"ว้าว เขาขยับแล้ว เขาขยับแล้ว น้องๆถีบมือของข้า" ไป๋ชงเซิงจ้องมองไปที่ท้อง ร้องออกมาด้วยความดีใจ สีหน้ายิ้มแย้ม
ไป๋ชิงหลิงยื่นมือไปลูบศีรษะไป๋ชงเซิง พูดด้วยความสงสาร :"เซิงเอ๋อร์ เจ้าไม่ได้ทานอาหารดีๆเลยใช่หรือไม่ ซูบผอมลงไปเยอะ"
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชงเซิงเริ่มหายไป
เธอเหลือบไปมองหรงเยี่ย คิดสักพัก แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่ตนเองไม่สบายใจออกมา
"เพราะข้าคิดถึงเสด็จแม่ เสด็จพ่อเขาดูแลข้าดีมาก ทุกวันสั่งให้คนทำอาหารในครัวทำให้ข้าทานตั้งหลายอย่าง เพียงแต่ข้าอยากทานพร้อมกับเสด็จแม่และจิ่งหลิน แล้วก็คิดถึงน้องๆด้วยเพคะ" ไป๋ชงเซิงก้มหน้าพูด
หรงจิ่งหลินได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็อึดอัด กดดันขึ้นมาเล็กน้อย
เขาไปด้านหน้า จับมือของไป๋ชงเซิงไว้ :"เช่นนั้นวันนี้ให้ห้องครัวทำของอร่อย พวกเรามานั่งทานอาหารพร้อมกัน"
"ทานอาหารเสร็จ ข้าก็ต้องกลับวังกับเสด็จพ่ออีก" ไป๋ชงเซิงยังคงเซื่องซึม
หรงจิ่งหลินนิ่งอึ้งไป ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจเธออย่างไร
เวลานี้ หรงเยี่ยพูดขึ้นมา :"ไม่กลับวัง"
เด็กน้อยทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองเขา ไป๋ชิงหลิงก็มองไปทางชายหนุ่มเช่นกัน แล้วพูด :"เจ้าจะให้เซิงเอ๋อร์อยู่ที่ตระกูลกู้?"
"ข้าก็จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าด้วย เจ้าคิดว่าอย่างไร?"
ในใจไป๋ชิงหลิงเต้นอย่างบ้าคลั่ง ความกดดันหายไป ความตื่นเต้นและรอคอยเกิดขึ้นพร้อมกันในใจเธอ
เธอถามกลับด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ :"เจ้าอยู่ต่อที่นี่? แล้วทางเสด็จพ่อ......"
"อย่างมากครึ่งเดือน"
ครึ่งเดือน!
เขาจะอยู่กับเธอครึ่งเดือน
นี่สำหรับเธอแล้ว อย่างกับเป็นเรื่องเพ้อฝัน
ที่เพ้อฝันมานานมากแล้ว......
"ในวังเกิดขึ้นอะไรขึ้นใช่หรือไม่ ทำไมเจ้า......"
"รออีกครึ่งเดือน หลังจากครึ่งเดือน พวกเรากลับวังด้วยกัน"
พอได้ยินประโยคนี้ ในใจไป๋ชิงหลิงก็มีคำตอบแล้ว ดูท่า......เขาใกล้จับฆาตกรตัวจริงได้แล้ว
เธอกำมือใหญ่ของเขาไว้ ยิ้มแล้วพยักหน้า :"อืม!"
"เซิงเอ๋อร์ เจ้าได้ยินหรือไม่ เสด็จพ่อจะอยู่ที่นี่ พวกเราใกล้จะได้กลับวังแล้ว"
"ช่างดีจริง ช่างดีจริง!"
"ข้าพาเจ้าไปเดินเล่น" หรงจิ่งหลินจับมือไป๋ชงเซิง แล้วเดินออกจากไปศาลา
"พวกเราก็กลับเข้าเรือนกันเถอะ" ไป๋ชิงหลิงเห็นว่าเด็กทั้งสองไปแล้ว ก็เงยหน้าพูด
หรงเยี่ยพยักหน้า จู่ๆก็เอี้ยวตัวมา อุ้มไป๋ชิงหลิงขึ้นในท่านอน
ไป๋ชิงหลิงร้องตะโกนออกมา มือทั้งสองกอดคอหรงเยี่ยไว้แน่น :"อย่านะ เจ้ารีบวางข้าลง ท้องข้าหนักเกินไป"
"อุ้มเด็กสี่คน ผู้หญิงอีกหนึ่งคน หากข้าไม่สามารถทำได้ ข้าก็คงเป็นเสด็จพ่อไม่ได้"
"ข้ากลัว!" มือทั้งสองของเธอจับไว้แน่น กลัวว่าถ้าไม่ระวังจะล้มเอาทั้งคู่
หรงเยี่ยมองท่าทางของเธอ ยกริมฝีปากขึ้น :"เจ้ากลัวว่าข้าจะทำเจ้าล้มงั้นหรือ"
"เปล่าเพคะ ข้า......" หน้าเธอแดงก่ำ แล้วพูด :"มีใครที่ไหนอุ้มคนท้องกัน ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น รีบวางข้าลงเถอะ"
หรงเยี่ยไม่ได้สนใจเธอ อุ้มเธอกลับเข้าไปในเรือน แล้ววางบนเตียงนิ่มๆ
ขณะที่ไป๋ชิงหลิงนอนลง ก็รู้สึกถึงความสบายขึ้นเยอะ
เขาหยิบเบาะรองนิ่ม รองให้ที่ด้านหลังเธอ แล้วก้มหน้ามองท้องขนาดใหญ่ :"เหนื่อยมากใช่หรือไม่?"
"เหนื่อยแน่นอนอยู่แล้วเพคะ ตอนนี้ข้าเดินเยอะไม่ได้ นั่งนานก็ไม่ได้ ยืนไปสักพักก็เหนื่อยแล้ว พอนอนลงก็เหนื่อยอีก" ไป๋ชิงหลิงพูดถึงความลำบากที่พูดไม่ได้ของเธอ
หรงเยี่ยจูบเบาๆที่หน้าผากเธอด้วยความสงสาร :"วิชาแพทย์เจ้าสูงส่งเช่นนั้น มีวิธีที่ทำให้ผู้ชายมีลูกไม่ได้หรือไม่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...