สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่เปลี่ยนไปทันที และลูกสะใภ้สองคนที่อยู่ข้าง ๆ นางก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน
แม่นางซุนและแม่นางจางมองหน้ากัน แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดโน้มน้าว
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ขมวดคิ้วรู้สึกรำคาญกับคำพูด “ไม่ดี” ของไทเฮาเต๋อ แต่นางไม่กล้าแสดงความโกรธในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม นางซึ่งเป็นนางสนม ในตอนนี้ก็กลายเป็นไทเฮา ฝ่าบาทและฮองเฮาก็ต้องเคารพนาง นางเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเทียน
แม้ว่านางจะเป็นแม่ที่ชอบด้วยกฏหมาย แต่ก็ยังต้องควบคุมตัวเอง
แต่มีคนหนึ่งที่สามารถรักษานางได้เสมอ “นี่คือสิ่งที่ท่านพ่อของพระองค์หมายถึง!”
ไทเฮาเต๋อขมวดคิ้ว นี่เป็นประโยคที่นางได้ยินมากที่สุด นับตั้งแต่นางขึ้นตำแหน่งสูง
ทุกครั้งที่นางต้องการบรรลุผลสำเร็จบางอย่าง นางจะย้ายพ่อของนาง ป้าของนางรู้ดี ว่านางไม่อาจปฏิเสธพ่อของนางได้
แม่นมเลี่ยวเห็นทุกอย่าง แต่ในใจนางรู้สึกเสียใจกับเจ้านายของตัวเอง……”
ในตอนนั้นเนื่องจากเรื่องของตระกูลสวี่ ตระกูลสวี่จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะบีบบังคับนายหญิง และในที่สุดก็ทำให้จักรพรรดิผู้ล่วงลับไปแล้วก็เพิกเฉยต่อไทเฮาเต๋อ เพราะเรื่องของตระกูลสวี่
ตอนนี้เมื่อเห็นว่านายหญิงได้กลายเป็นป้าที่ถูกต้องตามกฏหมายของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน จึงพยายามบีบบังคับใช้คุณค่าของนายท่านอีกครั้ง ทำไมตระกูลสวี่ถึงไร้ยางอายขนาดนั้น !
ไทเฮาทรงตรัสตอบว่า “ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร?”
“แน่นอนว่าใช่!”ฮูหยินถูกทิ้งไว้ผู้เฒ่าสวี่ตอบอย่างหนักแน่น “พระองค์ก็รู้ด้วยว่า พ่อของพระองค์เป็นห่วงพี่สาวคนโตมาก แต่พี่สาวคนโตของพระองค์เสียชีวิตเร็ว ปี้อวี้ถูกทิ้งให้อยู่ในตระกูลแม่คนเดียวที่นั่น และแม่เลี้ยงของนางก็ปฏิบัติต่อนางอย่างเลวร้ายค่อนข้างรุนแรง และจะหาครอบครัวที่ดีสำหรับนางได้อย่างไร”
ในใจไทเฮาเต๋อรู้สึกเย็นชา “ข้าสามารถหาครอบครัวที่ดีสำหรับปี้อวี้ได้ ปัจจุบันมีชายโสดที่โดดเด่นมากมายในหมู่ผู้มีอำนาจในเมืองหลวง ด้วยภูมิหลังและภาพลักษณ์ของครอบครัวปี้อวี้……”
“ไทเฮา!” ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ได้ยินเรื่องผิดปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบขัดจังหวะ
ไทเฮาเต๋อเลิกคิ้วแล้วถามว่า “มีอะไรหรือ?”
“สิ่งที่หม่อมฉันหมายถึงคือ……”ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่เหลือบมองไปที่พระราชวังใหญ่ขนาดนี้ “หม่อมฉันคิดมาสักพักแล้ว ไม่ว่าตำแหน่งขุนนางแห่งราชวงศ์ในเมืองหลวงจะดีแค่ไหน มันจะดีกว่าไหมถ้ามีที่อาศัยที่ทำจากทองคำและหยก ! “
เข้าใจแล้ว !
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ต้องการส่งใครสักคนเข้าวัง เพื่อเป็นนางสนมของฝ่าบาท
แม่นมเลี่ยวตอบด้วยสีหน้าที่ไม่ดีทันที “ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ เรื่องของวังหลังไ ด้รับการดูแลจากไทเฮามาโดยตลอด แต่ตอนนี้ไทเฮาไม่สนใจที่จะดูแลเรื่องวังหลังแล้ว”
“เจ้าจะเพิกเฉยได้อย่างไร พระองค์ดูสิตอนนี้สิมันดีขนาดไหน ทั้งพระราชวังนี้พระองค์มีสิทธิ์พูดอะไรก็ได้!”
