ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 92

ไป๋ชิงหลิงเพิ่งจะกล่อมเด็กทั้งสองคนนอนหลับไป มู่ซินก็ได้มาเรียกนางที่ภายนอกตำหนัก

นางลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตู จากนั้นจึงเห็นว่าข้างกายของมู่ซินยังมีนางกำนัลยืนอยู่อีกหนึ่งคน

มู่ซินกล่าวว่า "หมอหญิงไป๋เจ้าคะ นางคือสาวใช้คนสนิทขององค์หญิง มีชื่อว่าเหลียนซิน องค์หญิงสั่งให้นางมาส่งข่าวเจ้าค่ะ"

"ดึกดื่นเช่นนี้แล้วองค์หญิงยังมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าอย่างนั้นหรือ?" ไป๋ชิงหลิงเดินออกมาจากภายในตำหนัก และปิดประตูไปเบาๆ

เหลียนซินดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงของนางสั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางตกใจกับบางสิ่งบางอย่าง

นางก้มหน้าลงและพูดตะกุกตะกัก "แม่นางไป๋ องค์หญิงสั่งให้บ่ามาบอกท่านว่าวันนี้ท่านอ๋องหรงไปตำหนักเฟิ่งหลิวและใช้แส้ฟาดคุณหนูเสิ่น หลังจากนั้นท่านอ๋องหรงก็ไปคุกเข่าที่หน้าตำหนักเฉียนชิงของฝ่าบาท และสั่งให้อิงอู๋ใช้แส้ฟาดไปที่ร่างกายของเขายี่สิบที ใครก็ไม่สามารถห้ามปรามได้ องค์หญิงอยากให้แม่นางไป๋ไปรักษาบาดแผลให้กับท่านอ๋องหรงเจ้าค่ะ"

สีหน้าของไป๋ชิงหลิงซีดเผือด "ท่านอ๋องงหรงสั่งให้อิงอู๋ฟาดเขาด้วยแส้?"

เหลียนซินพยักหน้า

"เขาบ้าไปแล้วหรือ!" ตอนนั้นที่เขาฟาดแส้ไปที่แผ่นหลังของนาง นางก็รู้สึกเจ็บปวดแทบตาย

แต่วันนี้เขากลับสั่งให้คนใช้แส้ฟาดเขายี่สิบครั้ง

เขายังมีชีวิตต่อไปอีกหรือไม่?

"เขาใช้แส้ฟาดเสิ่นโหรวเม่ยเพื่ออะไรหรือ?" ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ชอบใช้ความรุนแรง นางยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ยอมเป็นพระชายาของเขาอย่างแน่นอน

จะสู้ก็สู้เขาไม่ได้ หากวันใดเขาเกิดบ้าคลั่งอาการกำเริบขึ้นมา นางเกรงว่านางคงถูกเขาฆ่าตายเข้าสักวัน!

"องค์หญิงบอกว่า เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่อุทยานหลวงอวี้ฮวาวันนี้เจ้าค่ะ เพราะหมอหญิงไป๋"

"เป็นเพราะข้า!" ไป๋ชิงหลิงสูดลมหายใจเข้าและทำสีหน้าไม่เชื่อ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นมา "เพราะข้า เขาจึงเอาแส้ฟาดเสิ่นโหรวเม่ย เขาทำให้ข้าต้องเดือดร้อนหนักอีกแล้ว"

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ฮองเฮาอู๋จะยังปล่อยนางไปอีกหรือ?

ตระกูลเสิ่นก็คงเห็นนางเป็นหนามยอกอก

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำเรื่องดีๆ บ้างเลย กลับมีแต่เรื่องร้ายๆ ที่ถาโถมเข้ามาหานาง

"รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้" ไป๋ชิงหลิงกล่าวอย่างรีบร้อน

และขณะนี้เอง ฟางกงกงก็ได้เดินเข้ามาจากระเบียงทางเดิน

ไป๋ชิงหลิงเคารพและนอบน้อมต่อเขา ฟางกงกงก็คำนับนางเช่นกันและกล่าวว่า "หมอหญิงไป๋ ฝ่าบาทต้องการให้ท่านไปเข้าเฝ้า"

"ข้ากำลังจะไปหาฝ่าบาท"

"เช่นนั้นบ่าวพาท่านไปเอง" ฟางกงกงพยักหน้าด้วยทีท่าเป็นมิตร

ไป๋ชิงหลิงสั่งมู่ซินไม่ให้พูดเรื่องนี้กับไทเฮา จากนั้นจึงเดินไปตำหนักเฉียนชิงพร้อมกับฟางกงกง

เมื่อไปถึงตำหนักเฉียนชิง ไป๋ชิงหลิงก็เห็นหรงเยี่ยกำลังคุกเข่าอยู่หน้าตำหนัก

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล รอยคราบเลือดไหลหยดย้อยไปตามเสื้อผ้าของเขา ซึ่งเห็นแล้วน่าเวทนาอย่างมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋ชิงหลิงเห็นว่าเขาช่างน่าเวทนาเช่นนี้

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขายังคงคุกเข่าหลังตรง

นางชำเลืองมองเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา และจากนั้นจึงเดินตามฟางกงกงเข้าไปยังตำหนักเฉียนชิง

จักรพรรดิเหยาประทับอยู่เบื้องหน้า ฟางกงกงกราบทูล "ฝ่าบาท หมอหญิงไป๋มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปแสดงความเคารพ

จักรพรรดิเหยาโยนฎีกาที่อยู่ตรงหน้าไปที่ไป๋ชิงหลิง และตรัสด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "เจ้าดูเอง"

ฎีกาจำนวนหนึ่งตกใส่ไป๋ชิงหลิง แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายอะไร

นางก้มตัวลงไปหยิบฎีกาขึ้นมาและเปิดอ่าน

ล้วนแล้วแต่เป็นฎีกาที่เพิ่งประทับตราทั้งสิ้น เนื้อหาภายในล้วนเป็นการกล่าวหาท่านอ๋องหรงว่าเป็นผู้ไร้คุณธรรมและจิตใจโหดเหี้ยม และไม่คู่ควรเป็นหัวหน้าของศาลต้าหลี่

ไป๋ชิงหลิงปิดฎีกาลง แต่กลับไม่ได้รู้สึกตกใจกับฎีกาเหล่านี้เลย

นางก้มหน้าลงด้วยความนอบน้อมและเคารพต่อจักรพรรดิเหยา "ฝ่าบาทเพคะ ท่านอ๋องหรงมีคุณธรรมหรือไม่ จิตใจโหดเหี้ยมหรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าฝ่าบาท ในกลุ่มคนเหล่านี้ มีคนมีคอยกระแสและฉวยโอกาสจากเรื่องที่เกิดขึ้น"

สร้างกระแส?

จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้ว

ไป๋ชิงหลิงอธิบาย "สร้างกระแสก็คือการหาเรื่องก่อกวน! พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้ สร้างความบาดหมางขึ้นระหว่างฝ่าบาทและท่านอ๋องหรงเพคะ"

เมื่อจักรพรรดิเหยาฟังมาถึงตรงนี้ พระพักตร์ที่เคร่งขรึมตึงเครียดของพระองค์ก็ผ่อนคลายลง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น