ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 90

"อย่าให้ความโง่เขลาเบาปัญญาของท่าน ต้องทำร้ายพวกเขาสองคน"

"เจ้า......" ฮองเฮาอู๋โกรธจัด และไม่ฟังคำพูดของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว และได้ตะคอกใส่เขา "ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"

คืนนั้น ฮองเฮาอู๋ได้ส่งเสิ่นโหรวเม่ยออกไปจากวังหลวงด้วยตัวเอง

หลังจากที่เสิ่นโหรวเม่ยกลับไปยังจวนเสิ่นก็ได้เป็นไข้ตัวร้อนและเนื้อตัวสั่นเทา จากนั้นได้ล้มป่วยลงทันที

บาดแผลที่หน้าผาก สำหรับนางแล้วนั้นไม่ถือว่าทำให้ร่างกายของนางต้องเสียหายอะไร แต่ความเจ็บปวดที่หรงเยี่ยมอบให้กับนางนั้น ทำให้หัวใจที่บอบช้ำอยู่เดิมของนางเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

อาการไข้ของนางไม่มีทีท่าจะลดลง ทำให้ท่านผู้เฒ่าเสิ่นโกรธเคืองอย่างมากและกล่าวกับฮองเฮาอู๋ว่า "ฮองเฮา โหรวเม่ยทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงถูกทำร้ายเช่นนี้ นางเพียงแค่หลงรักและมีใจให้ท่านอ๋องหรง โทษกระหม่อมเอง และโทษท่านแม่ของนางที่ให้ความฝันเช่นนี้กับนางตั้งแต่นางยังเด็ก โหรวเม่ยได้มอบความหวังของนางไว้ที่ท่านอ๋องหรง การแต่งงานถูกเลื่อนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปีนี้โหรวเม่ยก็อายุสิบแปดปี ตอนนี้นางกลับเป็นเช่นนี้......เช่นนั้นตายไปก็คงจะดี กระหม่อมเห็นแล้วรู้สึกสงสารนางอย่างมาก"

ฮองเฮาอู๋ลุกขึ้นจากเก้าอี้ "เหตุใดถึงพูดเช่นนั้นออกมา เรื่องนี้เป็นความผิดของท่านอ๋องหรง ข้าไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างเด็ดขาด ข้าจะทวงความยุติธรรมคืนมาให้กับโหรวเม่ยอย่างแน่นอน"

"ฮองเฮา" ท่านแม่ของเสิ่นโหรวเม่ย ฮูหยินเสิ่นคุกเข่าลง

ฮองเฮาอู๋รีบเดินเข้าไปประคองนาง "เจ้าคุกเข่าเพื่ออะไร รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้"

"ฮองเฮาได้โปรดให้ความยุติธรรมกับโหรวเม่ยด้วยเพคะ อาการป่วยของโหรวเม่ยหนักหนาอย่างมาก หม่อมฉันมีลูกทั้งหมดสี่คน อีกสามคนที่เหลือนั้นเป็นพี่ชายของนาง นางเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของหม่อมฉัน หม่อมฉันยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้นางตายไปเพคะ" ฮูหยินเสิ่นร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

เสิ่นโหรวเม่ยตัวร้อนจนเสียสติ นางกรีดร้องตะโกนอย่าทำอะไรนางๆ นางจะกลับบ้านเช่นนี้ตลอดเวลา

เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินเสิ่นเห็นลูกสาวของตัวเองต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้

ในใจของนางนั้นไม่กล้าโกรธเกลียดท่านอ๋องหรง นางโกรธแค้นไป๋เจาเสวี่ยที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องหรง

