ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 91

สรุปบท บทที่ 91 ความคิดต่างระหว่างฮองเฮาอู๋และจักรพรรดิเหยา: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 91 ความคิดต่างระหว่างฮองเฮาอู๋และจักรพรรดิเหยา – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 91 ความคิดต่างระหว่างฮองเฮาอู๋และจักรพรรดิเหยา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

อิงอู๋เหวี่ยงแส้และฟาดลงไปสามครั้งติดต่อกัน ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเขาได้พักหายใจเลยสักนิด

น้ำตาของหลวนอี๋ไหลอาบแก้ม นางร้องไห้ต่อหน้าของฮองเฮาอู๋อย่างเจ็บปวด "เสด็จแม่ ท่านคอยปกป้องท่านพี่เสิ่นเช่นนั้น แต่ท่านกลับทำร้ายท่านพี่เจ็ด สิ่งที่ท่านพี่ไป๋พูดไปก็เป็นความจริงทั้งหมด ท่านพี่เสิ่นคอยพูดจายั่วยุให้เกิดความบาดหมางระหว่างท่านและเสด็จย่า ให้เกิดความบาดหมางระหว่างท่านและจิ่งหลินหลานชายของท่าน อีกทั้งยังทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างท่านและท่านพี่ไป๋ ทำให้ท่านรู้สึกเกลียดชังท่านพี่ไป๋ นางต่างหากที่เป็นตัวซวย......"

"เพี้ยะ!"

ฮองเฮาอู๋ตบหน้าหลวนอี๋อย่างแรง

หลวนอี๋ถูกจบและล้มลงไปกองกับพื้นทันที ปิ่นหยกที่อยู่บนศีรษะก็ตกลงมา ทำให้มีเศษหยกสีดำตกกระจัดกระจายเต็มไปหมด

ปิ่นหยกหักออกเป็นสองส่วน

แววตาของหรงเยี่ยจ้องมองไปยังปิ่นหยกอย่างเยือกเย็น นั่นเป็นปิ่นหยกที่เขามอบให้กับหลวนอี๋หลังจากกลับมาจากประจำการอยู่ที่เมืองเยี่ยหนาน

นางเห็นมันไว้เหมือนสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง และต้องคอยใช้ประดับศีรษะอยู่ทุกวี่วัน

"หลวนอี๋ เจ้าถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกลวงเข้าแล้ว ส่งคนมาที่นี่ นำตัวองค์หญิงไปกักบริเวณเดี๋ยวนี้" ฮองเฮาอู๋ออกคำสั่งออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว

หลวนอี๋เอามือกุมใบหน้าที่ถูกฮองเฮาตบ จากนั้นลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากและหัวเราะเสียงหลง "วันนี้เสด็จแม่ตบหน้าหม่อมฉันและท่านพี่เจ็ด เสด็จแม่......ท่านไม่เคยตบหน้าเราสองคนเลย ท่านกลับตบหน้าลูกของตัวเองเพียงเพื่อเสิ่นโหรวเม่ย"

ฮองเฮาอู๋สั่นสะท้านเล็กน้อย จากนั้นจึงยกฝ่ามือของนางขึ้นมามองดู

หากหลวนอี๋ไม่เตือนสตินาง นางก็คงไม่รู้เลยว่าวันนี้นางได้ใช้มือข้างนี้ตบทั้งไป๋เจาเสวี่ย หรงเยี่ยและลูกสาวของนาง......

ทว่า......เสิ่นโหรวเม่ยนางผิดอะไร

"นำตัวองค์หญิงออกไปเดี๋ยวนี้" หรงเยี่ยออกคำสั่ง

หลวนอี๋มองดูบาดแผลบนร่างกายของหรงเยี่ยและร้องไห้สะอึกสะอื้น

จากนั้นจึงได้หันกลับและเดินตามนางกำนัลออกไปจากตำหนักเฉียนชิง

หลังจากที่เดินออกไปไกลแล้ว หลวนอี๋ได้ส่งนางกำนัลคนสนิทไปตำหนักฮุ่ยหนิงเพื่อรายงานให้ไป๋ชิงหลิงทราบ

ทางฝั่งฮองเฮาอู๋ นางได้เดินเข้าไปในตำหนักเฉียนชิง

จักรพรรดิเหยากำลังตรวจอ่านฎีกา

เรื่องที่เกิดขึ้นที่อุทยานหลวงอวี้ฮวาวันนี้นั้น หลวนอี๋ได้กราบทูลพระองค์ไปหมดแล้ว

ฮองเฮาอู๋เห็นว่าพระองค์ยังคงนิ่งเฉยเช่นนี้จึงเกิดความคับแค้นขึ้นในใจ ทว่ากลับไม่กล้าแสดงอาการอะไรออกไปต่อหน้าจักรพรรดิเหยา

"ฝ่าบาท!" ฮองเฮาอู๋ไม่พอใจกับคำตอบเช่นนี้

นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ และไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเสิ่นต้องการเช่นกัน

จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วและมองนางอย่างไม่พอพระทัย "เรื่องการแต่งงานของเยี่ยเอ๋อร์ เสด็จแม่ได้เคยตรัสไว้แล้วว่าให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง และตอนนี้สุขภาพของเสด็จแม่ก็ไม่ดีเหมือนในอดีต หากต้องทำให้เสด็จแม่ทรงทรุดลงเพราะเรื่องการแต่งงานของเยี่ยเอ๋อร์ ข้าเกรงว่าเสด็จแม่จะทรงทนรับไม่ได้ ส่วนเรื่องไป๋เจาเสวี่ย ข้าจะไปพูดกับนางเช่นกัน เรื่องนี้ ข้าจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับตระกูลเสิ่น"

ฮองเฮาอู๋พูดไม่ออก คำพูดของจักรพรรดิเหยาทำให้ลำคอของนางเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่มาขวางไว้

จากนั้นจึงได้ปิดตาลงและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

"หากเสด็จพี่ยังมีชีวิตอยู่ ฝ่าบาทจะยังจัดการเรื่องของเยี่ยเอ๋อร์เช่นนี้!"

"ปัง!" เสียงตบโต๊ะดังกึกก้อง

จักรพรรดิเหยาจ้องมองนางด้วยความโกรธเกรี้ยว "ฮองเฮา เจ้าควรจะกลับไปตำหนักเฟิ่งหลิวเพื่อทบทวนการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ได้แล้ว"

พระองค์หรี่ตาลงและชำเลืองมองฟางกงกง "ส่งฮองเฮากลับตำหนัก"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น