ฮองเฮาเต๋อรู้สึกตัวก่อน เอ่ยปากพูด " เซิงเอ๋อร์ ใครเป็นคนบอกว่าเสด็จพ่อเจ้าต้องการแท้งลูกในครรภ์ของแม่เจ้า"
" ฮองเฮา คนในวังต่างก็พูดกันปากต่อปากถึงเรื่องนี้ ในวันนี้เสด็จพ่อก็มาเยี่ยมเสด็จแม่ที่ศาลาชิงหลิง แล้วยังได้รับสั่งให้หมอหลวงเตรียมยาขับครรภ์ ตอนนี้ครรภ์เสด็จแม่ได้เสียเด็กไปแล้วใช่หรือไม่" นางได้เห็นสภาพของไป๋ชิงหลิงที่นอนอยู่ หน้าซีดเผือด เหมือนคนป่วยติดเตียง ในใจจึงมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นเป็นความจริง
ที่นางวิ่งมาถามด้วยตัวเองนั้นก็เพื่อให้ไป๋ชิงหลิงบอกนางด้วยปากตัวเองว่าพ่อของนางได้นอกใจแม่แล้ว
ไป๋ชิงหลิงมองฮองเฮาเต๋อแวบหนึ่ง แล้วก็เอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับรอยยิ้ม " ดูเหมือนว่าในศาลาชิงหลิงนี้จะไม่สะอาดจริงๆ"
องค์รัชทายาทได้เตรียมยาขับครรภ์ไว้แค่ถ้วยเดียวจริงๆ แต่กลับลือไปว่ามีสองถ้วย
อีกอย่าง เรื่องนี้มันเป็นแค่การทะเลาะและโต้เถียงกันระหว่างคู่สามีภรรยาเท่านั้น แต่เมื่อข่าวลือออกไป ไม่นานก็คงจะลือว่าลูกในครรภ์นางไม่ใช่ขององค์รัชทายาท ดังนั้น องค์รัชทายาทจึงต้องการกำจัดลูกในครรภ์ของนางแน่นอน
" ข่าวลือก็เปรียบดังสิงเสือ จะปล่อยให้คนแพร่งพรายแบบนี้ต่อไปได้เยี่ยงไร ข้าจะไปจัดการเรื่องนี้เดี๋ยวนี้"
" เสด็จแม่ ท่านต้องสืบให้รอบคอบนะ บางทีคนที่สืบหาพบก็อาจจะไม่ใช่คนร้ายตัวจริงด้วย ในวังนี้มีคนที่ใช้วิชาลวงตาได้นั้นมีมากนัก และคนที่ไม่อยากให้ข้าอยู่อย่างสงบนั้นก็นับไม่ถ้วนเพคะ" คำพูดไม่กี่คำของไป๋ชิงหลิงช่วยทำให้ฮองเฮากำหนดเป้าหมายได้เลย
ฮองเฮาเต๋อพยักหน้าเอ่ย " ข้ารู้ว่าข้าต้องทำเยี่ยงไร เจ้าก็รีบกำจัดเสี้ยนหนามในศาลาชิงหลิงละกัน เพื่ออนาคตจะได้ไม่นำภัยมาหาอีก"
เมื่อบอกกล่าวแล้ว ฮองเฮาเต๋อก็เดินออกจากศาลาชิงหลิงทันที
โดยมีแม่นมหยางและแม่นมจ้านเป็นคนส่งนางออกจากจวน
หลังจากที่ฮองเฮาออกไปแล้ว ไป๋ชิงหลิงก็กวักมือไปทางไป๋ชงเซิงเอ่ย " เซิงเอ๋อร์ เจ้ามานี่หน่อย"
ไป๋ชงเซิงขมวดคิ้วแล้วก็ทำหน้าเคร่ง เดินมาหาไป๋ชิงหลิงอย่างรวดเร็ว
สายตาของนางตกทอดลงไปยังท้องของไป๋ชิงหลิง นัยน์ตานั้นแฝงด้วยไอแห่งความโกรธ เอ่ย " ท่านแม่ยังเจ็บไหมฮะ ข้าเคยได้ยินว่าการทานยาขับครรภ์นั้นอันตรายยิ่งนัก หากทำไม่ดีอาจจะตายทั้งกลม แล้วเขายังเตรียมตั้งสองถ้วยให้ท่าน"
ไป๋ชิงหลิงก้มหน้าหัวเราะฮาออกมาคำหนึ่ง
" ท่านแม่ไม่ต้องมาโกหกข้า และไม่ต้องฝืนยิ้มอย่างมีความสุขด้วย เพราะข้ารู้ถึงความลำบากใจของท่าน" ไป๋ชงเซิงมองหน้าท่านแม่ตัวเองด้วยความทุกข์ใจ นางคิดว่าต้องเป็นเพราะถูกหรงเยี่ยทำให้นางเจ็บปวดลึกเกินเยียวยา ทำให้นางต้องฝืนยิ้มให้ตัวเองอย่างนี้
นางขยับตัวเข้าไปหาไป๋ชิงหลิง แล้วก็อ้าแขนกอดไป๋ชิงหลิงไว้ เพื่อปลอบโยนนางเล็กน้อย " ท่านแม่ ท่านอย่าได้ทุกข์โศกเลย ท่านยังมีเซิงเอ๋อร์อยู่"
ความรู้สึกหดหู่ของไป๋ชิงหลิงทั้งวันถูกเด็กน้อยในอ้อมกอดทำลายทันที
นางไม่ได้เชื่อใจเสด็จพ่อของนางเลยแม้แต่น้อย แต่ว่านางรักตัวไป๋ชิงหลิงจริงๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ไป๋ชิงหลิงรู้สึกสบายใจและก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยในเวลาเดียวกัน
เด็กน้อยคนนี้เมื่อก่อนเคยเชื่อใจหรงเยี่ยหมดใจ แต่ตอนนี้นางไม่ยอมให้ความเชื่อใจแม้แต่น้อย นางไม่ได้เป็นเด็กน้อยที่จะถูกหลอกง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว
ไป๋ชิงหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วก็จับมือเล็กๆ ของไป๋ชงเซิงขึ้นมาวางไว้บริเวณท้องของตัวเองที่ส่งเสียงกลองแผ่วเบา " เซิงเอ๋อร์ เจ้าสัมผัสดูว่าน้องยังอยู่ไหม"
ไป๋ชงเซิงรู้สึกสะดุ้งไปทีหนึ่ง ก้มหน้าดูมือที่ถูกไป๋ชิงหลิงจับไว้
ที่นั่นรู้สึกว่าแข็งเล็กน้อย แล้วก็ยังรู้สึกได้ว่ามีก้อนกลมข้างในด้วย
แต่นางก็ยังไม่เข้าใจ
" เจ้าไม่ได้รู้สึกถึงการเรียกหาของน้องชายน้องสาวหรือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...