“ถวายบังคมเสด็จพ่อ” หลานวานเออร์ค่อย ๆ เดินเข้ามา จากนั้นก็ทำความเคารพจักรพรรดิเหยา
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลานวานเออร์
ตอนแรกจักรพรรดิและเหล่าเสนาบดีปลาบปลื้มนางมากแค่ไหน เวลานี้พวกเขาก็ผิดหวังกับนางมากแค่นั้น หลานวานเออร์เองก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่นาง สุดท้ายสายตาของนางก็จับจ้องไปยังร่างของไป๋ชิงหลิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น
นางจ้องมองใบหน้าของไป๋ชิงหลิงอย่างละเอียดถี่ถ้วน สุดท้ายถึงมองไปยังหรงจิ่งหลินที่อยู่ในอ้อมแขนของไป๋ชิงหลิง
นางค่อย ๆ ยื่นมือออกมา เดินไปทางหรงจิ่งหลิน “นางสนมไป๋ อาหลินเขา......”
ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่นั้นของนางเต็มไปด้วยความโกรธ จับจ้องไปที่นางอย่างเยือกเย็น
และท่าทางดังกล่าวของนาง ทำให้หลานวานเออร์ตกใจเป็นอย่างมาก
ท่าทางที่ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมามองนางเมื่อครู่ มันเหมือนกับผีที่คลานออกมาจากนรก พร้อมที่จะใช้กรงเล็บอันแหลมคมกรีดคอนางได้ทุกเมื่อ และลากนางลงนรกไปด้วยกัน
หลานวานเออร์สงบสติอารมณ์ จากนั้นพูดออกมาด้วยความเสียใจและไร้เดียงสา “นางสนมไป๋ ข้าเองก็อยากจะกล่าวขอโทษเจ้า ข้าไม่ควรใช้ยากล่อมประสาทกับอาหลิน แต่ตอนนั้นข้าเองก็รู้สึกร้อนใจ และในตอนที่อาหลินได้เห็นองค์รัชทายาท เขาก็ร้องไห้งอแงออกมายกใหญ่......”
“ร้องไห้งอแงที่ไหนกัน!” จู่ ๆ แม่นมหยางก็ยืดตัวขึ้นมา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันรุนแรง “พระชายาองค์รัชทายาท นางสนมไป๋ได้สอบถามเรื่องราวกับหมอหลวงชายและหมอหลวงหญิงที่อยู่ในจาวเฟิงหยวนมาโดยละเอียดแล้ว......”
แม่นมหยางชี้ไปที่หลานวานเออร์ “เป็นเจ้า เพื่อไม่ให้ซื่อจื่อกลับมาศาลาชิงหลิงเพื่อบอกกับนายหญิงของพวกเราว่าองค์รัชทายาทกลับมาแล้ว เจ้าจึงวางยานอนหลับซื่อจื่อ ในตอนนั้นซื่อจื่อไม่ได้ร้องไห้ออกมาแต่อย่างใด และซื่อจื่อเองก็ไม่มีทางร้องไห้งอแงออกมาเป็นแน่ เขาเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงดูจากองค์จักรพรรดิมาเป็นอย่างดี มีมารยาท รู้จักกฎเกณฑ์ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่โดดเด่น แต่เขาเป็นคนที่รักษากฎเกณฑ์เป็นแน่”
“ซื่อจื่อรู้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดของตนเองไม่ใช่พระชายาหลัก แต่ก็ยังเรียกเจ้าว่าเป็นพระชายาหลัก เขาเคารพในการตัดสินใจของจักรพรรดิ เคารพท่าน แต่วันนี้เจ้ากลับทำร้ายเขา ทำให้เขาไม่ฟื้นขึ้นมาจนถึงวันนี้ เพียงแค่ประโยคไม่กี่คำ พระชายาองค์รัชทายาทคิดว่าจาวเฟิงหยวนทุกคนเป็นคนหูหนวกตาบอดอย่างนั้นหรือ”
ใบหน้าของหลานวานเออร์ซีดเผือดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ไป๋ชิงหลิงยังไม่เคยพูดอะไรกับนางแม้แต่ประโยคเดียว แต่กลับทำให้นางพ่ายแพ้อย่างไร้ซึ่งโอกาสที่จะพลิกตัว
