ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 93

พระองค์หรี่พระเนตรลงและตรัสอย่างแผ่วเบา "อ๋องหรงทำให้เรื่องเป็นเช่นนี้ เจ้าจะยอมรับผิดหรือไม่!"

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม

เรื่องที่เกิดขึ้นที่อุทยานหลวงอวี้ฮวา ก็เป็นเพียงการก่อเรื่องขึ้นของฮองเฮาและเสิ่นโหรวเม่ย กลับไปหากหรงเยี่ยลดท่าทีของเขาลง และพูดดีๆ กับฮองเฮาอู๋ เรื่องนี้ก็จบลง

ใครจะไปรู้ว่าหรงเยี่ยคนบ้านั่น จะเอาแส้ไปฟาดผู้หญิง

ช่างเป็นผู้ชายที่น่าฟาดอย่างมาก......

นางแทบอดไม่ได้และอยากจะฟาดเขาด้วยแส้สักสองสามที

"หม่อมฉันทราบเพคะ" ไป๋ชิงหลิงทำใจยอมรับความผิดนี้ "วันนี้หม่อมฉันไม่ควรไปที่อุทยานหลวงอวี้ฮวาเพื่อชมดอกไม้ หลังจากไปที่อุทยานหลวงอวี้ฮวาและได้พบกับฮองเฮาอู๋ หม่อมฉันก็ไม่ควรมีปากเถียงกับฮองเฮา จนทำให้ฮองเฮาไม่พอใจ และหม่อมฉันไม่ควรทำให้คุณหนูเสิ่นไม่พอใจ เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะหม่อมฉัน หม่อมฉันยอมรับผิดทั้งหมดเพคะ"

ในที่สุดก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจของจักรพรรดิเหยาก็ถูกวางลง

ท่าทีของหรงเยี่ยแน่วแน่และยึดมั่นอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองไม่ผิด แต่กลับนั่งคุกเข่าอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ทำให้พระองค์รู้สึกสงสารอย่างมาก

เช่นเดียวกับฮองเฮาอู๋ นางก็มีความเชื่อมั่นว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะไป๋ชิงหลิง ฉะนั้นฮองเฮาอู๋จึงคาดหวังว่าพระองค์จะทรงตอบแทนอะไรบางอย่างให้กับเสิ่นโหรวเม่ย

สองแม่ลูกคู่นี้ทำให้จักรพรรดิเหยารู้สึกปวดหัวตลอดทั้งคืน ตอนนี้ในที่สุดไป๋ชิงหลิงก็ยอมรับความผิด และทำให้พระองค์มีทางจัดการต่อได้

เรื่องนี้ก็จะจัดการง่ายขึ้น

"ในเมื่อรู้ว่าผิด เช่นนั้นข้าจะลงโทษเจ้า เจ้าจะยอมรับหรือไม่" จักรพรรดิเหยาตรัสถาม

ไป๋ชิงหลิงกล่าวด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน "หม่อมฉันยอมรับเพคะ หม่อมฉันยอมรับการถูกลงโทษ หากฝ่าบาทไม่ทรงลงโทษ หม่อมฉันคงรู้สึกไม่ดีและนอนไม่หลับไปตลอดเพคะ"

"ดี!" จักรพรรดิเหยาลุกขึ้นและจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของพระองค์ด้วยพระเนตรที่เฉียบคม

พระองค์เห็นว่าไป๋ชิงหลิงฉลาดหลักแหลม และรู้จักวางตัวเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ที่ตำหนักฮุ่ยหนิง ท่าทีของนางดูแข็งกร้าว เพราะได้ช่วยชีวิตไทเฮาไว้ แต่เรื่องนี้......