นางจะต้องทิ่มแทงผู้หญิงคนนั้นด้วยมีด เพื่อแก้แค้นให้กับลูกสาวของนาง

ฮองเฮาอู๋ประคองฮูหยินเสิ่นลุกขึ้นจากพื้น และให้สัญญาว่า "พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล โหรวเม่ยเป็นเด็กที่ข้าเห็นตั้งแต่ยังเล็กๆ ข้าก็เห็นนางเป็นลูกสาวของข้าอีกคน เยี่ยเอ๋อร์ก็เป็นลูกของข้า ข้าจะอบรมสั่งสอนเขาให้ดี และให้เขาจัดการเรื่องนี้อย่างดี"

เมื่อท่านผู้เฒ่าเสิ่นได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกคลายความขับข้องใจและไม่พูดอะไรอีก

ฮูหยินเสิ่นเป็นคนส่งฮองเฮาอู๋กลับออกจากจวนเสิ่นด้วยตัวเอง

เมื่อฮองเฮาอู๋กลับถึงยังวังหลวงก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว

นางไปยังตำหนักเฉียนหลงเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิเหยา ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าหรงเยี่ยกำลังคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูตำหนัก

ชุดส่วนบนของเขาถูกปลดลงมาถึงเอวโดยที่ช่วงบนของเขานั้นเปลือยเปล่า

ในมือของอิงอู๋ถือแส้ที่วันนี้เขาใช้ฟาดเสิ่นโหรวเม่ยไว้ และฟาดไปที่ร่างกายของหรงเยี่ย

ผิวหนังบนร่างกายของเขาได้ฉีกขาดออกจากกัน แม้แต่แขน ใบหน้า และลำคอของเขาก็มีรอยแผลเต็มไปหมด

โดยมีหลวนอี๋คุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างๆ "ท่านพี่เจ็ด หยุดให้เขาฟาดได้แล้ว หากฟาดเช่นนี้ต่อไป ท่านจะต้องตายอย่างแน่นอน"

"อิงอู๋ เจ้ารีบหยุดเดี๋ยวนี้" เมื่อหลวนอี๋เห็นว่าอิงอู๋ฟาดลงไปอีกครั้ง นางจึงคุกเข่าและคลานไปยังหรงเยี่ย

พลังความแข็งแกร่งของแส้นั้นร้ายกาจอย่างมาก ขณะที่หลวนอี๋เข้าไปนั้น ก็ได้ถูกแรงที่หลงเหลืออยู่จนทำให้ไม่สามารถขยับตัวต่อไปได้

ฮองเฮาอู๋สูดลมหายใจ และขณะที่อิงอู๋จะฟาดลงไปอีกครั้ง ฮองเฮาอู๋ก็ได้ตะโกนขึ้นมา "หยุดเดี๋ยวนี้"

แม้ว่านางจะไม่ได้ให้กำเนิดหรงเยี่ย แต่เขากลับเป็นลูกชายของพี่สาวของนาง

ตอนที่ท่านพี่ของนางมีชีวิตอยู่นั้นได้ปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี ทำให้นางเห็นหรงเยี่ยเป็นลูกแท้ๆ ของนางไปเสียแล้ว

ตอนที่หรงเยี่ยฟาดแส้ไปที่เสิ่นโหรวเม่ย นางรู้สึกโกรธมาก แต่เมื่อเห็นคนอื่นเอาแส้ฟาดเขา นางกลับรู้สึกว่าหัวใจของนางกำลังถูกกรีด

อิงอู๋ไม่กล้าขัดคำสั่งของฮองเฮาอู๋ จึงได้หยุดการกระทำของเขาลง

หรงเยี่ยกลับกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ทำต่อไป"

"หยุด หยุดเดี๋ยวนี้" ฮองเฮาอู๋วิ่งเข้ามาและมองดูร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา และสีหน้าของเขาก็ซีดเผือด "เยี่ยเอ๋อร์ เขาตีเจ้าจนตายแน่ๆ เจ้ารีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ หลวนอี๋ รีบไปตามหมอหลวง"

"ไม่ต้อง!" หรงเยี่ยทำสีหน้านิ่งเฉย "อิงอู๋ ทำต่อไป ยังเหลืออีกสามครั้ง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น