หลานวานเออร์ถึงรับรู้ว่า วันนี้จักรพรรดิไม่มีทางปล่อยนางไปเป็นแน่ และต้องการทวงความยุติธรรมคืนให้กับหรงจิ่งหลิน
นางรีบคุกเข่าลงในทันที ร่ำไห้ออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ข้าผิดไปแล้ว ข้าเห็นว่าฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส จิตใจวุ่นวาย ข้าได้ถึงทำเรื่องเช่นนั้นลงไปกับซื่อจื่อ ตอนแรกข้าเพียงต้องการให้ซื่อจื่อหลับไปเพียงชั่วคราว หลังจากซื่อจื่อตื่นขึ้นมาแล้ว อาการขององค์รัชทายาทก็จะดีขึ้นมาด้วยเช่นกัน เมื่อถึงเวลาจะได้เรียกซื่อจื่อมาอยู่เป็นเพื่อนองค์รัชทายาท ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องจะร้ายแรงถึงเพียงนี้ เวลานี้ซื่อจื่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
นางไม่เชื่อว่ายากล่อมประสาทห่อเดียวจะทำให้เด็กมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลงได้
นางคิดว่าไป๋ชิงหลิงจะต้องใช้โอกาสนี้ในการบีบคั้นนาง ดังนั้นทุกคำพูดของนางจึงสื่อไปยังไป๋ชิงหลิงโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ และมันก็เหมือนกับเป็นการโยนความผิดทั้งหมดให้กับไป๋ชิงหลิงเป็นผู้รับผิดชอบ
แน่นอนว่าไป๋ชิงหลิงเองก็เข้าใจในคำพูดของอีกฝ่าย
เส้นเลือดที่คอของนางปูดขึ้นมา ใบหูของนางเป็นสีแดง นางพูดกับหลานวานเออร์ว่า “พระชายาองค์รัชทายาทรู้หรือไม่ว่า คำพูดที่ท่านกล่าวออกมา คำที่บอกว่า ‘คิดว่า’ ของท่านนั้น มันทำให้ลูกชายของข้าไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้อีกตลอดกาล!”
หลานวานเออร์ตะลึงงัน สะดุ้งราวกับถูกฟ้าผ่า
นางหันมาด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เหตุใดซื่อจื่อจึงไม่ฟื้นขึ้นมา มีหมอหลวงลองตรวจสอบดูแล้วหรือยัง เสด็จพ่อ หมอเทวดาซูคือคนของนางสนมไป๋ จะใช้เพียงแค่คำพูดของอีกฝ่ายมาตัดสินเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้......”
“ปัง!”
ฮองเฮาเต๋อลุกขึ้นมาตบหน้าของหลานวานเออร์อย่างแรง
ทุกคนแทบจะหายใจไม่ออก
ในตอนนั้นหลานวานเออร์เองก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งความสับสน
ดวงตาของหลานเฉินเฟิงเองก็เปลี่ยนไปอย่างลับ ๆ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกแปลกใจกับการกระทำของฮองเฮาเต๋อ
ฮองเฮาเต๋อถามออกมาอย่างเคร่งขรึม “พระชายาองค์รัชทายาทกำลังสงสัยว่าข้ากำลังร่วมมือกับหมอเทวดาซูพ่อหลอกลวงฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ!”
หลานวานเออร์นำมือขึ้นมากุมหน้าของตนเองไว้ หลังจากนั้นมองมาที่ฮองเฮาเต๋อเป็นเวลานาน หัวใจของนางว่างเปล่าเมื่อถูกฮองเฮาเต๋อตอบหน้า
นางยังคงไม่ตอบสนอง และไม่มีใครบอกนางว่าฮองเฮาเต๋อเป็นคนพาหรงจิ่งหลินออกไปจากพระราชวังเพื่อไปหาหมอเทวดาซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...