันคิดว่าเป็นแค่หมอหญิงเหตุใดจึงต้องทำตัวสนิทสนมกับจวิ้นอ๋องน้อยขนาดนั้น"

"เล่ออันไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เล่ออันแค่อยากปกป้องตำแหน่งของตนเอง ไม่อยากให้ใครมาบุกรุกพื้นที่ของตนเอง ดังนั้น.....ดังนั้นจึงด่าหมอหญิงคนนั้นไป แต่ข้าไม่เคยตีนางนะ ข้าแค่ด่านางไปสองสามคำ แต่มาวันนี้.....ใครก็ไม่รู้จู่ๆก็มาผลักเล่ออันตกทะเลสาบ อยากให้เล่ออันตาย"

นางค่อยๆเอามือที่ปิดหน้าของตนเองออก

เผยให้เห็นใบน้าที่เต็มไปด้วยรอยกรงเล็บชัดเจนยิ่งขึ้น

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ใบหน้าของฉางเล่ออันทันที โดยเฉพาะบริเวณที่นางกำลังปกปิดเมื่อกี้ ถือเป็นจุดที่ร้ายแรงที่สุด มีรอยกรงเล็บหลายรอยรวมอยู่ที่บริเวรนั้น

แม่นมข่งอุทาน"แม่นางฉาง เหตุใดใบหน้าท่านถึงมีแผลเยอะเช่นนี้"

มี่เอ๋อร์คนรับใช้ที่ติดตามฉางเล่อพูดว่า"วันนี้แม่นางเกือบจมน้ำตาย มีคนผลักนางลงไปในทะเลสาบและใช้โอกาสที่แม่นางกำลังดิ้นรนทำให้ใบหน้าของนางเสียหาย สรุปแล้วแม่นางรังแกเขาหรือเขาแอบทไร้ายแม่นางโดยมีจวิ้นอ๋องน้อยคอยปกป้องอยู่กันแน่"

"ตบปาก!" ดวงตาของไป๋ชิงหลิงหลุบลง และนางพูดออกไปอย่างไม่เกรงใจ

อิงเหลียนที่อยู่ด้านหลังไป๋ชิงหลิงอย่างเงียบๆ เดินไปหามี่เอ๋อร์ทันทีและตบหน้านางอย่างแรง

"โอ๊ย!"

อิงเหลียนเคยฝึกศิลปะป้องกันตัวมาก่อน การตบครั้งนี้ทำให้มี่เอ๋อร์ผู้บอบบางต้องทนทุกข์ทรมาน

เมื่อฟันหน้าสองซี่หลุดออกมา

อิงเหลียนชี้ไปที่มี่เอ๋อร์และเตือนอย่างดุเดือด"ถ้านายท่านไม่ได้ถาม เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์พูด"

มี่เอ๋อร์ไม่กล้าพูดอีกต่อไป นางทำได้เพียงร้องไห้พร้อมกับเลือดที่เต็มปาก

หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงฮั่วที่ตามไป๋ชิงหลิงมาต่างก็เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

พระชายาหรงใช้โอกาสในการตรวจร่างกายของจวิ้นอ๋องน้อยในการระบายความโกรธของตนเอง

ไป๋ชิงหลิงจัดแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดเสียงดัง"นี่ไม่ใช่วันแรกที่ข้ารู้จักหมิงฮุ่ย ข้ารู้จักนางดี นางไม่เคยโกหก และไม่เคยตื่นตระหนก ผิงถิงไปพาตัวนางมา วันนี้ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ ถ้าคนของข้าไปรังแกผู้อื่นจริง ข้าก็จะจัดการเอง แต่ถ้าคนอื่นมาแตะต้องคนของข้าเมื่อไหร่ ข้าก็จะไม่เกรงใจเด็ดขาด"

ดวงตาของนางเย็นชามาก ฉางเล่ออันตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อสบตากับนาง

ในใจของนางนั้นดูถูกไป๋ชิงหลิงเสมอ นางคิดว่าไป๋ชิงหลิงอาศัยลูกทั้งสองคนเพื่อให้ได้ตำแหน่ง นอกจากจะคลอดลูกแล้วอย่างอื่นก็ทำอะไรไม่เป็น ดังนั้นนางจึงไม่ได้สนใจไป๋ชิงหลิงมากนัก

แต่สายตาครั้งนี้ของไป๋ชิงหลิงทำให้ฉางเล่ออันต้องพิจารณาศัตรูคนนี้ใหม่

ไม่นานหลังจากนั้นไป๋หมิงฮุ่ยก็เดินตามอีผิงถิงเข้ามาในห้อง

เมื่อแม่นมซั่งเห็นความผิดปกตินี้ นางก็เดินตามเข้ามาด้วย

นางกังวลเรื่องร่างกายของไป๋ชิงหลิง ถ้านางไม่เฝ้าดูไว้ก็คงจะไม่สบายใจ

หลังจากที่ไป๋หมิงฮุ่ยเข้ามานางก็ทำความเคารพจวิ้นอ๋องน้อย

จวิ้นอ๋องน้อยมองไปที่หน้านาง

ผ่านมาสองสามวันแล้ว อาการบาดเจ็บบนใบหน้าของไป๋หมิงฮุ่ยก็หายดีแล้วเพียงแค่ตอนนี้นางดูไม่แยแสอะไรเลย นางไม่แม้แต่จะมอองหน้าเขาด้วยซ้ำ

