ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 733

“หลานวานเออร์” น้ำเสียงของหรงเยี่ยเยือกเย็นราวกับสายลมที่พัดอยู่ด้านนอก ดังขึ้นอยู่รอบกายของ

หลานวานเออร์หดคอของนางโดยไม่รู้ตัว ทำท่าทางเหมือนกับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กัดริมฝีปาก ไม่กล้ามองมาที่เขา

หรงเยี่ยหรี่ตาลง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา “คิดให้ดี พระชายาหรงได้กล่าวออกมาเช่นนี้จริงหรือไม่!”

หลานวานเออร์พูดไม่ออกอีกครั้ง สุดท้ายก็คุกเข่าลงต่อหน้าของจักรพรรดิเหยา พูดออกมาพร้อมร่ำไห้ “ฝ่าบาท ความรู้สึกที่พระชายาหรงและท่านองค์รัชทายาทมีต่อกันนั้น ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สามารถเป็นพยานได้ วานเออร์ทนเห็นพระชายาหรงต้องเจ็บปวดใจเช่นนี้ไม่ได้จริง ๆ คงจะดีกว่าที่วานเออร์จะยอมถอยสักก้าวหนึ่ง เพื่อทำให้ความปรารถนาของพระชายาหรงเป็นจริง”

คำพูดนี้ของหลานวานเออร์ มันคือการพูดเพื่อกำจัดตัวเองออกไปอย่างสิ้นเชิง

หลังจากนั้นก็ดึงไป๋ชิงหลิงออกมาเพื่อเป็นผู้รับความผิดทั้งหมดแทน

เช่นนี้จักรพรรดิเหยาก็ไม่มีทางโทษนาง และแยกไม่ออกระหว่างความดีและความชั่วของไป๋ชิงหลิง

หรงเยี่ยยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “นางเป็นเช่นไร ข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ หากนางคิดจะแย่งชิงสิ่งต่าง ๆ จริง เรื่องราวก็คงไม่ดำเนินมาถึงขั้นนี้ เสด็จพ่อน่าจะเข้าใจดี นางสามารถทำอะไรให้กับคนในครอบครัวของนางได้บ้าง”

หากเป็นเมื่อก่อน จักรพรรดิเหยาอาจจะรับฟังคำพูดของหรงเยี่ยบ้าง แต่เวลานี้ เขารู้คิดเพียงแค่ว่าคำพูดของหรงเยี่ยนั้นพูดออกมาเพียงแค่ปกป้องไป๋ชิงหลิงเท่านั้น

และไม่ว่าหรงเยี่ยจะทำอะไรก็ถือว่ามีความผิดทั้งหมด

การที่นางมีแม่อย่างหลิวหานเยียน นั่นก็คือความเสียเปรียบของนาง

ต่อให้ฉุ๋นฮองเฮาไม่คิดจะสังหารหลิวหานเยียน แต่นางก็เป็นฆาตกรที่ฆ่าฉุ๋นฮองเฮาทางอ้อม

เขาโบกชายเสื้ออย่างสงบและกล่าวว่า “ข้ามีพระราชโองการให้เจ้ากับองค์รัชทายาทอภิเษกสมรสกัน ในวันนั้น ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทจะไม่มีผู้ใดสามารถปรับเปลี่ยนมันได้ องค์รัชทายาท ช่วงนี้เจ้าก็อยู่ในตำหนักเพื่อสะสางเรื่องภัยพิบัติหิมะต่อไป เรื่องอื่นเจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”

เขาปิดกั้นไม่ให้หรงเยี่ยเอาไว้ เพื่อไม่ให้ไปหาติ้งเป่ยโหว

แม่ทัพหลานขมวดคิ้ว “วานเออร์ ยังไม่รีบขอบพระคุณฝ่าบาทอีกงั้นหรือ”

“ขอบพระคุณสำหรับความกรุณาของฝ่าบาท” แม่ทัพหลานยื่นมือออกมาเพื่อช่วยพยุงนางขึ้น

จักรพรรดิเหยาหันหลังและเดินออกไปจากตำหนักหยูเหวินพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “เฝ้าที่นี่ให้ดี หากองค์รัชทายาทยังทำงานไม่เสร็จก็ห้ามให้ออกไปจากตำหนักหยูเหวินเป็นอันขาด”

