เมื่อหรงเยี่ยพูดจบก็ได้จูงมือหรงจิ่งหลินเดินออกไปจากตำหนักฮุ่ยหนิง
ไปชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากมองดูสองคนพ่อลูกนั้นเดินจากไป
เขาเดินจากไปก็ดีแล้ว ประเดี๋ยวรับประทานอาหารเช้าเสร็จนางก็สามารถไปเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่ออธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน ว่านางและท่านอ๋องหรงไม่ได้คิดอะไรต่อกัน
และนางคิดว่าไทเฮาคงไม่บีบบังคับนางอย่างแน่นอน
แม่นมอวี่อันพานางไปรับประทานอาหารเช้า อาหารเช้าที่ถูกจัดเตรียมอย่างเพียบพร้อม มีเพียงนางกำนัลไม่กี่คนเท่านั้นที่คอยอยู่ปรนนิบัติ
ไป๋ชงเซิงมองดูสำรับอาหารที่วางเรียงรายเต็มโต๊ะด้วยสายตาที่ลุกวาว
"ท่านแม่ อาหารในวังหลวงช่างอร่อยเหลือเกิน"นางกินอย่างเอร็ดอร่อย และสองแก้มก็เต็มไปด้วยอาหาร
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองดูนาง และเห็นว่านางรับประทานอย่างตะกละมูมมาม จากนั้นได้หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็คราบอาหารที่อยู่ข้างแก้มของนาง "เซิงเอ๋อร์ เจ้าต้องค่อยๆ กิน เคี้ยวให้ช้าๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่ดีต่อกระเพาะของเจ้า"
"แต่ว่าอาหารเหล่าอร่อยมากเหลือเกินเจ้าค่ะ" ไป๋ชงเซิงแอบเหลือบมองอาหารที่อยู่ในมือ ที่มีผลไม้ประดับประดาอยู่เล็กน้อย ดูแล้วช่างสดใหม่น่ากินเสียเหลือเกิน "อาหารที่จวนท่านอ๋องหรงก็อร่อยมากเช่นกัน ข้าชอบเล่นกับซื่อจื่อจิ่งมากที่สุดเลย"
คิ้วของไป๋ชิงหลิงกระตุกเล็กน้อย จากนั้นเก็บผ้าเช็ดหน้ากลับและกล่าวว่า "งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา วันหนึ่งเราจะต้องไปจากเมืองเฉาจิงแห่งนี้ ผู้คนและเรื่องราวที่นี่จะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าอีกต่อไป"
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ไป๋ชิงหลิงกลับรู้สึกว่าพูดเรื่องเหล่านี้กับเด็กอายุห้าขวบ นับเป็นเรื่องตลกขบขันเหลือเกิน
เซิงเอ๋อร์ยังเล็กออกเช่นนี้ นางจะไปเข้าใจได้อย่างไรว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกราคืออะไร
นางจะรู้ได้อย่างเกี่ยวกับเรื่องราวความรู้สึกและผู้คนที่ได้พบเจอ นางรู้แต่เพียงการกินและการเล่นเท่านั้น
ไป๋ชงเซิงไม่เข้าใจ นางกะพริบตาไปมาและยิ้มออกมา "ซื่อจื่อจิ่งกล่าวว่า หากท่านแม่กลับไปที่หุบเขาเซียนไหล เสด็จพ่อของเขาก็จะไปอยู่ที่หุบเขาเซียนไหล และสร้างจวนท่านอ๋องขึ้นมา จากนั้นจะย้ายจวนท่านอ๋องที่อยู่ในเมืองเฉาจิงไปที่นั่น ถึงตอนนั้นข้าก็จะได้เล่นกับซื่อจื่อจิ่งอีกครั้ง"
"อะไรนะ?" มุมปากของไป๋ชิงหลิงกระตุก มือที่ถือช้อนรับประทานอาหารก็สั่นสะท้านอยู่ครู่หนึ่ง
ไป๋ชงเซิงคิดว่านางไม่เข้าใจ จากนั้นจึงได้อธิบายอย่างจริงจัง "ซื่อจื่อจิ่งจะกลับไปยังหุบเขาเซียนไหลพร้อมกันกับเรา ถึงตอนนั้นเสด็จพ่อของเขาจะสร้างจวนท่านอ๋องที่หุบเขาเซียนไหล แม้ว่าต้องจากเมืองเฉาจิงไป แต่ข้าก็ยังสามารถได้เล่นกับซื่อจื่อจิ่งอีก ท่านแม่ ท่านว่าดีหรือไม่?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...