ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 784

สรุปบท บทที่ 784 เขารู้สึกเจ็บแทนนาง: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 784 เขารู้สึกเจ็บแทนนาง – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 784 เขารู้สึกเจ็บแทนนาง ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

มือของหรงเยี่ยสั่นเล็กน้อยแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิงที่กำลังเดินมาหาเขา

นางยื่นมือออกแล้วดึงไป๋ชงเซิงออกจากตักของหรงเยี่ยแล้วเอ่ย "เจ้ากำลังกดทับบริเวณบาดเจ็บของเสด็จพ่อเจ้า"

ไป๋ชงเซิงถอยหลังไปสองสามก้าวและเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น "เสด็จพ่อ ข้าขอโทษฮะ"

"ไม่เป็นไร" เขาจ้องไปที่ไป๋ชิงหลิง

ตอนที่ไป๋ชิงหลิงจากไปนั้น เสื้อผ้าและทรงผมของนางดูเรียบร้อย แต่เมื่อนางกลับมานั้นผมยุ่งเล็กน้อยและมีกลิ่นไหม้เล็กน้อยบนเสื้อผ้าของนาง

หรงเยี่ยเอื้อมมือไปจับแขนของไป๋ชิงหลิงอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วดึงนางพลิกตัว ทำให้มองเห็นบาดแผลไฟไหม้ขนาดเท่าฝ่ามือบนหลังของนางอย่างแจ่มชัด

นัยน์ตาของเขาหดตัวแรงและเค้นเสียง"เจ้าได้รับบาดเจ็บ"

ไป๋ชิงหลิงหันกลับไปแล้วเอ่ย "อาการบาดเจ็บของน้องแปดนั้นร้ายแรงกว่านัก หมอหลวงจ้าวรีบทำแผลให้อ๋องเฉินก่อนเร็วเข้า"

" หมอหลวงจ้าว ขอทำแผลให้พระสนมไป๋ก่อน" หรงเฉินเอ่ยด้วยสภาพที่ย่ำแย่นัก

หรงเยี่ยเหลือบมองเขา ทำให้หรงเฉินยิ่งดูอนาถาขึ้นไปอีก เขามีรูเล็ก ๆ จำนวนมากที่ถูกไฟไหม้ เสื้อผ้าของเขาขาดและยุ่งเหยิง หลังมือของเขาเปื้อนเลือดจางๆ และมีจุดด่างดำด้วยหมิ่นหม้อ

คนที่ตามมานั้นไม่เพียงแต่หมอหลวงจ้าวเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าหมอหญิงตามมาด้วย

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรับสั่ง "หมอหลวงจ้าว เจ้าไปที่ห้องโถงด้านข้างเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของอ๋องเฉิน ส่วนหมอหญิงให้ตามข้าไปที่ห้องโถงด้านในเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของนางสนมไป๋ เซิงเอ๋อร์ เจ้ากลับไปศาลาชิงหลิงก่อน"

"ข้าจะอยู่ดูแลท่านแม่" ไป๋ชงเซิงไม่ยอมจากไป นัยน์ตาของนางนั้นมีน้ำตาออกมาเหมือนน้ำพุ

ไป๋ชิงหลิงก็ไม่รู้จะทำไงดี เอ่ย "ถ้าอย่างนั้นให้นางอยู่เถิด แล้วก็ไปเป็นเพื่อนอาอ๋องเฉินของเจ้า"

"ได้ " ไป๋ชงเซิงหันกลับมาจับมือหรงเฉินแล้วพาเขาไปที่ห้องโถงด้านข้าง

หรงเฉินนั้นเคยทำร้ายไป๋ชิงหลิงหลายต่อหลายครั้ง ต่อมาเขาจะกลับใจและสารภาพอย่างจริงใจต่อหน้าไป๋ชิงหลิงแล้ว แต่ไป๋ชงเซิงก็ไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ กับเขาเลย

ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ไป๋ชิงหลิงเท่านั้นที่ประหลาดใจ แม้แต่หรงเยี่ยเองก็อ้ำอึ้งไป

เขาจ้องมองเรือนร่างร่างหนึ่งร่างใหญ่และร่างเล็กอีกร่างหนึ่งเดินจากไปจนกระทั่งทั้งสองได้เดินเข้าไปห้องโถงข้างๆ เขาถึงดึงสายตากลับมา

เสี่ยวเก๋อผลักเขาเข้าไปในห้องโถงด้านใน

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงตามเข้าไป เหล่าคนรับใช้ต่างก็ทยอยถอยออกไป เหลือเพียงหมอหญิงเท่านั้น

ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงวางอยู่บนไหล่ของหรงเยี่ย หมอหญิงถอดเสื้อผ้าของนางออกล้างแผลให้นางแล้วก็ใส่ยาให้นาง ในช่วงเวลานี้ น้ำตาของนางก็ไหลออกมาไม่หยุด