นางยอมจำนนต่อพระองค์ ทำให้พระองค์รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

"คุณหนูเสิ่นต้องป่วยหนักเพราะเจ้า ข้าได้ส่งหมอหลวงจำนวนหนึ่งไปที่จวนเสิ่นแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ตามหมอหลวงเหล่านั้นไปดูอาการให้กับคุณหนูเสิ่นด้วย ข้าต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป หากคุณหนูเสิ่นตายไป ข้าไม่มีทางอภัยให้เจ้าอย่างแน่นอน" จักรพรรดิเหยาชำเลืองมองฟางกงกง

เพราะรู้ว่าหลังจากที่ไป๋ชิงหลิงไปที่จวนเสิ่นแล้ว จะต้องเผชิญกับการถูกขับไล่จากตระกูลเสิ่น "ฟางเม่าไปกับนางด้วย"

"พ่ะย่ะค่ะ"

เพียงแวบเดียวไป๋ชิงหลิงก็รู้ความคิดของจักรพรรดิเหยา

จักรพรรดิเหยาส่งนางไปจวนเสิ่นเพื่อช่วยชีวิตของเสิ่นโหรวเม่ย ทว่าความจริงแล้วกลับเป็นการช่วยนางด้วยเช่นกัน

หากนางสามารถรักษาบาดแผลบนร่างกายของเสิ่นโหรวเม่ย และสามารถกำจัดรอยแผลเป็นบนแผ่นหลังของนางได้ เช่นนั้นก็ถือให้ความเป็นธรรมกับตระกูลเสิ่นได้

ความคับข้องใจระหว่างหรงเยี่ยและฮองเฮาอู๋ก็จะได้รับการแก้ไข

นางเดินออกมาจากตำหนักเฉียนชิง หรงเยี่ยยังคงคุกเข่าอยู่ตรงนั้น

นางเดินเข้าไปและนั่งลงตรงหน้าเขา จากนั้นกล่าวว่า "ท่านอ๋องหรง ฝ่าบาทไม่ต้องการเห็นท่านทรมานตัวเองเช่นนี้"

"อย่ายุ่ง!" หรงเยี่ยหรี่ตาลงและไม่ต้องการสนใจนาง

ไป๋ชิงหลิงจ้องมองเขาด้วยความโกรธ "ใครกันแน่ที่ยุ่ง ท่านดูสิ่งที่ท่านทำ ทำให้คืนนี้ข้าไม่ได้นอน"

หรงเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยและในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมองนาง "ใครบังคับเจ้า?"

"ท่าน" ไป๋ชิงหลิงชี้ไปที่เขา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านเอาแส้ฟาดคุณหนูเสิ่นเพื่ออะไร ท่านถนัดกับการทำร้ายรังแกผู้หญิงอย่างนั้นหรือ"

"ข้าถนัดกับเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!"

"ท่าน......" ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงกระตุกเล็กน้อยและลุกขึ้นยืน จากนั้นแตะไปที่ขาของเขา "เช่นนั้นท่านก็คุกเข่าต่อไปเช่นนี้ ฝ่าบาทไม่ได้รับสั่งให้ท่านลุกขึ้น"

นางเดินผ่านเขาไปและขึ้นรถม้าไปพร้อมกับฟางกงกงเพื่อเดินทางไปจวนเสิ่น

เมื่อถึงจวนเสิ่นก็เป็นอย่างที่จักรพรรดิเหยาคาดการณ์ไว้ ท่านผู้เฒ่าเสิ่นเรียกให้คนมาไล่นางออกไป

หากไม่ใช่เพราะมีฟางกงกงอยู่ข้างนาง นางไม่มีทางเดินผ่านประตูเข้าไปได้

ฮูหยินเสิ่นและฮองเฮาอู๋เป็นพี่น้องกัน ทั้งสองมีหน้าตาค่อนข้างเหมือนกัน นางเดินออกมาจากห้องและมองไป๋ชิงหลิงด้วยสีหน้าอึมครึม

ฟางกงกงกล่าวด้วยความนอบน้อม "ฮูหยินเสิ่น หมอหญิงไป๋คือผู้ที่ทำการรักษาอาการลำไส้อักเสบของไทเฮา ไทเฮามีความเชื่อมั่นในทักษะการแพทย์ของหมอหญิงไป๋อย่างมาก ไม่เช่นนั้นลองให้นางตรวจดูอาการ......"

"ไม่จำเป็น!" น้ำเสียงที่เยือกเย็นพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น