ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 73

ไป๋ชิงหลิงหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่งและหันไปมองดูเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหรงเยี่ย

และขณะนี้ก็ได้ยินเสียงลูกของนางตะโกนเรียนเสียงดัง "รีบช่วยท่านแม่ ท่านแม่ถูกคนชั่วรังแก"

ไป๋ชงเซิงกอดเขาแน่น และน้ำตาคลอ เห็นได้ชัดว่านอนหลับอย่างกระสับกระส่าย

ไป๋ชิงหลิงหันไปและกำลังจะเอื้อมมือไปอุ้มลูกกลับมา

แต่กลับเห็นหรงเยี่ยก้มศีรษะลง ใบหน้าที่หล่อเหลาแนบชิดไปยังใบหน้าของเด็กน้อย และมือนั้นที่ประคองหลังของเด็กน้อยก็คอยลูบเบาๆ จากนั้นกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรท่านแม่ของเจ้าแน่นอน"

ไป๋ชงเซิงที่กำลังฝันร้าย เพียงชั่วพริบตาก็เงียบสงบลงอีกครั้ง

ไป๋ชิงหลิงยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น

คำพูดเมื่อสักครู่ที่เขาพูดไปนั้น ตกกระทบเข้าไปในหัวใจของนางอย่างหนักหน่วง

เป็นครั้งแรกที่ไป๋ชิงหลิงเห็นหรงเยี่ยในมุมที่อ่อนโยนและจิตใจดีเช่นนี้ และความจิตใจดีนี้ ได้มอบให้กับลูกสาวของนาง

ความทรงจำก่อนหน้านี้ที่เขาหลงเหลือให้นางมีเพียงความชั่วร้าย ทำให้ไป๋ชิงหลิงแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาจะเลี้ยงเด็กออกมาในลักษณะเช่นนี้

ฉะนั้น ทุกการกระทำของหรงเยี่ยในตอนนี้นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเขาที่มีต่อนางอย่างมาก

ความไม่เป็นมิตรที่นางมีต่อเขา ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเล็กน้อย

"ส่งให้ข้าเถอะ" นางพยายามควบคุมอารมณ์และสติ จากนั้นยื่นมือขึ้นและกล่าว

หรงเยี่ยเงยหน้าขึ้นมองนาง "อืม"

เขาส่งเด็กให้นาง และนางก็รับเด็กเอาไว้

เพียงแต่ มือของไป๋ชงเซิงยังคงจับเสื้อผ้าของหรงเยี่ยเอาไว้แน่น

ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงอย่างมาก และรีบยื่นมือออกไปคลายมือของไป๋ชงเซิง หรงเยี่ยกดมือของไป๋ชิงหลิงไว้ เขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า "เจ้าฝืนคลายมือของนาง จะยิ่งทำให้นางตื่นได้ง่าย"

"แต่ว่า......"

"เช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า" หรงเยี่ยยื่นมือออกไปรับไป๋ชงเซิงมาจากอ้อมแขนของไป๋ชิงหลิง

หลังจากที่เด็กกลับมาสู่อ้อมแขนของเขาแล้ว ใบหน้าน้อยๆ นั้นก็มุดเข้าไปยังเสื้อผ้าของเขา จากนั้นขยับเขยื้อนหาที่ทางที่สบายตัวและหลับลึกไปอย่างหอมหวาน

ในใจของไป๋ชิงหลิงเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่ ราวกับถูกแย่งชิงลูกของตัวเองไป นางรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก

ที่แท้ไป๋ชงเซิงก็สามารถพึ่งพาและเชื่อใจคนอื่นได้เช่นนี้

"ท่านแม่!" น้ำเสียงอันอ่อนหวานของหรงจิ่งหลินได้ดังขึ้นข้างหูของนาง

ไป๋ชิงหลิงก้มลงมองและเห็นว่าเขาน่าสงสารอย่างมาก แม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้ใส่

นางอุทานออกมาเสียงเบา "เหตุใดถึงไม่ใส่รองเท้า"

หรงจิ่งหลินกล่าว "ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว"

ไป๋ชิงหลิงพูดไม่ออกและเงยหน้าขึ้นมองหรงเยี่ย จากนั้นมองไปรอบๆ

ภายในห้องนอนมีเพียงเตียงเดียว และยังมีเก้าอี้นวมอีกหนึ่งตัว เก้าอี้นวมนั้นมีขนาดใหญ่มาก สามารถทำเป็นเตียงได้

นางอุ้มหรงจิ่งหลินขึ้นและกล่าวกับหรงเยี่ย "ท่านอุ้มเซิงเอ๋อร์ไปนอนที่เตียง ข้าจะพาเสี่ยวซื่อจื่อไปนอนที่นั่น"

"อืม!" หรงเยี่ยไม่ปฏิเสธ ทำให้ไป๋ชิงหลิงรู้สึกโล่งใจอย่างมาก

นางกลัวว่าเขาจะฝืนบังคับให้นางร่วมนอนเตียงเดียวกับเขา

ไม่นานนางก็ได้หยิบผ้าห่มและนอนไปพร้อมกับหรงจิ่งหลินอีกฝั่งหนึ่ง

ใบหน้าของหรงจิ่งหลินแนบชิดมาที่อ้อมแขนของนาง ไม่นานก็หลับสนิท

ไป๋ชิงหลิงก็หลับลงไปอย่างรวดเร็วเพราะเหนื่อยล้าจากการดูแลเรื่องยาและเรื่องแผลของไทเฮา

แต่ผู้ชายที่อยู่บนเตียง จู่ๆ กลับลุกขึ้นนั่งและหันไปจ้องมองไป๋ชิงหลิง

เขาเปิดผ้าห่มออก และเดินไปหาไป๋ชิงหลิง

และสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็นก็คือ

ใบหน้าด้านข้างของจิ่งหลินและของนาง ช่างเหมือนกันจนน่าตกตะลึง

เขาขาดสติไปครู่หนึ่ง จากนั้นมือของเขาก็ลูบไล้ไปยังใบหน้าของไป๋ชิงหลิงโดยไม่รู้ตัว......

บางครั้งใบหน้าของนางก็เหมือนกับแม่ของหรงจิ่งหลินอยู่มาก นี่คงเป็นวาสนาของหรงจิ่งหลินและนางกระมัง

หรงเยี่ยก้มตัวลงและอุ้มทั้งสองคนกลับไปนอนบนเตียง หลังจากที่วางทั้งสองลงแล้ว เขาก็ได้นอนลงด้วยเช่นกัน

เขานอนหันข้างและเอื้อมมือไปโอบเอวของไป๋ชิงหลิง ร่างกายที่มีกลิ่นหอมเจือจาง ทำให้หรงเยี่ยตกตะลึงในทันที......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น