หรงเยี่ยขมวดคิ้วและเอ่ยถาม "เจ็บมากหรือ"

เขาคิดว่านางร้องไห้เพราะเจ็บแผล

น้ำตาของนางได้เปียกเสื้อผ้าบนไหล่ของเขา

เขารู้สึกเจ็บแทนนาง

ไป๋ชิงหลิงส่ายหัว แล้วพยักหน้าอีกครั้ง และเก็บคำพูดไว้ไม่ยอมพูดออกมาสักคำ

ต่อหน้าหรงเฉินและลูกๆ นั้น นางจะอดกลั้นไว้ตลอด

จนกระทั่งนางเดินมาถึงตำหนักเจาหยาง และหมอหญิงได้ทำแผลให้นาง นางถึงได้เรียกสติกลับมาอีกครั้ง

หลวนอี๋ตายแล้ว

“มันกะทันหันเกินไป ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหลวนอี๋จะจากข้าไปแบบนี้ ร่างกายของนางไม่มีส่วนที่ดูได้เลย คนในวังต่างก็ลือกันว่าหลวนอี๋ได้ร้องขอความช่วยเหลือตลอด"

หรงเยี่ยยกมือขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของนาง

ทันใดนั้นนางก็กอดเขาแน่น "พรุ่งนี้และเรื่องไม่คาดคิด เรารู้ไม่ได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับใครก่อน"

เช่นเดียวกับหลวนอี๋ที่จากไปอย่างกะทันหัน โดยที่ไม่มีใครได้ตั้งตัว

หรงเยี่ยกำแขนนางแน่น ในขณะนี้ หัวใจของทั้งสองค่อยๆ ใกล้ชิดกันมากขึ้น และความบาดหมางต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้สลายไปดังสายน้ำไหล

เขาก้มศีรษะลงและจูบหน้าผากนาง

อีกฝ่ายต้องการใช้ไฟไหม้เพื่อสร้างภาพลวงตา

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก

คนพวกนั้นต้องการจะพาองค์หญิงไปที่ไหนกันแน่

" ค้นหาอย่างเงียบๆ อย่าให้ใครจับได้"

" อิงเหลียนล่ะ เจ้าเรียกอิงเหลียนกลับมา นางจะช่วยเจ้าหาคนได้" ไป๋ชิงหลิงคุ้นเคยกับการใช้อิงเหลียน

แน่นอนว่านางต้องการจะพิสูจน์ด้วยว่า อิงเหลียนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า

คนอย่างหรงเยี่ยนั้นเมื่อโกรธแล้วสามารถจะฆ่าใครก็ได้ ยิ่งกว่านั้นนางยังเป็นองครักษ์เหยี่ยวดำใต้อำนาจจองเขาที่ทำภารกิจล้มเหลวด้วย

เมื่อหรงเยี่ยได้ยินชื่อว่า "อิงเหลียน"นั้น สีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เอ่ยด้วยความเย็นชา " ส่งองครักษ์เหยี่ยวดำไปเฝ้าที่ประตูวังด้วยคนหนึ่ง"

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อนางไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากหรงเยี่ย

วินาทีต่อมา หรงเยี่ยเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา " นางไม่ใช่องครักษ์เหยี่ยวดำอีกต่อไปแล้ว ถ้าเจ้าชอบนางก็เก็บไว้ข้างกายเถิด"

ไป๋ชิงหลิงสั่นเล็กน้อยและใบหน้าของเธอก็แข็งทื่อเล็กน้อย

ไม่ใช่องครักษ์เหยี่ยวดำอีกต่อไป สำหรับอิงเหลียนนั้น...น่าจะเสียใจมาก

ในใจนางเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่มาอุดไว้ เอ่ยถาม " เป็นเพราะข้าหรือ"

" นี่เจ้า ระหว่างเราสองคนอย่าได้พูดสิ่งที่ทำให้ต่างก็ไม่มีความสุขเลย องครักษ์เหยี่ยวดำที่ล้มเหลวในภารกิจนั้นจริงๆ แล้วต้องถูกประหารชีวิต แต่ที่ข้าไว้ชีวิตนางนั้นก็เมตตานางมากพอแล้ว นางจะขอมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว" หรงเยี่ยกำมือเล็กๆ ของนางไว้ พูดจบก็จูบลงไปบนระหว่างคิ้วของนาง

ใช่ ไม่ควรมีใครพูดถึงเรื่องเศร้าอีก ควรทำเป็นไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ตามถามต่อ เพราะ...ใจของนางก็เหนื่อยมากเช่นกัน

หลังจากที่หมอหญิงทำแผลเสร็จก็ถอนตัวออกไป

หรงเยี่ยเอามือโอบรอบร่างกายของนางโดยหลีกเลี่ยงบริเวณบาดเจ็บ โอบรอบเอวนาง เขาก้มหัวลงแล้วจูบริมฝีปากของนาง ดูดดื่มกับลมหายใจและลิ้มรส ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น