ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 81

หรงเยี่ยบังเอิญอยู่ข้างหลังของนาง เขายกมือขึ้นและประคองรับตัวของนางไว้

ไป๋ชิงหลิงหันศีรษะไปเล็กน้อยและถอยหลังไป จากนั้นจึงรีบเก็บซ่อนอารมณ์ความลำบากใจและประคองตัวเองให้ยืนตรง จากนั้นจึงได้แสดงความเคารพหลวนอี๋ "องค์หญิงเพคะ เรื่องเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องเหลวไหลไม่เป็นความจริง แต่เรื่องที่หม่อมฉันรักษาพระอาการประชวรของไทเฮานั้นเป็นเรื่องจริงเพคะ ส่วนเรื่องทักษะทางการแพทย์นั้น หม่อมฉันเห็นว่าแต่ละคนมีความสามารถโดดเด่นแตกต่างกันออกไปเพคะ"

นางไม่เคยรู้สึกว่าทักษะทางการแพทย์ของนางนั้นเก่งกาจล้ำเลิศ นางเพียงแค่มีอุปกรณ์และยาที่ทันสมัยกว่าคนอื่นก็เท่านั้น

และเพียงชั่วพริบตา หลวนอี๋ก็ได้เดินเข้าไปหาและจับมือของไป๋ชิงหลิงอีกครั้ง

ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงอย่างมากและก้มลงมองมือทั้งสองขององค์หญิงหลวนอี๋

นางไม่เข้าใจว่าองค์หญิงคนนี้ที่เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกจะชื่นชอบนางเช่นนี้

นางดูออกว่าองค์หญิงไม่ได้เข้าใกล้นางเพราะมีจุดประสงค์ร้ายแอบแฝง

ขณะที่องค์หญิงมองนาง ในแววตาของนางเปล่งประกายราวกับ......

แฟนคลับที่ได้เจอไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ เป็นความร้อนแรงและความยกย่องชื่นชมแบบนั้น

"คนในวังต่างก็พูดถึงทักษะทางการแพทย์ของท่าน พวกเขาบอกว่าสำนักหมอหลวงไม่เคยทำการรักษาเช่นนั้นให้ผู้สูงศักดิ์มาก่อน ท่านได้ช่วยชีวิตของเสด็จย่าของข้า เช่นนั้นก็ถือเป็นผู้มีพระคุณอย่างสูงของข้าและท่านพี่เจ็ด" หลวนอี๋วางมือขวาไว้กับมือข้างซ้าย จากนั้นได้นำสร้อยข้อมือที่เปล่งประกายระยิบระยับส่งต่อไปที่ข้อมือของไป๋ชิงหลิง "นี่มือสร้อยข้อมือของข้า ข้ามอบให้กับท่าน"

ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงอีกครั้งและก้มลงมองสร้อยข้อมือที่อยู่ในมือ จากนั้นจึงได้เตรียมที่จะถอดออก และขณะนี้เอง......

มือข้างหนึ่งได้จับข้อมือของนางเอาไว้ และดึงนางออกไปจากเงื้อมมือหลวนอี๋ ทำให้นางถอยหลังก้าวออกไปโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นหรงเยี่ยก็ได้มายืนขวางหน้านางเอาไว้

ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมองเขา

และได้ยินหรงเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "สนุกพอแล้วก็ออกไปได้แล้ว เสด็จย่าต้องการพักผ่อน"

เขาคว้าคอเสื้อด้านหลังของหลวนอี๋ และลากนางออกจากตำหนักฮุ่ยหนิงไป

หลวนอี๋ไม่ยอมและตะโกนโวยวายและยกมือตะเกียกตะกาย "ท่านพี่เจ็ดท่านจะทำอะไรน่ะ ข้ายังไม่พูดอะไรกับเสด็จย่าเลย ท่านปลอยข้าเดี๋ยวนี้ อย่าดึงเสื้อของข้า......ฮือๆ......พี่สะใภ้เจ็ด ช่วยข้าด้วย......"

ตอนแรกไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกสงสารหลวนอี๋ แต่เมื่อได้ยินประโยคหลังที่หลวนอี๋เรียกนาง ไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกว่าสิ่งที่หรงเยี่ยทำนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว

หากนางยังอยู่ที่นี่ต่อไปนานกว่านี้ ไม่รู้ว่านางจะพูดอะไรที่น่าตกตะลึงอีกมากเพียงใด

หลังจากที่หลวนอี๋ถูกหรงเยี่ยจัดการออกไปจากตำหนักฮุ่ยหนิงแล้ว ไป๋ชิงหลิงก็รีบถอดสร้อยข้อมือออกทันที

ไทเฮาฮุ่ยเห็นการกระทำของนางอย่างชัดเจนและได้ตรัสว่า "เจาเสวี่ย เจ้าไม่ต้องลำบากใจไป ในเมื่อหลวนอี๋มอบให้เจ้า เช่นนั้นเจ้าก็รับไว้เถอะ เด็กคนนี้เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เล็กๆ การอบรมสั่งสอนของฮองเฮาไม่เป็นประโยชน์ต่อนางเลย จึงทำให้เป็นคนขี้น้อยใจเช่นนี้"

"องค์หญิงเป็นคนร่าเริงมีชีวิตชีวา และจริงใจ นับว่าทำให้ผู้คนที่พบเห็นชื่นชอบอย่างมากเพคะ" ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า และถือสร้อยข้อมือไว้ในมือ

ในเมื่อมอบให้เป็นรางวัล เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับเอาไว้ แต่นิสัยขององค์หญิงนั้นมีค่ามากกว่าของตอบแทนสิ่งนี้อีก

ไทเฮาฮุ่ยถอนหายใจ "ไม่รู้ว่านางเหมือนใคร มักทำตัวแตกต่างจากคนอื่นตั้งแต่ยังเล็ก เป็นคนตรงไปตรงมา พูดอะไรมักไม่ถูกใจองค์หญิงคนอื่นๆ พี่น้องคนอื่นๆ จึงไม่ค่อยสนิทสนมกับนาง เรื่องนี้......ข้าคิดว่าเจ้าเหมือนกันกับหลวนอี๋ที่มีนิสัยตรงไปตรงมา ข้าชอบคนเช่นนี้"

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกหนักใจเล็กน้อย ไทเฮาฮุ่ยพูดเช่นนี้หมายความว่าพระนางเพียงแค่ชื่นชอบความตรงไปตรงมาของนางอย่างนั้นหรือ?

นางคิดเห็นไม่เป็นเช่นนั้น

"ไทเฮาเพคะ ถึงเวลาบรรทมพักผ่อนแล้วเพคะ" แม่นมอวี่อันกล่าว

ไทเฮาฮุ่ยพยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธคำพูดของอวี่อัน พระนางก็รู้สึกเหนื่อยล้ามากแล้ว "ข้าพักผ่อนประเดี๋ยว เจ้าบอกให้จิ่งหลินพาไปเดินเล่นที่อุทยานหลวงอวี้ฮวา ทิวทัศน์ของที่นั่นสวยงามมาก"

เมื่อตรัสจบ อวี่อันก็ปรนนิบัติให้พระนางนอนลง จากนั้นไป๋ชิงหลิงจึงพาเด็กทั้งสองคนออกไปจากตำหนักฮุ่ยหนิง

เมื่อไม่มีหรงเยี่ยอยู่ภายนอกตำหนัก ไป๋ชิงหลิงได้แอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

ภายใต้การนำทางของหรงจิ่งหลิน ไป๋ชิงหลิงได้ไปถึงอุทยานหลวงอวี้ฮวา เพียงแต่เมื่อไปถึงที่นั่น ก็ได้พบเข้ากับฮองเฮาอู๋และเสิ่นโหรวเม่ย......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น