แค่ผู้หญิงเพียงคนเดียว เขาจะรักษาไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป

เมื่อได้รับการสืบทอดราชบัลลังก์ เขาก็จะรู้สึกขอบคุณเสด็จพ่อผู้นี้ของเขาเอง

ประตูของตำหนักหยูเหวินถูกปิดลง หรงเยี่ยถูกขังอยู่ด้านใน

หลานวานเออร์และแม่ทัพหลานเดินทางออกไปจากพระราชวังไปพร้อมกัน เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลหลาน แม่ทัพหลานก็พูดกับหลานวานเออร์อย่างจริงจัง “วานเออร์ องค์รัชทายาทไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป อยากให้ท่านองค์รัชทายาทยอมรับเจ้า เกรงว่าคงจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะยอมรับเจ้า ช่วงเวลานี้เจ้าก็ต้องอดทนกับความลำบากใจต่อไป”

“พี่ชาย จู่ ๆ ข้าก็ขาดความมั่นใจที่จะเป็นพระชายาองค์รัชทายาท”

“เจ้าห้ามพูดเช่นนี้ออกมาอีกเป็นอันขาด” สีหน้าของแม่ทัพหลานเปลี่ยนไปทันที น้ำเสียงของเขาดูเคร่งขรึมขึ้นมาก

หลานวานเออร์กัดริมฝีปาก พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “วานเออร์หมายความว่า ในใจของท่านองค์รัชทายาทมีเพียงพระชายาหรงผู้เดียวเท่านั้น”

แม่ทัพหลานยิ้มออกมาด้วยความดูถูก “ผู้ชายก็คือผู้ชาย ขอแค่พระชายาหรงออกไปจากเมืองหลวง ใช้เวลาไม่นานเขาก็จะลืมผู้หญิงคนนั้น เมื่อถึงเวลา องค์รัชทายาทและตำหนักตงก็จะขึ้นอยู่กับเจ้าทั้งหมด วานเออร์ของพวกเรางดงามเพียงนี้ แถมยังเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์จากตระกูลหลานผู้โด่งดัง เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ได้แต่หนีและครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างพระยาชาหรง เมื่อเจ้าคลอดทายาทขององค์รัชทายาทออกมา ทุกอย่างก็จะเป็นของเจ้า”

“ข้า......ข้าให้กำเนิดลูกขององค์รัชทายาท!” หากเป็นเมื่อก่อน นางคงจะรู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของพี่ชาย และไม่ได้จริงจังอะไรกับมัน แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโถงเมื่อครู่ จากประโยคที่หรงเยี่ยพูดกับจักรพรรดิเหยา มันทำให้หลานวานเออร์รับรู้ได้อย่างแท้จริงว่าองค์รัชทายาทนั้นต่อต้านนางทางกายและใจ และอาจจะถึงขั้นรังเกียจนางด้วยซ้ำ

“เป็นอะไรไปงั้นหรือ?” แม่ทัพหลานเห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของนางจึงถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“องค์รัชทายาทไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ......”

“คำพูดขององค์รัชทายาทในค่ำคืนนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจ อยากให้ผู้ชายเข้ามาติดอยู่ใต้กระโปรงของเจ้า มันมีวิธีการอยู่ตั้งมากมาย เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างก็จะเป็นไปโดยธรรมชาติ” รอยยิ้มปรากฏออกมาจากมุมปากของแม่ทัพหลาน ความเย้ยหยันฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา

เขาไม่เชื่อว่าหรงเยี่ยจะสามารถรักษาความซื่อสัตย์ของเขาได้จริง ๆ

และเมื่อหลานวานเออร์เข้าใจในคำพูดของแม่ทัพหลาน ใบหน้าของนางก็ค่อย ๆ กลายเป็นสีแดง

ในตอนนี้ จินจื่อเสวียนเดินเข้ามาจากด้านนอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น