“ท่านแม่!” ไทเฮาเต๋อมีสีหน้าเคร่งขรึม
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อนางมองไปที่ไทเฮาเต๋อ นางก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสีหน้าของไทเฮาเต๋อ
ไทเฮาเต๋อพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อยู่ในพระราชวัง ไม่ดีเท่าอยู่บ้านของตัวเอง ระวังปัญหาที่มาจากปากของท่าน เมื่อถึงตอนนี้นข้าก็ไม่สามารถช่วยท่านได้”
“นี่……” ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ยังไม่รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยความโกรธ สิ่งที่ข้าพูดไปมีอะไรผิดปกติ ในพระราชวังนี้นอกจากพระองค์ ฮองเฮา และฝ่าบาทแล้ว ยังมีใครอีก หากพระองค์ต้องการยึดอำนาจของวังหลัง ข้าไม่เชื่อว่าฝ่าบาทจะไม่ตอบตกลง”
“ได้ยินมาว่าไทเฮาก็ไม่ชอบดูแลเรื่องต่าง ๆ อย่างนั้นก็ดี ปี้อวี้เก่งที่สุดในการจัดการบ้านและเรือนหลังได้ดีที่สุด พระองค์สามารถเก็บนางไว้ และช่วยไทเฮาดูแลวังหลังในอนาคต”
“ท่านแม่อย่าเปิดเผยอดีตดีกว่า ถ้าอยากเปิดเผยจริง ๆ ข้าเกรงว่าเรื่องจะจบไม่สวย” เมื่อไทเฮาเต๋อได้ยินสิ่งที่นางพูด ก็โกรธมากจนอยากจะหัวเราะ
แต่ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ได้พิจารณาแล้วว่าความมั่งคั่งในปัจจุบันของไทเฮาเต๋อนั้น ก็คือเอามาจากพี่สาวคนโตของนาง
“ข้าไม่สน ข้าจะให้ปี้อวี้อยู่ในพระราชวัง ให้นางดำรงตำแหน่งพี่สาวคนโตของเจ้า ตอนนี้พี่สาวคนโตของเจ้าเสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัย เจ้าจึงทิ้งปี้อวี้ไว้ตามลำพัง เจ้ายังมีจิตสำนึก”
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่หันกลับมา ดึงมือของกวนปี้อวี้ แล้วผลักนางไปข้างหน้า
กวนปี้อวี้คุกเข่าลงกับพื้นทั้งน้ำตาคลอเบ้าและร้องว่า “ท่านยาย ปี้อวี้ไม่ควรอยู่ในวัง และทำให้ท่านป้าไม่มีความสุข ท่านป้าสัญญาว่าจะหาคู่ให้ปี้อวี้แล้ว ปี้อวี้มีความสุขมากแล้ว ได้โปรดเถอะท่านยาย ให้ข้ากลับตระกูลซูเถอะ”
“เจ้า……เจ้าเด็กโง่ รีบลุกขึ้น!” ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่จับแขนของกวนปี้อวี้ “ถ้าเจ้าจะคุกเข่าก็ควรคุกเข่าต่อไทเฮา และขอร้องให้เจ้าอยู่ในวัง”
“ไม่ ไม่ ท่านยาย ข้าได้ยินมาว่าฝ่าบาทและฮองเฮาทรงรักกันมาก และมีองค์ชายสี่คนและธิดาสองคน เรื่องนี้ไม่มีใครเทียบได้” กวนปี้อวี้จับเสื้อผ้าของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่แน่นขึ้น และร้องไห้ทั้งน้ำตา
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่โกรธมาก จนยกมือขึ้นตบบนร่างกายกวนปี้อวี้แล้วพูดว่า “เจ้าโง่เขลา มีผู้ชายบางคนที่ไม่มีภรรยาสามคนหรือนางสนมสี่คน ไม่ต้องพูดถึงว่านี่คือฝ่าบาทและไทเฮา เช่นนั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน ให้ปี้อวี้อยู่ในตำหนักฮุ่ยหนิง และหม่อมฉันขอตัวกลับก่อน”
หลังจากพูดจบ ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ก็ไม่สนใจว่าไทเฮาจะตอบตกลงหรือไม่ นางสะบัดมือของกวนปี้อวี้ หันหลังกลับและเรียกสะใภ้ทั้งสองของนางเดินออกไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากก้าวไปสองก้าว การประกาศของวั่นฝูก็มาจากภายนอก “ไทเฮาเหนียงเหนียงเสด็จมาถึงแล้ว_____”
วั่นฝูได้มาอยู่ข้างกายไป๋ชิงหลิงแล้ว
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ได้ยินประกาศจากภายนอก สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที
ทำไมฮองเฮาถึงมาในเวลานี้ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...