ไป๋ชิงหลิงนั่งอยู่ใต้ต้นแพร์และวาดภาพให้เด็กทั้งสอง หรงเยี่ยกลับมาพอดี แต่เขาทนไม่ได้ที่จะทำลายฉากๆนี้ ดังนั้นเขาจึงยืนดูข้างนอกเงียบๆ
ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ครอบครัวสี่คนดูเหมือนภาพวาดภาพหนึ่ง และไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปรบกวน
ภาพวาดในมือของไป๋ชิงหลิงก็วาดเสร็จแล้วเช่นกัน
เธอวาดของเธอเป็นภาพวาดเสมือนจริง
แม่นมซั่งเข้ามาดูและพูดด้วยความประหลาดใจ: “นี่มันเหมือนกับองค์หญิงน้อยและซื่อจื่อมากๆเลย”
“ท่านแม่ เสร็จหรือยัง พวกเราขอดูหน่อยได้ไหม”
ไป๋ชิงหลิงยิ้มและพยักหน้า
เด็กทั้งสองคนวิ่งไปหาเธอและดูภาพที่เธอวาดด้วยสายตาที่จริงจัง ตัวละครและพื้นหลังในภาพวาดเต็มไปด้วยความสมจริง
เด็กๆ อุทานพร้อมกัน: "นี่มัน เหมือนมากเลย"
“ดอกไม้บนศีรษะของข้าก็ถูกทาสีเช่นกัน เช่นเดียวกับเครื่องประดับบนเอวของพี่ชายของข้า”ไป๋ชงเซิงชี้ไปที่ผ้าโพกศีรษะและจี้หยกในภาพวาด
หรงจิ่งหลินค้นพบสิ่งแปลกใหม่อีกแล้ว เขาจึงกล่าวว่า: "ข้าเองก็อยากเรียนวาดเช่นนี้ เสด็จแม่สอนข้าหน่อย สิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพวาดที่เสด็จพ่อวาด"
“ภาพวาดของเสด็จพ่อไม่สวยเท่าของท่านแม่” หลังจากที่ไป๋ชงเซิงพูดจบ ก็มีเสียงไอเล็กดังมาจากด้านนอก
ทุกคนที่อยู่ที่ลานบ้านหันไปมองด้านนอกพร้อมกัน
หรงเยี่ยเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู โดยเอามือไพล่หลังแล้วพูดว่า "จะให้ข้าดูภาพที่พระชายาวาดสักหน่อยได้ไหม"
“ได้สิ” ไป๋ชิงหลิงหันภาพและกางออกให้เขาเห็น
ภาพๆนั้นทำให้หรงเยี่ยประหลาดใจมาก
ไป๋ชิงหลิงก้มศีรษะลง ชี้ไปที่ช่องว่างบนภาพแล้วพูดว่า: “ข้าทิ้งที่ว่างไว้ให้เจ้าแล้ว หรือให้ข้าเพิ่มเจ้าลงไปเลยดีไหม?”
“เจ้าอยากวาดรูปข้างั้นเหรอ”
"ได้ไหมหล่ะ?"
"ได้แน่นอน"
เขาไม่เคยเห็นไป๋ชิงหลิงดูสบายใจและสง่างามขนาดนี้มาก่อน นอกจากนี้ ทุกคนยังกังวลมากในทุกวันนี้ ทันใดนั้นเมื่อเห็นเธอแบบนี้ เขาก็มีความสุขขึ้นมาตามธรรมชาติและเต็มใจที่จะใช้เวลากับเธอและลูกๆ
นี่เป็นเพียงการวางตัวเท่านั้น แต่ทำให้หรงเยี่ยดูสะดุดตามาก
ไป๋ชิงหลิงขอให้เขายิ้มไว้ตลอดเวลา
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำแอบรู้สึกมีความสุข เมื่อเห็นว่ารอยยิ้มของเขาดูแย่ยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก
นายท่านผู้ชาญฉลาดและยิ่งใหญ่ของพวกเขาในที่สุดก็มีวันนี้จริงๆ
“พระชายา”
“เจ้าอย่าเพิ่งพูดอะไร” ไป๋ชิงหลิงขัดจังหวะเขาอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา และขมวดคิ้ว: “ทำไมเจ้าจึงทำหน้าแบบนั้นอีกแล้วล่ะ”
“ข้ายิ้มจนเหนื่อยแล้ว” หรงเยี่ยยกมือขึ้นแล้วบีบแก้มตัวเอง
ไป๋ชิงหลิง จ้องมองเขาด้วยความโกรธ: "ถ้าภาพวาดนั้นน่าเกลียดหรือดูไม่เหมือน ก็ไม่ใช่ความผิดของข้าแล้วนะ"
“มันต้องเป็นแสดงท่าทางเดิมตลอดเวลาเลยเหรอ?” หรงเยี่ยถาม
“ใช่ การแสดงออกที่แตกต่างกันมีวิธีการวาดภาพที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจะทำให้ภาพวาดทั้งหมดเสียหาย ฝ่าบาท เอาจริงเอาจังหน่อยเถอะ”ไป๋ชิงหลิงพูด
แม่นมซั่งเม้มริมฝีปากของเธอแล้วยิ้ม ไป๋ชิงหลิงมองดูเธอแล้วชี้ไปที่เธอและพูดว่า: “ดูสิ ยิ้มเหมือนที่แม่นมซั่งยิ้ม สวยมากขนาดไหน ตอนอยู่ต่อหน้าข้ายังจะทำหน้าแบบนี้อีก หรือเจ้าอยากบอกข้าว่าเจ้าเห็นข้าแล้วเจ้ายิ้มไม่ออกเหรอ?”
หรงเยี่ยพูดอย่างตะลึง: “เจ้าพูดไปถึงไหนแล้ว? ข้าจะยิ้มได้ก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้า ข้าแค่ยิ้มก็จบแล้วไม่ใช่หรือไง”
หลังจากพูดอย่างนั้น ริมฝีปากบางๆของเขาก็เปิดขึ้นอีกครั้ง
ไป๋ชิงหลิงหัวเราะเบา ๆ และมองลงไปที่ภาพวาดในมือของเธอ ที่จริงเธอได้วาดรูปร่างของเขาคร่าวๆแล้ว แต่เธอแค่อยากจะมองเขาเงียบ ๆ แบบนี้
เพราะในเวลานี้เท่านั้น ที่เขาได้เป็นตัวของตัวเอง
หลังจากผ่านไปนานโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เธอก็พบว่าชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เธอดูตกตะลึงมาก และเงยหน้าขึ้นมองเขา ปิดภาพนั้นโดยไม่รู้ตัวแล้วพูดว่า "เจ้ามาที่นี่ทำไม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...