“ข้าคือภรรยาของฉินหย่วนอี้ ข้าจากไปไม่ได้ เจ้าอย่าอยู่ข้างกายข้าแล้ว” ฉางเล่อเหยียนรู้ว่าฉินหย่วนอี้ทำแบบนั้นกับเซี่ยซาน เป็นเพราะว่าเธอตั้งครรภ์
เธอต้องการให้นางโกรธเพราะเรื่องนี้
เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถกำจัดเด็กในท้องของนางได้
แต่นางต้องเก็บเด็กคนนี้ไว้
แต่เซี่ยซานรู้สึกว่า นางไม่สามารถรักษาไว้ได้
“คุณหนู ท่านไปกับข้าเถอะ เด็กคนนี้” เซี่ยซานมองท้องของนาง ลดเสียงลง และถามเบาๆว่า “เป็นลูกของท่านอ๋องหรงหรือ”
ฉางเล่อเหยียนก้มหน้าลง โดยไม่แสดงสีหน้ามากนัก
เซี่ยซานคว้ามือของฉางเล่อเหยียนแล้วพูดว่า “คุณหนู ท่านต้องการเก็บเด็กคนนี้ไว้ไหม?”
“เรื่องของข้า เจ้าไม่ต้องยุ่งอีก”
“แต่ว่า องค์ชายใหญ่ ไม่ยอมให้ท่านคลอดเด็กคนนี้ เมื่อถึงเวลานั้นคุณหนู”
“ข้าคิดหาทางออกไว้แล้ว แต่ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ จะเป็นการขัดขวางข้า ส่วนเรื่องข้ากับท่านอ๋องหรงนั้นมันเป็นไปไม่ได้ เจ้าไปเถอะ”
เธอเก็บข้าวของให้เซี่ยซาน และทำการปลอมตัว และให้คนพาเซี่ยซานออกจากจวนตระกูลฉินอย่างเงียบๆ
คนในตระกูลฉินยังไม่รู้ว่าเซี่ยซานจากไปแล้ว เมื่อเซี่ยซานออกจากจวนตระกูลฉิน ฉางเล่อเหยียนก็ได้ส่งคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดของเธอไปปกป้องเซี่ยซาน ตอนนี้ข้างกายเธอเหลือทหารคุ้มกันของตระกูลฉางเพียงสี่ห้าคนเท่านั้น ที่คอยปกป้องเธอ
เธอต้องหาทางออกให้กับตัวเอง
ฉางเล่อเหยียนให้คนเตรียมยาทำแท้ง คนรับใช้ตระกูลฉินรู้เรื่องนี้เข้า จึงรีบไปรายงานให้ฮูหยินผู้เฒ่าฉินทราบทันที
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินตกใจมาก รีบไปที่ลานบ้านของฉางเล่อเหยียนทันที ในขณะที่ฉางเล่อเหยียนกำลังจะดื่มยาทำแท้ง ฮูหยินผู้เฒ่าฉินก็รีบวิ่งเข้าไป และปัดชามของเธอทิ้ง
“ฉางเล่อเหยียน เจ้าทำอะไร?”
ชามยาหล่นลงบนพื้น
ฉางเล่อเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องมองชามยาที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าสิ้นหวังและพูดว่า “ท่านแม่ หย่วนอี้ไม่ต้องการเด็กคนนี้ เขาคิดว่าข้าไม่บริสุทธิ์”
“อะไร?” สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าซีดลงเล็กน้อย
ในเวลานี้ ผู้เฒ่าฉินและฉินหย่วนอี้ก็เดินเข้ามา
“ตั้งแต่กลับมาจากค่ายไป๋หู หย่วนอี้ก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว และพยายามถามข้าว่าได้สูญเสียพรหมจรรย์ที่ค่ายไป๋หูหรือไม่ ข้าบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ใช่ แต่เขาไม่เชื่อข้า ตอนนี้เขาคงสงสัยว่าเด็กในท้องของข้าไม่ใช่สายเลือดของตระกูลฉิน ในเมื่อเขาสงสัยในตัวข้า ข้าก็ไม่ต้องการให้กำเนิดเด็กคนนี้ เพื่อที่จะไม่ให้เด็กถูกล้อเลียนภายหลังว่า พ่อของเขาเป็นคนนอกรีต”
ฉางเล่อเหยียนกล่าวขณะร้องไห้
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินหันกลับมา และตบหน้าฉินหย่วนอี้อย่างแรง “เจ้าคนไร้ค่า”
“ตอนที่เล่อเอ๋อร์กลับมา ข้าได้ให้คนมาตรวจร่างกายของนางแล้ว ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายใดๆบนร่างกายของนาง”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินด่าด้วยความโกรธ
คราวนี้ผู้เฒ่าฉินก็ไม่เข้าข้างลูกชายของเขาอีกแล้ว
เพื่อการระมัดระวัง พวกเขาจึงขอให้แพทย์หญิง ตรวจร่างกายของฉางเล่อเหยียนอย่างละเอียดหลังจากที่เธอกลับมาถึงจวนตระกูลฉิน
หากเธอได้รับบาดเจ็บจริง ต้องมีร่องรอยการดิ้นรนบนร่างกายของเธออย่างแน่นอน
แต่ร่างกายของฉางเล่อเหยียนไม่เพียงไม่มีร่องรอยใดๆ แม้แต่บาดแผลก็ไม่มีด้วยซ้ำ
ว่ากันว่า หลังจากพวกโจรที่ค่ายไป๋หู จับตัวฉางเล่อเหยียนได้ พวกเขาก็เรียกค่าไถ่ที่สูงเสียดฟ้ากับจวนตระกูลฉางทันที
และยังมีการจัดงานเลี้ยงฉลองด้วย
แต่ในคืนนั้น พวกโจรก็ถูกคนเข้าไปฆ่าในรังโจร
เมื่อฉินหย่วนอี้ได้ยินสิ่งที่แม่ของเขาพูด ก็ตกตะลึง
“เป็นไปไม่ได้!” เขาไม่เคยแตะต้องเธอเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...