ตอน บทที่ 857 ป้าของไทเฮา จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 857 ป้าของไทเฮา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ลูกสะใภ้ทั้งสองของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ หน้าซีดด้วยความตกใจ
พวกนางกล้าที่จะอวดดีต่อหน้าไทเฮา นั่นเป็นเพราะในมือมีตัวหมากอยู่ ไม่ว่าจะสร้างความรำคาญให้กับไทเฮามากแค่ไหน ไทเฮาก็จะเห็นแก่หน้าของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ มอบให้กับตระกูลสวี่สามแต้ม
หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็เดินไปหาไทเฮาเต๋อ “หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่ วันนี้หม่อมฉันนอนดึกอีกแล้ว จึงมาสายเพคะ !”
ไทเฮาเต๋อทรงกวาดล้างความมืดมนออกไป ยืนขึ้นและจับมือของไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า “ข้าก็ไม่กล้าขอให้เจ้าทำตื่นเช้ามาคารวะข้า หมอหลวงจ้าวบอกว่าหลังจากที่เจ้าให้กำเนิดองค์ชายและองค์หญิงหลายองค์ในครั้งนี้ เกรงว่าสุขภาพของเจ้าอาจย่ำแย่ลง และคงใช้เวลานานในการฟื้นตัว ข้ารู้สึกว่า หากเจ้าคิดว่ามันลำบาก เจ้าไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ทุกวันเพื่อแสดงความเคารพ เจ้าสามารถพักผ่อนในตำหนักของเจ้าได้”
“จะเป็นไปได้อย่างไรเพคะ ถ้าหม่อมฉันไม่แม้แต่จะเคารพ หม่อมฉันก็ไม่แน่ใจว่าคนข้างนอกเหล่านั้น จะพูดถึงหม่อมฉันอย่างไร และบอกว่าหม่อมฉันไม่เคารพไทเฮา หากใครมาเข้าเฝ้าไทเฮา และยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหม่อมฉันและพระองค์ หม่อมฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครพบช่องโหว่ใด ๆ เด็ดขาดเพคะ!”
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ได้ยินสิ่งนี้ นางก็กลอกตาโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้มันเวลาไหนกันแล้ว พระอาทิตย์กำลังตกที่บั้นท้ายของนาแล้ว เพิ่งมาคารวะ คิดว่านางจะไม่ถูกคนนินทาหรือ
“นั่งลงเถอะ” ไทเฮาเต๋อดึงไป๋ชิงหลิง นั่งลงข้างกายพระนาง
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของไทเฮาเต๋อ
พระนางรู้สึกกับท่านแม่คนนี้ ราวกับเป็นคนนอก
ในเวลานี้ ไป๋ชิงหลิงเพิ่งตระหนักถึงกวนปี้อวี้และเหล่าคนจากตระกูลสวี่
นางไม่เคยพบกับครอบครัวของไทเฮาเต๋อ และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับพวกเขา
“เสด็จแม่……มีคนมาเยี่ยมพระองค์!”
ไทเฮาเต๋อละทิ้งความไม่พอใจของพระนางต่อตระกูลสวี่ และแนะนำอย่างเรียบง่ายว่า “นี่คือฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลสวี่และลูกสะใภ้ทั้งสองกับหลานสาวของนาง!”
เมื่อได้ยินคำแนะนำนี้ สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ก็มืดมนลง
นางน่าจะแนะนำ นี่คือแม่ของข้า พี่สะใภ้และหลานสาวหรอกหรือ
ทำไมถึงดูเหมือนนางเป็นคนนอกตระกูลสวี่ นางไม่ได้มาจากตระกูลสวี่ !
“โอ้ ตระกูลสวี่!” ไป๋ชิงหลิงหันกลับมามองดูคนตระกูลสวี่อีกครั้ง
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่เห็นว่าไป๋ชิงหลิงพูดจาเหมือนค่อยเป็นค่อยไป และไม่มีอะไรต้องกลัว ดังนั้นนางจึงก้าวไปข้างหน้าอย่ากล้าหาญและพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันเป็นป้าของไทเฮา ทั้งสองคนนี้เป็นพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองของไทเฮา นี่คือลูกสาวผู้กำพร้าของลูกสาวคนโตหม่อมฉัน นามสกุลของนางคือกวน และชื่อของนางคือปี้อวี้ !”
ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้วขึ้น และดวงตาของนางจ้องมองไปที่กวนปี้อวี้
เมื่อครู่ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่พูดถึงกวนปี้อวี้หลายประโยค เพื่อแนะนำผู้หญิงนางนี้งั้นหรือ ?
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฮูหยินผู้เฒ่าสวี่หมายถึงอะไร
จักรพรรดิองค์ใหม่ยังทรงพระเยาว์และหล่อเหลา เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย และนอกวังมีคนนับไม่ถ้วนที่ต้องการเข้าใกล้ฝ่าบาท
กวนปี้อวี้คนนี้ เกรงว่าน่าจะเป็นหนึ่งในนั้น
“คนเราไปดั่งชื่อตัวเอง ปี้อวี้น้อย ดูราวกับหญิงสาวที่ละเอียดอ่อน” ไป๋ชิงหลิงพูดเบา ๆ โดยมีลักยิ้มลูกแพร์ตื้น ๆ สองอันบนใบหน้าของนาง
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ คิดว่าไทเฮาสนใจหลานสาวของนาง
“ใช่แล้ว ปี้อวี้เชี่ยวชาญด้านดนตรี หมากรุก ศิลปะอักษรและภาพวาด ตลอดจนเป็นสตรีผู้เพียบพร้อม……”
“โอ้” ไป๋ชิงหลิงถามเบา ๆ “ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ต้องการพบไทเฮา เพื่อหางานในพระราชวังให้แม่นางกวนหรือ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ตกตะลึงกับคำพูดสุดท้ายของไป๋ชิงหลิง
เจ้ากำลังวางแผนทำอะไร !
นางส่งเข้ามาเพื่อมีความสุขกับชีวิต และรับใช้ฝ่าบาท
“นี่……”ไป๋ชิงหลิงมีสีหน้าลำบากใจ
เมื่อเห็นคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยของไทเฮา แม่นางจางจึงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีความกังวลอะไรหรือเพคะ?”
“จริง ๆ แล้วนางก็กังวล” ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้ว “ถ้าคุณหนูกวนอยู่ในวัง แน่นอนว่าสามารถแบ่งปันความกังวลของตระกูลเทียนได้อย่างแน่นอน และยังสามารถแบ่งปันภาระบางอย่างของพระราชวังแห่งนี้ได้ด้วย แต่……องค์รัชทายาทยังทรงพระเยาว์อยู่ ในตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่มีความตั้งใจที่จะมอบความรับผิดชอบที่สำคัญให้กับองค์รัชทายาทในขณะนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือรัชทายาทยังทรงพระเยาว์เกินไป ข้าไม่รังเกียจหากลูกชายของข้าจะหานางสนมที่มีอายุแก่กว่า ข้าแค่กลัวว่า……คุณหนูกวนไม่อยากรอ!”
อ๋าอ๋าอ๋าอ๋า ! ! ! !
นี่คือสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่และกวนปู้อวี้ รู้สึกในเวลานี้
ฮองเฮาโง่หรือเปล่า !
สมองของฮองเฮายังปกติอยู่ไหม !
ฮองเฮาพระองค์มีสมองบ้างหรือไม่ !
ใครอยากจะเป็นองค์ชายของฮองเฮา
ใครจะเป็นลูกสะใภ้ของพระองค์……
ไทเฮาเต๋อและแม่นมเลี่ยวต่างก็ยิ้ม“หัวเราะ”
โดยเฉพาะไทเฮา ซึ่งบังเอิญถือแก้วชาจิบพอดี ก็ได้ยินไป๋ชิงหลิงพูดเช่นนี้
นางพ่นน้ำชาไปทั่วกระโปรง จนแทบจะสำลัก แต่นางก็อยากจะหัวเราะอีกครั้ง……
แต่เมื่อคิดว่านั่นเป็นป้าของพระนาง ไทเฮาเต๋อจึงอดกลั้นไว้ แต่ท้องของนางทนไม่ไหวอีกต่อไป นางตัวสั่นหลายครั้ง และนางแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ได้ และแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ได้จนภายในเจ็บปวด……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...