เมื่อเซี่ยซานมาถึงเมืองชี หรงเฉินก็ได้รับข่าวว่าจักรพรรดิเฉิน ถอนกำลังทหารของเขา และกำลังเตรียมตัวกลีบเมืองหลวง
“ท่านอ๋องเฉิน” เซี่ยชานคุกเข่าต่อหน้าหรงเฉิน
หนงเฉินรู้สึกประหลาดใจ หลังจากมองดูเธอแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว โดยมองหาร่างที่คุ้นเคยนั้น
แต่แล้ว เขาก็รู้สึกผิดหวัง
เซี่ยซานมาแล้ว แต่ ฉางเล่อเหยียนไม่ได้มา
ก็จริง ตอนนี้เธอเป็นภรรยาขององค์ชายฉินแล้ว เธอจะมาที่แบบนี่ได้อย่างไร
เขาถามว่า: "เจ้ามาคนเดียวหรือ?"
หลังจากที่เซี่ยซานเข้าเมืองชีแล้ว เขาก็ขอให้ผู้คุมของจวนฉางกลับไปปกป้อมฉางเล่อเหยียนที่ตระกูลฉิน
“เป็นผู้คุ้มของคุณหนูข้า ที่ส่งบ่าวมาที่เมืองชี” พูดจบ เซี่ยซานก็หยิบจดหมายออกมาจากกระเป๋าของตัวเองและส่งมอบให้กับหรงเฉิน: “ท่านอ๋องเฉิน นี่คือสิ่งที่คุณหนูข้าที่ฝากจดหมายมาให้บ่าว”
หรงเฉินหยิบจดหมายขึ้นมา เปิดอ่านอย่างรวดเร็วทีละบรรทัด และอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ฉางเล่อเหยียน เป็นหญิงสาวที่มีความสามารถมากจริงๆ ตัวหนีงสือที่เธอเขียนนั้นทำให้หนงเฉินชื่นชมอย่างมาก
แต่ว่า
เธอเล่าทุกอย่างที่เซี่ยซานได้เผชิญมาให้เขาฟัง และเธอหวังว่าเขาจะส่งเซี่ยซานไปอยู่กับไป๋ชิงหลิงได้
สารเลวนี้กล้าที่จะปฏิบัติต่อคุณหนูฉางสองแบบนี้ได้ไง
“ลุกขึ้นเถอะ” หรงเฉินกล่าว
หลังจากที่เซี่ยซาน ลุกขึ้น ริมฝีปากของเธอก็ขยับ อยากจะบอกเขาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของฉางเล่อเหยียน แต่หรงเฉินก็ให้คนไปจัดหาที่อยู่ให้เธอแล้ว
วันรุ่งขึ้น หรงเฉินเดินทางกลับเมืองหลวง
และก็ถึงวันคัดนางงามของวังเช่นกัน
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ไทเฮาก็มีเนื้อมีนวลขึ้นในภายใต้การดูแลของไป๋ชิงหลิง
เธอกำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมงานคัดคนงามปีนี้เพื่อเลือกพระชายาที่ถูกใจให้กับอ๋องเฉิน
ในขณะนี้ กำลังดูภาพบุคคลในตำหนักฮุ่ยหนิง
ไทเฮาชี้ไปที่ภาพวาดแล้วกล่าวว่า “สาวตระกูลหวังก็ดูดี”
“สาวตระกูลฉินด้วย!” ไป๋ชิงหลิงชี้ไปที่ภาพบุคคล
เธอคิดว่าภาพบุคคลทั้งหมดนี้ดูเหมือนกันหมด
บางครั้งอารมณ์ของหรงเฉินก็ฉุนเฉียว แต่บางครั้งเขาก็ดูเงียบและออกนอกกรอบเล็กน้อย หลังจากได้ทำความรู้จักแล้ว เธอก็รู้สึกว่าสาวจากตระกูลซุนก็ดีและบุคลิกของเธอก็ค่อนข้างเหมือนกับฉางเล่อเหยียน
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่เธอนึกถึงเล่อเหยียนในวันคัดคนงาม
ดูเหมือนว่าจะมีเพียงผู้หญิงแบบนี้ในโลกนี้ที่สามารถเทียบเคียงอ๋องเฉินได้
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทั้งสองคนแล้ว
“พี่สะใภ้เจ็ด เสด็จย่า” เสียงของหลวนอี๋ดังมาจากด้านนอก
ข้างหลังเธอตามมาหวู่ซือ
ไทเฮาและไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน
ทั้งสองคนเดินมาตามระดับ คนหนึ่งสวมกระโปรงยาวสีม่วง มีกิ๊บติดผมประดับด้วยผีเสื้อบนหัว อีกคนสวมชุดคลุมผ้าสีม่วง หล่อเหลาและทรงพลัง
ดูเหมือนเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบมากๆ
ดวงตาของไปเฮาเป็นประกาย เธอยกนิ้วขึ้นแล้วชี้ไปที่หลวนอี่และหวู่ดโป๋หยวน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "เหมาะสมกันมากๆ!"
ช่วงนี้ไป๋ชิงหลิงกังวลเกี่ยวกับบางสิ่งอยู่
จินจื่อเสวียน ก็ต้องการแต่งงานกับองค์หญิงด้วย และตอนนี้ เขาพยายามทำให้องค์หญิงพอใจและพยายามเป็นองครักษ์ให้กับจักรพรรรดิ แต่แล้วการพูดอวดอวยของเขาคือสิ่งที่จักรพรรดิเหยาต้องการ
ถ้าหลวนอี๋ไม่เต็มใจที่จะเข้าใกล้เขา เกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงได้
ท้ายที่สุดแล้วเมืองชีก็สงบลงแล้ว และหลานเฉินเฟิง ซึ่งองครักษ์สูงศักดิ์ที่กำลังกลับเมืองหลวงเป็นก็ได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิ
ตัวตนของจินจื่อเสวียนเพิ่มขึ้นตามอย่างเป็นธรรมชาติ
เขาเป็นฆาตกรของที่ฆ่าอวิ๋นเซียงอวิ๋นเยว่ เธอจะปล่อยให้คนร้ายอย่าง จินจื่อเสวียน แต่งงานกับองค์หญิงได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...