ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 95

ฟางกงกงเข้าใจถึงสิ่งที่นางพูดในทันที

เวลานี้ไป๋ชิงหลิงไม่ต้องการให้ฮูหยินเสิ่นได้ยินข่าวลือที่เกี่ยวกับ ‘การกลับมาคืนดีกัน’ ของนางและท่านอ๋องหรง

ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการเข้าใกล้และรักษาอาการบาดเจ็บให้เสิ่นโหรวเม่ย

เมื่อฟางกงกงกลับไปแล้ว ฮูหยินเสิ่นก็กักขังนางเอาไว้ โดยให้เหตุผลที่ฟังดูดีว่า เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริง

และแล้ว การกักขังนางล่วงเลยไปถึงสามวัน

คนในตระกูลเสิ่นไม่ได้ส่งอาหารและน้ำให้นางเลย พวกเขาต้องการใช้วิธีนี้กลั่นแกล้งนาง

ไป๋ชิงหลิงกลับไม่ได้กังวลเลยว่าตนเองจะหิวตาย นางได้เตรียมอาหารเลิศรสจากในวังมากมายเอาไว้ในห้วงมิติเวลาแล้ว นางไม่มีทางหิวแน่นอน

แต่กลับกัน บาดแผลของเสิ่นโหรวเม่ยเริ่มติดเชื้อแล้ว และมีไข้ขึ้นสูงอยู่เป็นเนืองๆ

ฮูหยินเสิ่นสีหน้าหม่นหมองมองดูบาดแผลติดเชื้อของนาง

เสิ่นโหรวเม่ยศึกษาทางด้านการแพทย์มา ทำให้ฮูหยินเสิ่นก็พอจะได้รับความรู้เรื่องการแพทย์อยู่บ้าง

หากบาดแผลที่หลังของเสิ่นโหรวเม่ยไม่ได้รับการเยียวยา หลังของนางก็จะถูกหนองกัดกิน ฮูหยินเสิ่นซักถามหมอหญิงที่ทางวังหลวงส่งมาด้วยความกังวลใจ “สามวันแล้ว เพราะเหตุใดยังคงมีหนองและเลือดอยู่เล่า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจจะเน่าเปื่อยจนเสียชีวิตได้”

“ฮูหยินเสิ่น บาดแผลของหมอหญิงเสิ่นนั้นร้ายแรงนัก ใส่ยาแล้วก็มิใช่จะดีขึ้นได้ในวันสองวัน อย่างน้อยๆจะต้องใช้เวลาสักสิบวันหรือครึ่งเดือนเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นเม่ยเอ๋อร์ของข้า มิต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปอีกสิบวันหรือครึ่งเดือนเลยหรอกหรือ สรุปแล้วหมอหญิงอย่างพวกเจ้ารักษาบาดแผลกันเป็นหรือไม่ เห็นๆอยู่ว่าแผลของนางมีหนองไหลแล้ว นี่มันร้ายแรงมากนะ” ฮูหยินเสิ่นแผดเสียงด่าทอด้วยความโกรธ

หมอหญิงเหล่านั้นได้แต่ก้มหน้า ไม่กล้าตอบโต้ฮูหยินเสิ่น

หลิวซีเดินเข้ามาและกระซิบบอกฮูหยินเสิ่น “ฮูหยินเจ้าคะ ข้าน้อยไปลองสืบมาแล้ว วันที่ไป๋เจาเสวี่ยเดินทางกลับเข้าเมือง นางถูกท่านอ๋องหรงเฆี่ยนจริงๆเจ้าค่ะ ว่ากันว่าสาเหตุเพราะซื่อจื่อจิ่ง ทำให้ท่านอ๋องหรงไม่พอใจจึงลงมือกับนาง ภายหลังซื่อจื่อจิ่งถูกนักฆ่าลอบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นนางที่ช่วยดึงลูกธนูออกและรักษาชีวิตของซื่อจื่อจิ่งเอาไว้ได้ หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงหลี่ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย คนกว่าครึ่งของสำนักหมอหลวงสามารถยืนยันได้เจ้าค่ะ”

