ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 854

แม้ว่าหรงเยี่ยจะพูดแบบนี้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของลูกสาวตัสเอง เขาไม่สนใจว่าพวกใต้เท้าจะพูออย่างไง วันรุ่งขึ้น เขาไปก้ได้อุ้มอาหวงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาไปขึ้นประชุมราชสำนักจริงๆ

แน่นอนพวกใต้เท้าต่างประหลาดใจอย่างมาก ในระหว่างการสนทนา ความสนใจของพวกเขามุ่งไปที่องค์หญิงตัวน้อย

ใต้เท้ากลุ่มหนึ่งยุติการประชุมราชสำนักอย่างยุ่งเหยิงเช่นนี้ไป

จนกระทั่งหรงเยี่ยยุติการประชุมราชสำนักด้วยการอุ้มเด็กไว้อ้อมแขน บรรดาใต้เท้าก็ตั้งสติกลับมาได้ จากนั้นจึงรวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้เบื้องหลังของจักรพรรดิคนใหม่นี้

“นี่... นี่ นี่ นี่... นี่มันไม่อะไรกัน!”

“แล้วฮองเฮาล่ะ? เธอไม่ดูแลเด็ก กลับให้จักรพรรดิดูแลเอง”

“จักรพรรดิมีหลายสิ่งที่ต้องทำ จะหันเหความสนใจไปดูแลเด็กได้ยังไง”

“นี่มันเป็นหญิงที่ไม่รู้กาลเทศะจริงๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮากำลังคิดอะไรอยู่”

“เราไม่สามารถปล่อยให้จักรพรรดินั้นโปรดปรานเธอแบบนี้อีกต่อไป”

“ใครจะไปที่ตำหนักต้าหมิงกับข้าบ้าง”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดแบบนี้ขึ้นมา และใต้เท้าที่อยู่ข้างๆ เขาก็ถอยหลังไปอย่างมาก

พวกเขาแค่กล้าเก่งแต่ปากเท่านั้น แต่ไม่กล้าไปหาจักรพรรดิเพื่อแสดงความไม่พอใจจริงๆ

หลังจากการทำงานหนักไม่กี่เดือน ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบนิสัยและอุปนิสัยของจักรพรรดิคนใหม่แล้ว

ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามแข็งกร้าวกับเขา และดูเหมือนว่าก็ไม่เหมือนประโยชน์ที่จะพูดอ่อนกับเขาเช่นกัน

เขาฟังคำพูดของฮองเฮามากที่สุด

ใต้เท้าโจวพูดด้วยใบหน้าเข้ม: "ตามข้าว่า ไม่ควรที่จะไปหาจักรพรรดิ แต่ควรที่จะไปหาฮองเฮาเเทน จักรพรรดินั้นฟังแค่คำพูดของฮองเฮา"

ใต้เท้าคนอื่นๆ ก็พยักหน้าทันที

“แล้วใครจะไปตำหนักเฟิงอี้กับข้าล่ะ” ใต้เท้าโจวถามอีกครั้ง

พวกใต้เท้าต่างก็มองหน้ากัน ในที่สุดก็มีใต้เท้าบางส่วนเดินออกมา รวมทั้งฉางซิงเว่ยด้วย

“ข้า จักรพรรดิไม่ควรนำเด็กมาประชุมด้วยจริงๆข้าจะไปกับใต้เท้าโจวเพื่อตามฮองเฮาเพื่อเจรจา” ฉางซิงเว่ยกล่าว

ใต้เท้าโจวมองดูเขาอย่างชื่นชม

หลังจากนั้น ใต้เท้าที่อีกหลายคนก็เดินออกมาข้างหน้า และพวกเขาก็ไปที่ตำหนักเฟิงอี้ด้วยกันเพื่อไปหาเรื่องฮองเฮา

เพราะยังไงแล้ว พวกเขาก็ไม่ชอบที่ถูกโปรดปรานเพียงคนเดียวในวังหลังมานานแล้ว

และพวกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่วังหลังนั้นมีเพียงฮองเฮาคนเดียวนั้นก็คือใต้เท้าที่ต้องการส่งลูกสาวของตัวเองเข้าวัง

ว่ากันว่านางสนมในวังหลังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ราชวงศ์ใดที่วังหลังนั้นต้องมีการสายสัมพันธ์กับ...

พวกเขาอาศัยเรื่องที่ครอบครัวไป๋ชิงหลังได้กลายเป็นนักโทษ และต้องการหาโอกาสที่จะทำให้ฮองเฮาต้องได้รับคำสั่งสอนสักหน่อยมากนานแล้ว

ตำหนักเฟิงอี้

องค์ชายทั้งสามอยู่กับไทเฮาและองค์หญิงก็อยู่กับจักรพรรดิ ไป๋ชิงหลิงจึงกลายเป็นคนที่สบายที่สุด

เธอจึงหาอะไรทำ เธอกำลังเขียนภาพวาดรีสอท์หน้าโต๊ะ เพราะเธอวางแผนที่จะเปลี่ยนดินแดนรกร้างที่ติ้งเป่ยโหว ให้กลายเป็น "เมืองที่ไม่มีการหลับใหล"

ประการแรจะ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและเติมเต็มคลังให้กับแคว้นได้ ประการที่สองในอนาคตติ่งเป่ยโหว ยังสามารถตั้งถิ่นฐานที่นั่นได้โดยไม่ต้องเผชิญกับเรื่องเกษครกรอีก!

