ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 77

"ท่านแม่ ข้าอิ่มแล้ว ข้าขอไปเล่นที่อุทยานพฤกษาหลังตำหนักฮุ่ยหนิงนะเจ้าคะ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวล" จากนั้นไป๋ชงเซิงก็หยิบขนมอีกชิ้นหนึ่งบนโต๊ะอาหารและกระโดดลุกออกไปจากห้องรับประทานอาหาร

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกตัวอีกทีจึงได้ตะโกนออกไป "เจ้าเดินช้าๆ หน่อย อย่าวิ่งเล่นไปที่อื่นเชียวล่ะ"

ไป๋ชงเซิงมีนางกำนัลสองคนคอยเฝ้าดูแล อีกทั้งตำหนักฮุ่ยหนิงก็เป็นสถานที่ของไทเฮา นางจึงไม่เป็นกังวลว่าไป๋ชงเซิงจะไปก่อเรื่องที่ไหนเอาได้

หลังจากที่ลูกของนางออกไป ไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกไม่อยากอาหารอีกแล้ว

ขณะที่นางกำลังจะลุกออกจากโต๊ะรับประทานอาหารนั้น แม่นมอวี่อันก็ได้เดินเข้ามาจากนอกตำหนัก

นางเป็นหญิงชราคนสนิทข้างกายของไทเฮา ทำให้ไป๋ชิงหลิงให้ความเคารพและนอบน้อมต่อนางอยู่มาก

ขณะที่แม่นมอวี่อันเดินเข้ามานั้นก็ได้ก้มตัวลงโค้งคำนับไป๋ชิงหลิง "บ่าวมาเพื่อขอโทษแม่นางไป๋เจ้าค่ะ"

"ขอโทษ?" ไป๋ชิงหลิงไม่เข้าใจ จากนั้นจึงได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้

แม่นมอวี่อันกล่าวว่า "เช่นนั้นบ่าวจะพูดๆ ไม่อ้อมค้อมนะเจ้าคะ ประตูใหญ่ที่ตำหนักข้างเมื่อคืน......บ่าวเป็นคนลงกลอนเอาไว้เองเจ้าค่ะ บ่าวควรจะขอโทษแม่นางไป๋ ที่เป็นสาเหตุทำให้แม่นางไป๋รู้สึกลำบากใจ"

ไป๋ชิงหลิงยิ่งได้ฟังก็ยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้น

นางเป็นคนตรงไปตรงมา ในเมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาชัดเจนเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็ขออธิบายเพื่อแสดงถึงความรู้สึกของตัวเองบ้าง

"แม่นมอวี่ วิธีการของเจ้าทำให้ข้ารู้สึกโกรธมาก และก็นำพามาซึ่งความลำบากใจให้กับข้าด้วยเช่นกัน แต่ในเมื่อเจ้ามาขอโทษข้า เช่นนั้นต่อไปก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก และห้ามทำเช่นนั้นอีกเด็ดขาด" ไป๋ชิงหลิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

ตอนนี้นางเพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า นางก็รู้สึกว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถเผชิญหน้ากับหรงเยี่ยได้อีก

เขาช่างชั่วร้าย เลวร้ายมากเหลือเกิน!

ผู้ชายในฝันของไป๋ชิงหลิง ไม่มีทางเป็นอย่างท่านอ๋องหรงเช่นนั้นหรอก

อย่างน้อยเขาคนนั้นต้องเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนน้อมถ่อมตน และยังเป็นพ่อที่จิตใจดี

นางยอมรับว่าหรงเยี่ยเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่ง แต่เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษ

เขาเป็นสัตว์เดรัจฉาน!

และขณะนี้เอง แม่นมอวี่อันก็ได้คุกเข่าลงที่พื้น

ไป๋ชิงหลิงตกใจมาก จากนั้นจึงได้ถอยหลังไปและกล่าวด้วยความประหลาดใจ "แม่นมอวี่ทำอะไรหรือ?"