หรงเยียนนิ่งอึ้งไป"หมิงฮุ่ย"

"ใช่หน่ะสิ หมิงฮุ่ยเป็นคนที่ประพฤติตัวดี นางมีความน่าเชื่อถือมากในโรงหมอฮุ่ยหมิน ทำไมข้าถึงจะไม่เชื่องนางล่ะ"ไป๋ชิงหลิงถามกลับ

ฉางเล่อเห็นว่านางมุ่งเป้าไปที่นางทุกที่ และคิ้วของนางก็ค่อยๆหดลง"พระชายาก็ยังคงตำหนิเล่ออันที่วันนั้นเล่ออันไม่ดูรถม้าให้ดี"

ฉางเล่อเห็นว่าเธอมุ่งเป้าไปที่เธอทุกที่ และคิ้วของเขาก็ลดลงอย่างช้าๆ: "เจ้าหญิงยังคงตำหนิลีอันที่ไม่มองดูรถม้าในวันนั้น"

"ฉางเล่ออัน ข้ากำลังพูดเรื่องที่เจ้าตีหมิงฮุ่ยอยู่ เจ้าหยุดพูดเรื่องรถม้านั่นได้แล้ว เจ้าควรดีใจข้าช่วยชีวิตไว้ได้หนึ่งชีวิตในตอนนี้ ถ้าเด็กในท้องของข้าตายท่านอ๋องหรงคงจะทำให้ชีวิตเจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย การแสดงที่เสแสร้งของเจ้าเช่นนี้เลิกแสดงเสียทีเถอะ เจ้าชอบท่านอ๋องหรงเจ้าจึงพุ่งเป้าไปที่คนของข้า"หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงพูดจบ นางก็ยกมือขึ้นตบที่วางแขนอย่างแรงจากนั้นนางก็หลุบตาลง"หมิงฮุ่ย เจ้าจงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้จวิ้นอ๋องน้อยฟังเสียสิ"

ไป๋หมิงฮุ่ยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นและคำพูดที่ฉางเล่ออันพูดไม่ให้ขาดแม้แต่คำเดียว

เมื่อจวิ้นอ๋องน้อยได้ยินเรื่องที่นางถูกฉางเล่ออันผลักลงทะเลสาบ เขาก็รู้สึกเจ็บไปทั้งหัวใจ จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ฉางเล่ออันแล้วพูดด้วยความโกรธ"แม่นมข่ง รีบไล่นางออกไปซะ ข้าไม่อยากได้คนเช่นนี้มาเป็นภรรยาของข้า"

แม่นมข่งตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่นคือการสู่ขอที่พระชายาอันจวินขอมาได้อย่างยากลำบาก

ร่างกายของจวิ้นอ๋องน้อยในตอนนี้ มีคนยอมแต่งงานด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว

"เจ้าชายน้อย เรื่องของท่านพระชายาเป็นคนจัดการทั้งหมด หม่อมฉันไม่กล้าไล่แม่นางฉางเล่ออันออกจากจวนโดยไม่ได้รับอนุญาตหรอกเพคะ"

"ต่อให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีทางสู่ขอนางเด็ดขาด"ในเมื่อไล่ไม่ไป หรงเยียนหันไปพูดกับฉางเล่ออันอย่างหยาบคาย"เจ้าจะเดินออกไปเอง หรือเจ้าจะมีชีวิตอยู่เฝ้าจวนอ๋องอย่างโดดเดี่ยวไปจนวันตาย"

"ข้ามิกล้าหรอก จวิ้นอ๋องน้อย"ฉางเล่ออันวางสองมือลงบนชุดกระโปรงพร้อมกัดฟันแน่นด้วยท่าทางที่ราวกับถูกผู้อื่นรังแก

"น้องหยวน เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ อยากจะไล่นางไปก็ดีหรืออยากจะแต่งงานกับนางก็แล้วแต่ รอจนข้าจัดการเรื่องราวของหมิงฮุ่ยเสร็จแล้ว เจ้าค่อยทำเถิด"ไป๋ชิงหลิงหยัดกายขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อมาถึงตรงหน้าฉางเล่ออัน นางก็เงื้อมือขึ้นสูงแล้วฟาดลงไปบนใบหน้าของนาอย่รงรุนแรง

ฉางเล่ออันถูกตบจนล้มลงกับพื้น มือกุมลงบนใบหน้าที่ถูกไป๋ชิงหลิงตบ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น