เธอยังสามารถให้ ติ่งเป๋ยโหว ดูแลเมืองที่ไม่มีการหลับใหลและกลายเป็นเจ้าเมืองที่นั่นได้

ความคิดนี้เกิดขึ้นกับเธอในช่วงที่เธออยู่เดือนแล้ว

ในเวลานี้ หยุนหยิน นางกำนัลใหญ่ก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก: " นางสนม นางสนม..."

ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "หยุนหยิน เกิดอะไรขึ้น?"

“มีใต้เท้าหลายคนกำลังมุ่งหน้ามาที่ตำหนักเฟิงอี้ของเรา ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร!” หยุนหยินเห็นใต้เท้าเหล่านั้นมุ่งหน้ามาที่ตำหนักเฟิงอี้ด้วยท่าทีคุกคาม จึงรีบวางสิ่งที่กำลังทำอยู่และวิ่งเข้ามาแจ้งให้ทราบ ไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงพูดเบาๆ "อ้อ": "น่าจะมาที่นี่เพื่อเรื่องที่จักรพพรดินำองค์หญิงขึ้นประชุม"

พวกเขารังแกเธอเพราะว่าไม่มีใครในตระกูลเธอที่อยู่เมืองหลวง

ไป๋ชิงหลิงรู้ความคิดของพวกเขาและพูดต่อว่า: "แม้ว่าตระกูลของข้าจะกลายเป็นนักโทษหรือผีหัวขาดไปแล้ว แต่ท่านใต้เท้าก็อย่าลืมว่าข้า... เป็นคนที่มีลูกๆด้วย"

“เจ้า...” ใต้เท้าเฉาที่อายุเยอะสุด เมื่อเห็นว่าเธอเย่อหยิ่งแบบนี้ จึงชี้ไปที่ไป๋ชิงหลิงด้วยความโกรธ

“เจ้าข้าที่จะใช้มือชี้มาที่ข้างั้นหรือ”

ดวงตาของเธอมืดลงและน้ำเสียงของเธอก็เย็นชา

ใต้เท้าเฉารู้สึกอย่างอธิบายไม่ถูกว่าสายตาของเธอนั้นดูหนาแน่นจนน่ากลัว ดังนั้นเขาจึงรีบเก็บนิ้ว: "ป่าวพะนะค่ะ ข้าน้อยไม่กล้า"

“แล้วเหล่าใต้เท้ามาที่ตำหนักของข้านั้นเพื่อเรื่องอะไร”

ฉางซิงเว่ย กล่าวว่า: "แน่นอนว่าต้องการให้ฮองเฮาโน้มน้าวจักรพรรดิตั้งแต่สมัยก่อนจึงถึงทุกวันนี้ไม่มีกษัตริย์คนใดนำองค์หญิงขึ้นราชสำนัก ประชุมด้วย หากจักรพรรดินำองค์ชายมา ก็ไม่มีใต้เท้าคนใดจะคัดค้านใด ๆ แต่องค์หญิง… ”

“องค์หญิงแล้วทำไมหรือ?” ไป๋ชิงหลิงค่อยๆ ขยับสายตาของเธอ และดวงตาของเธอก็จ้องมองไปที่ฉางซิงเว่ยอีกครั้ง

ฉางซิงเว่ยกล่าวว่า: "องค์หญิงนั้นเป็นเพียงผู้หญิง"

“ใต้เท้าฉางดูถูกผู้หญิงงั้นหรือ?”

เอ๋อ......

ทำไมถึงขึ้นเป็นการดูถูกผู้หญิงไปได้?

“ดังนั้น ใต้เท้าฉางจึงสามารถละทิ้งคนรักในวัยเด็กของตนได้ตามใจ ยังหาข้ออ้างว่าตัวเองนั้นเป้นคนที่รักเดียวแต่เธอนั้นเป็นคนที่ไร้ความสามารถและขี้ขลาด และสร้างเรื่องที่ตัวเองนั้นเป็นคนรักเดียว และมาสั่งสอนข้าในที่นี่หรือ!”

การแสดงออกของฉางซิงเว่ย เปลี่ยนไปอย่างมาก และความเยือกเย็นแวบขึ้นมาในดวงตาของเขา แต่ในไม่ช้ามันก็หายไป

“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของข้าน้อย!”

“งั้นหรือ แล้วการแลกเปลี่ยนความสุขของน้องสาวตัวเองเพื่อนางงามคนหนึ่งก็เป็นเรื่องส่วนตัวของใต้เท้าฉางด้วยงั้นหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น