แม่นมอวี่อันก้มศีรษะโค้งลงต่ำไปถึงพื้น และน้ำเสียงของนางสะอึกสะอื้น "แม่นางไป๋ บ่าวพูดตามตรงว่าที่บ่าวทำไปนั้น ทั้งหมดทำไปเพื่อไทเฮา บ่าวทนไม่ได้"

"เจ้า......เจ้ารีบลุกขึ้นมาพูดกันดีๆ ......" คนเป็นคนในยุคสมัยใหม่ หากมีคนมาคุกเข่าให้นาง จะทำให้นางรู้สึกว่าชีวิตจะสั้นลง

ในโลกของนางนั้น ไม่มีการแบ่งแยกความรวยหรือความจน ชีวิตของคนทุกคนล้วนเท่าเทียมกันหมด

นางรีบก้มตัวลงเพื่อประคองไหลของแม่นมอวี่อัน

ทว่าแม่นมอวี่อันกลับส่ายหน้าและกล่าวว่า "แม่นางไป๋ ท่านฟังที่บ่าวพูดให้จบก่อนเจ้าค่ะ ร่างกายของไทเฮาไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้ซื่อจื่อจิ่งก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ไทเฮาไม่สามารถบรรทมหลับลงได้ เมื่อบบรทมหลับไปก็ฝันร้ายและตกใจตื่นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ตื่นจากบรรทมก็ร้องไห้ฟูมฟาย และพระเกศาของพระนางก็ขาวมากขึ้นทุกวัน"

"สองวันมานี้ เป็นสองวันที่ไทเฮาแย้มพระสรวลและมีความสุขมากที่สุขในหกเดือนที่ผ่านมา บ่าวจดจำได้ดีมาโดยตลอด และความสุขความยินดีนี้ เป็นเพราะแม่นางไป๋มอบให้กับไทเฮา พระนางหวังเพียงต้องการให้ท่านอ๋องหรงได้อภิเษกสมรสกับพระชายาที่มีจิตใจดีและเลี้ยงดูซื่อจื่อจิ่ง พระนางเป็นความหวังนี้ในตัวของแม่นางไป๋"

"บ่าวก็ดูออกว่าแม่นางไป๋ก็มีความบาดหมางกับท่านอ๋องหรงอยู่บ้าง แต่บ่าวขอให้แม่นางไป๋ได้โปรดอย่าได้พูดอะไรออกไปต่อหน้าพระพักตร์ของไทเฮาเลยนะเจ้าคะ บ่าวกลัวว่าพระนางจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ และทำให้เกิดอาการประชวรขึ้นอีก"

เมื่อพูดจบ แม่นมอวี่อันก็เอาศีรษะโขกกับพื้นอยู่หลายครั้ง

ไป๋ชิงหลิงตกใจจนลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น

จากนั้นสองมือก็ได้ประคองแม่นมอวี่อันและกล่าวห้ามปราม "หยุดเอาศีรษะโขกพื้นได้แล้ว ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ!"

แม่นมอวี่อันเงยหน้าขึ้นและใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตา จากนั้นสองมือของนางได้จับแขนของไป๋ชิงหลิงและกล่าวว่า "แม่นางไป๋ บ่าวรู้ว่าท่านก็ลำบากใจ แต่บ่าวจะพยายามเกลี้ยกล่อมไทเฮา ไม่ให้พระนางเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของท่านและท่านอ๋องหรง เช่นนั้นไทเฮาจึงจะไม่สั่งให้ฝ่าบาทออกพระราชโองการจัดงานอภิเษกสมรส เช่นนี้......ก็สามารถให้เวลาซึ่งกันและกัน ท่านไม่ต้องทำอะไรเลยเจ้าค่ะ"

เมื่อไป๋ชิงหลิงได้ยินเช่นนั้น จึงทำให้นางค่อยๆ สงบลง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น