ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 785

จูบที่มาโดยไม่ได้ตั้งตัว ทำให้ไป๋ชิงหลิงหายใจแทบไม่ออก เขาดูดน้ำตาที่เปื้อนริมฝีปากของนางแล้วก็พลิกซ้ำไปมาหลายครั้ง

มือทั้งสองของนางวางบนหน้าอกของเขา ค่อยๆ ไล่ขึ้นไปบนไหล่ของเขา และในที่สุดก็หยุดอยู่บนหน้าของเขา

นางใช้ฝ่ามือคลำไปบนใบหูและด้านข้างของเขาเป็นการตอบเขา

แมวตัวหนึ่งนั่งยองๆ อยู่ที่มุมห้องและเฝ้าดูเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป่าลี่ว์มองไปรอบ ๆ ห้องโถงและไม่พบเงาของไป๋ชงเซิง จึงวิ่งออกไปแล้วกระโดดเข้าไปในห้องโถงด้านข้าง

เมื่อไป๋ชงเซิงเห็นเป่าลี่ว์นั้นมันมีกิ่งหญ้าเหี่ยวๆ สองสามกิ่งติดอยู่ด้วย

"เป่าลี่ว์..."

"เหมียว"

เป่าลี่ว์กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของไป๋ชงเซิง แล้วก็ขุดข่วนไปบนเสื้อของไป๋ชงเซิงหลายที และปล่อยเสียงร้องที่คล้ายกับว่าต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

หลังจากที่ไป๋ชงเซิงได้ยินคำพูดของเป่าลี่ว์แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างทันที

นางรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปยังอ๋องเฉินที่นอนบนเตียงให้หมอหลวงทำแผลอยู่

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหลังแล้ววิ่งออกจากห้องโถงด้านข้างไป

อาอ๋องเฉินนั้นเป็นคนวู่วาม นางต้องบอกเรื่องนี้กับเสด็จพ่อของนาง

เมื่อนางอุ้มเป่าลี่ว์แล้วก็วิ่งเข้าไปในห้องโถงอีกห้องหนึ่งนั้นก็บังเอิญเห็นพ่อแม่ของนางกำลังจูบกันอย่างเร่าร้อน ไป๋ชงเซิงร้อง"อ้า" แล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็ว

ไป๋ชิงหลิงรีบผลักหรงเยี่ยออกไปและก้มหน้าลงจัดเสื้อผ้าของตัวเอง หรงเยี่ยกระแอมเบาๆ ทีหนึ่ง แล้วก็หันไปมองคนร่างเล็กข้างนอก เอ่ย " อย่าได้เสียมารยาท"

"เสด็จพ่อไม่ได้ปิดประตู และในห้องก็ไม่มีคนด้วย" ไป๋ชงเซิงเอามือปิดตาทั้งสองข้างแล้วพูดโดยไม่ได้หันหน้ากลับไปหาหรงเยี่ย

ใบหน้าของไป่ชิงหลิงแดงระเรื่อทันที

เมื่อครู่นางก็ไม่ได้สังเกต เขาได้ถอนเสื้อผ้านางจนถึงบริเวณแขนเผยให้เห็นไหล่ส่วนใหญ่ของเธอ

หลังจากจัดตัวเรียบร้อย นางก็นั่งตัวตรงบนเก้าอี้นวม เอ่ยเรียก " เซิงเอ๋อร์ เข้ามาเถิด"

ไป๋ชงเซิงหันกลับมามองดูทั้งสองในห้องโถง ก้าวข้ามธรณีประตู และรีบเล่าเรื่องที่เป่าลี่ว์บอกนางให้หรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิง

"เสด็จพ่อ ท่านแม่ วันนี้เสด็จน้าได้ส่งเซิงเอ๋อร์ไปยังตัหนักเฉียนชิง แล้วยังได้ส่งเซิงเอ๋อร์ไปยังสำนักศึกษาด้วย ตอนที่เสด็จน้าจากไปนั้นเซิงเอ๋อร์ได้ฝากเป่าลี่ว์ให้เสด็จน้าดูแลด้วย"

ทั้งสองมองหน้ากันทันที

แมวตัวนี้ไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เป็นแมวสงครามที่ได้รับการฝึกฝนมาเช่นเดียวกับเสวี่ยหลาน มันมีความสามารถในการสังเกตและตรวจสอบ

และเซิงเอ๋อร์เองก็ไม่ใช่เด็กธรรมดา นางสามารถเข้าใจภาษาของนกและสัตว์ป่าได้

ในเมื่อเป่าลี่ว์เคยอยู่กับหลวนอี๋ ถ้าอย่างนั้นเป่าลี่ว์ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลวนอี๋แน่นอน

"เป่าลี่ว์บอกว่าเสด็จน้ายังไม่ตาย คนที่ตายนั้นเป็นนางกำนัลข้างกายเสด็จน้า เมื่อยามก่อนเสด็จน้าถูกคนลักพาตัวแล้วส่งออกไปนอกวัง ส่งไปยังตรอกเยียนฮวา เสด็จพ่อ รีบส่งคนไปช่วยเสด็จน้าเถิด ถ้าช้ากว่านี้เสด็จน้าอาจได้รับอันตราย" ไป๋ชงเซิงเอ่ยพร้อมกับเก็บหลักฐานสำคัญ

หรงเยี่ยทำหน้าเคร่งขรึม และเขาก็เรียกอิงซาโดยไม่ได้คิดมาก

อิงซาเดินเข้ามาในห้อง

หรงเยี่ยเอ่ย " ตรอกเยียนฮวา ช่วยองค์หญิงหลวยอี๋ ข้าต้องการนางกลับมาตัวเป็น"

"พ่ะย่ะค่ะ" อิงซาหันหลังกลับและรีบออกจากวัง

หลังจากที่อิงซาออกไป ไป๋ชิงหลิงก็ถามไป๋ชงเซิงต่อ " เป่าลี่ว์เห็นหน้านักฆ่าคนที่ไล่ฆ่าเสด็จน้าเจ้าหรือไม่"

" ไม่มีนักฆ่าไล่ฆ่าเสด็จน้านะ มีนางกำนัลคนหนึ่งเดินชนเสด็จน้า และเสด็จน้ารู้สึกว่าเสียงของนางกำนัลนั้นฟังดูเหมือนเสียงผู้ชายจึงบอกให้หยุด แล้วชายคนนั้นก็วิ่งหนีไป เสด็จน้าจึงสั่งให้ให้ไล่ตามนางกำนัลคนนั้น" เมื่อไป๋ชงเซิงพูดถึงจุดนี้ ก็ทำให้นึกถึงนางกำนัลที่มีรูปร่างสูงใหญ่ที่นางและอาลู่เห็นก่อนหน้านี้

หรงเยี่ยเห็นสีหน้าของนางผิดปกติ เอ่ย " เจ้าคิดอะไรอยู่"

" ไม่กี่วันก่อนเซิงเอ๋อร์ได้พบนางกำนัลประหลาดคนหนึ่ง นางมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนเสด็จพ่อ ท่าเดินเหมือนผู้ชาย อาลู่และข้าได้พบนาง และข้าวาดตัวนางออกมาได้"

เมื่อไป๋ชงเซิงสั่งให้อาลู่ออกไปเอาพู่กันและกระดาษนั้น หรงเยี่ยได้ถ่ายทอดคำสั่งออกไปอีกสองคำสั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น