มือของหรงเยี่ยสั่นเล็กน้อยแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิงที่กำลังเดินมาหาเขา
นางยื่นมือออกแล้วดึงไป๋ชงเซิงออกจากตักของหรงเยี่ยแล้วเอ่ย "เจ้ากำลังกดทับบริเวณบาดเจ็บของเสด็จพ่อเจ้า"
ไป๋ชงเซิงถอยหลังไปสองสามก้าวและเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น "เสด็จพ่อ ข้าขอโทษฮะ"
"ไม่เป็นไร" เขาจ้องไปที่ไป๋ชิงหลิง
ตอนที่ไป๋ชิงหลิงจากไปนั้น เสื้อผ้าและทรงผมของนางดูเรียบร้อย แต่เมื่อนางกลับมานั้นผมยุ่งเล็กน้อยและมีกลิ่นไหม้เล็กน้อยบนเสื้อผ้าของนาง
หรงเยี่ยเอื้อมมือไปจับแขนของไป๋ชิงหลิงอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วดึงนางพลิกตัว ทำให้มองเห็นบาดแผลไฟไหม้ขนาดเท่าฝ่ามือบนหลังของนางอย่างแจ่มชัด
นัยน์ตาของเขาหดตัวแรงและเค้นเสียง"เจ้าได้รับบาดเจ็บ"
ไป๋ชิงหลิงหันกลับไปแล้วเอ่ย "อาการบาดเจ็บของน้องแปดนั้นร้ายแรงกว่านัก หมอหลวงจ้าวรีบทำแผลให้อ๋องเฉินก่อนเร็วเข้า"
" หมอหลวงจ้าว ขอทำแผลให้พระสนมไป๋ก่อน" หรงเฉินเอ่ยด้วยสภาพที่ย่ำแย่นัก
หรงเยี่ยเหลือบมองเขา ทำให้หรงเฉินยิ่งดูอนาถาขึ้นไปอีก เขามีรูเล็ก ๆ จำนวนมากที่ถูกไฟไหม้ เสื้อผ้าของเขาขาดและยุ่งเหยิง หลังมือของเขาเปื้อนเลือดจางๆ และมีจุดด่างดำด้วยหมิ่นหม้อ
คนที่ตามมานั้นไม่เพียงแต่หมอหลวงจ้าวเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าหมอหญิงตามมาด้วย
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรับสั่ง "หมอหลวงจ้าว เจ้าไปที่ห้องโถงด้านข้างเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของอ๋องเฉิน ส่วนหมอหญิงให้ตามข้าไปที่ห้องโถงด้านในเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของนางสนมไป๋ เซิงเอ๋อร์ เจ้ากลับไปศาลาชิงหลิงก่อน"
"ข้าจะอยู่ดูแลท่านแม่" ไป๋ชงเซิงไม่ยอมจากไป นัยน์ตาของนางนั้นมีน้ำตาออกมาเหมือนน้ำพุ
ไป๋ชิงหลิงก็ไม่รู้จะทำไงดี เอ่ย "ถ้าอย่างนั้นให้นางอยู่เถิด แล้วก็ไปเป็นเพื่อนอาอ๋องเฉินของเจ้า"
"ได้ " ไป๋ชงเซิงหันกลับมาจับมือหรงเฉินแล้วพาเขาไปที่ห้องโถงด้านข้าง
หรงเฉินนั้นเคยทำร้ายไป๋ชิงหลิงหลายต่อหลายครั้ง ต่อมาเขาจะกลับใจและสารภาพอย่างจริงใจต่อหน้าไป๋ชิงหลิงแล้ว แต่ไป๋ชงเซิงก็ไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ กับเขาเลย
ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ไป๋ชิงหลิงเท่านั้นที่ประหลาดใจ แม้แต่หรงเยี่ยเองก็อ้ำอึ้งไป
เขาจ้องมองเรือนร่างร่างหนึ่งร่างใหญ่และร่างเล็กอีกร่างหนึ่งเดินจากไปจนกระทั่งทั้งสองได้เดินเข้าไปห้องโถงข้างๆ เขาถึงดึงสายตากลับมา
เสี่ยวเก๋อผลักเขาเข้าไปในห้องโถงด้านใน
หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงตามเข้าไป เหล่าคนรับใช้ต่างก็ทยอยถอยออกไป เหลือเพียงหมอหญิงเท่านั้น
ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงวางอยู่บนไหล่ของหรงเยี่ย หมอหญิงถอดเสื้อผ้าของนางออกล้างแผลให้นางแล้วก็ใส่ยาให้นาง ในช่วงเวลานี้ น้ำตาของนางก็ไหลออกมาไม่หยุด
หรงเยี่ยขมวดคิ้วและเอ่ยถาม "เจ็บมากหรือ"
เขาคิดว่านางร้องไห้เพราะเจ็บแผล
น้ำตาของนางได้เปียกเสื้อผ้าบนไหล่ของเขา
เขารู้สึกเจ็บแทนนาง
ไป๋ชิงหลิงส่ายหัว แล้วพยักหน้าอีกครั้ง และเก็บคำพูดไว้ไม่ยอมพูดออกมาสักคำ
ต่อหน้าหรงเฉินและลูกๆ นั้น นางจะอดกลั้นไว้ตลอด
จนกระทั่งนางเดินมาถึงตำหนักเจาหยาง และหมอหญิงได้ทำแผลให้นาง นางถึงได้เรียกสติกลับมาอีกครั้ง
หลวนอี๋ตายแล้ว
“มันกะทันหันเกินไป ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหลวนอี๋จะจากข้าไปแบบนี้ ร่างกายของนางไม่มีส่วนที่ดูได้เลย คนในวังต่างก็ลือกันว่าหลวนอี๋ได้ร้องขอความช่วยเหลือตลอด"
หรงเยี่ยยกมือขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของนาง
ทันใดนั้นนางก็กอดเขาแน่น "พรุ่งนี้และเรื่องไม่คาดคิด เรารู้ไม่ได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับใครก่อน"
เช่นเดียวกับหลวนอี๋ที่จากไปอย่างกะทันหัน โดยที่ไม่มีใครได้ตั้งตัว
หรงเยี่ยกำแขนนางแน่น ในขณะนี้ หัวใจของทั้งสองค่อยๆ ใกล้ชิดกันมากขึ้น และความบาดหมางต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้สลายไปดังสายน้ำไหล
เขาก้มศีรษะลงและจูบหน้าผากนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...