“อีกทั้งโรคฝีไส้ติ่งของไทเฮา ก็เป็นนางที่รักษาจนหายดี ว่ากันว่าเวลานี้ไทเฮาหายขาดจากโรคแล้วเจ้าค่ะ แถมเจริญอาหารและเสวยได้มากกว่าเดิมอีกด้วย ข้าน้อยได้ไปที่จวนท่านหมอฮั่วเพื่อพิสูจน์ด้วยตนเองเลยเจ้าค่ะ”

หมอหลวงฮั่วเป็นคนหัวรั้น ทั้งยังซื่อตรงมาก เมื่อท่านหมอพูดเช่นนั้นก็แสดงว่าไป๋เจาเสวี่ยมีความสามารถอยู่จริง

ใช่แล้ว นางลืมไป๋เจาเสวี่ยไปได้อย่างไร

“ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน?” ฮูหยินเสิ่นเพิ่งจะนึกได้ว่าเมื่อสามวันก่อนไป๋ชิงหลิงมาที่นี่

“ถูกกักอยู่ที่เรือนด้านข้างเจ้าค่ะ”หลิวซีตอบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินเสิ่นจึงไปที่เรือนด้านข้างด้วยตัวเอง

นางมัวแต่ใส่ใจเรื่องของเสิ่นโหรวเม่ย จนลืมเรื่องอาหารสำหรับไป๋ชิงหลิงเสียสนิท

แต่ทว่า เมื่อนางนึกขึ้นได้แล้ว นางหาได้รู้สึกผิดไม่ อีกทั้งยังไม่คิดจะจัดการเรื่องอาหารให้ไป๋ชิงหลิงเลยด้วยซ้ำ

ฮูหยินเสิ่นคิดว่า เม่ยเอ๋อร์ของนางกำลังทนทุกข์ทรมานเพราะบาดแผลอยู่ มันเรื่องอะไรที่นางจะต้องมารับใช้ส่งข้าวส่งน้ำให้ไป๋เจาเสวี่ยด้วย

เมื่อกลอนประตูถูกสะเดาะออก ฮูหยินเสิ่นเดินเข้าไปด้านใน

ไป๋ชิงหลิงที่เพิ่งจะจัดการกับอาหารเช้าเสร็จกำลังนั่งอยู่บนตั่งนุ่มๆ หากไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอก นางคงจะหยิบซาลาเปาอีกลูกขึ้นมาทาน

“เจ้า ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกอีกครั้งสิ ให้ข้าได้ดูรอยแผลที่หลังของเจ้า” ฮูหยินเสิ่นเดินเข้าด้านในและพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

ไป๋ชิงหลิงค่อยๆลุกขึ้นและหยิบกล่องยาที่อยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วจึงกล่าวว่า “ฮูหยินเสิ่น ข้ามิใช่โสเภณีในหอโคมเขียว ที่ท่านจะเรียกให้ข้าถอด ข้าก็ต้องถอด ข้าถูกกักขังอยู่ในห้องโทรมๆนี่มาสามวันแล้ว สามวันมานี้ ฮูหยินก็น่าจะพอพบเบาะแสอะไรบ้าง ในเมื่อฮูหยินเสิ่นไม่เชื่อในตัวข้า ก็ยิ่งไม่ควรจะมาบังคับข้า”

“เจ้า...” การยอกย้อนที่คาดไม่ถึงของไป๋ชิงหลิง ทำให้ฮูหยินเสิ่นถึงกับสะอึก

นางคิดว่าการที่นางเข้ามาพบไป๋ชิงหลิงก็ถือให้เกียรติมากพอแล้ว นางยังกล้ามาท้าทายอีกหรือนี่

“การช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องของบุญวาสนา ข้ากับแม่นางเสิ่นไร้ซึ่งวาสนาต่อกัน ต่างคนต่างแยกจากกันไปด้วยดีเถิด” ไป๋ชิงหลิงปัดฝุ่นที่เสื้อผ้าออก สายตาที่อ่อนน้อมเมื่อสามวันก่อนของนางไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว มีเพียงความทะนงเข้ามาแทนที่

คำพูดเหล่านี้ทำให้ฮูหยินเสิ่นโกรธจนหน้าเขียว...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น