บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 101

บทที่ 101 การใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
บทที่ 101 การใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ตระกูลหลี่จบสิ้นแล้ว!

ขณะที่ผู้พบเห็นที่อยู่ไกลออกไปจ้องมองไปยังเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่ปกคลุมตระกูลหลี่อยู่ ก่อนที่มันจะพวยพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า ความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของพวกเขาอย่างไร้เหตุผลราวกับว่าตกลงไปในธารน้ำแข็ง

ตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองหมอกสนที่ปกครองมานับพันปี ได้ถูกทำลายล้างโดยชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่เป็นเพียงศิษย์ฝึกหัดสร้างยันต์เมื่อหนึ่งปีก่อน!

ความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้ายจนไม่อาจคาดถึง อีกทั้งยังสะเทือนอารมณ์และตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทุกคนรู้ดีหลังจากเผชิญกับการต่อสู้ในครั้งนี้ เฉินซีไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนแอที่จะรังแกได้อีกต่อไป และไม่ใช่ทายาทของตระกูลที่ยากจนที่มักถูกเรียกว่า ตัวซวย…

เขาถูกกำหนดให้เป็นดาวรุ่งจรัสแสงที่สุดแห่งเมืองหมอกสน ในช่วงพันปีที่ผ่านมา!

ท่ามกลางเปลวเพลิงที่พวยพุ่ง ฝูงชนที่เงียบสงัดและแสงสียามราตรีที่กำลังล่วงลับ ทำให้บรรยากาศในที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความกดดันอันเข้มข้น

ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะจากไป

“เฉินซี! หยุดนะ!” เสียงตะโกนที่ดังและหนักแน่นราวกับเสียงฟ้าร้องได้ทำลายความเงียบ และมีสายตาหลายคู่จ้องเขม็งมา ผู้ใดกันที่ยังกล้ายั่วโมโหเฉินซีในเวลานี้?

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

เงาร่างทั้งสองฉีกผ่านท้องฟ้า ทำให้เกิดลมกระโชกแรง ต่อจากนั้นชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงก็เหาะเหินมา เขามีส่วนสูงราวหนึ่งจั้ง รอบกายแผ่กลิ่นอายที่น่าประทับใจและสง่างาม คนผู้นี้คือจอมเผด็จการแห่งจวนแม่ทัพ และเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของเมืองหมอกสน ผู้มีนามว่า ฉินฮั่น

ข้าง ๆ คือผู้บ่มเพาะอันดับหนึ่งในสังกัดของจวนแม่ทัพ ซึ่งมีรูปร่างผอมบางและแขนยาว เขาคือหลัวชง

ฝูงชนที่อยู่ใกล้เคียงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อเห็นสองคนนี้ ก่อนหน้านี้แม่ทัพฉินไม่ได้ปรากฏกาย แต่กลับจงใจปรากฏกายในเวลานี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น?

นอกจากทะเลเพลิงแล้ว เฉินซีพลันลืมตาขึ้นจ้องมองไปยังฉินฮั่นกับหลัวชง เขาเข้าใจได้ราง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น และหัวใจก็เริ่มดิ่งลงอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาไม่ได้มาดีเป็นแน่!

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

หลังจากฉินฮั่นกับหลัวชงเพิ่งมาถึง องค์รักษ์กลุ่มใหญ่ของจวนแม่ทัพได้พุ่งมายังเบื้องหลังของพวกเขาอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเหลือบมอง ย่อมสังเกตเห็นได้ว่าพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบวินัยทางทหารและกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด

“แม่ทัพฉิน ท่านมีธุระอะไรที่นี่” ดวงตาของเฉินซีหรี่ลงเล็กน้อย เขากำลังหมุนเวียนปราณแท้ เมื่อคลื่นความอ่อนล้าปรากฏขึ้นในใจ ทำให้เขารู้สึกวิงเวียนและเปลือกตากระตุก ขณะที่ถูกครอบงำด้วยแรงกระตุ้นจนอยากหลับนอนเพราะอาการง่วงซึม

นี่เป็นเพราะดวงวิญญาณของเขาถูกใช้ไปเยอะเกินไป

ก่อนหน้านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงจากการโจมตีของไข่มุกโลหิตประกายทมิฬ ชายหนุ่มจึงใช้ทักษะวิชาสะท้านทวยเทพ เพื่อเขย่าจิตวิญญาณของหลี่เฟิงถูให้ว่างเปล่าไปชั่วขณะ เป็นเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้ฆ่าหลี่เฟิงถูได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม การดูดกลืนดวงวิญญาณของทักษะวิชาสะท้านทวยเทพนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง เพราะโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ญาณจิตของเขาถูกใช้จนเกือบหมด หากไม่ใช่เพราะญาณจิตของเขาแข็งแกร่งพอละก็ คงได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้

ที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการต่อสู้ครั้งก่อน ปราณแท้ของเฉินซีเกือบถูกใช้ไปหมดสิ้น ในตอนนี้ไม่ต้องกล่าวถึงการต่อสู้กับใคร แม้แต่การควบคุมกระบี่บินก็ยากเย็นยิ่ง

เป็นเพราะเหตุนี้เอง เมื่อเฉินซีเห็นฉินฮั่นกับหลัวชงและผู้คุ้มกันจำนวนมากจากจวนแม่ทัพ ชายหนุ่มก็ประจักษ์ทันทีว่าคนเหล่านี้ต้องการคว้าโอกาสที่เขาไม่มีอำนาจจะต่อสู้ และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น!

“เฉินซี เจ้ารู้ความผิดของตัวเองหรือไม่!?” ฉินฮั่นไขว้มือไว้ด้านหลังและกล่าวเสียงเรียบ

“ข้าก่อความผิดอะไร” ชายหนุ่มกล่าวด้วยท่าทางไร้อารมณ์

“หลัวชง บอกเขาซะ!” ฉินฮั่นดูเหมือนจะรู้สึกว่าการอธิบายให้เฉินซีฟังเองนั้นเสียศักดิ์ศรี ดังนั้นจึงสั่งให้หลัวชงที่อยู่ใกล้เคียงอธิบาย

ใบหน้าของหลัวชงเคร่งขรึม ขณะที่เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “จวนแม่ทัพกำหนดไว้ว่าห้ามต่อสู้หรือก่อความวุ่นวายภายในเมือง เจ้าละเมิดกฎเหล็กของจวนแม่ทัพทุกข้อ และตามกฎที่กำหนดไว้…” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับหลัวชงที่จะกล่าวต่อ

“หลัวชง ถอยไปซะ” ฉินฮั่นเชิดหน้าเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างเย่อหยิ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “ตามกฎแล้ว เจ้าควรถูกประหารชีวิต หากยอมให้ตัวเองถูกจับกุมแต่โดยดี และก้มหน้ายอมรับความผิดที่ก่อ เช่นนั้นอาจหลีกเลี่ยงโทษตาย และหนทางการบ่มเพาะของเจ้าจะถูกตัดขาด ก่อนที่จะถูกเนรเทศไปที่เหมืองเพื่อเป็นทาสไปตลอดชีวิต”

“เฉินซี เจ้ายังหนุ่มยังแน่นนัก อย่าได้ทำลายอนาคตตัวเอง จวนแม่ทัพของข้าเป็นตัวแทนของราชวงศ์ซ่ง อีกทั้งกฎเหล็กของราชวงศ์ก็จะไม่ยอมให้มีการละเมิด ส่วนเจ้าฆ่าล้างตระกูลหลี่อย่างเปิดเผยและละเมิดกฎเหล็ก ถ้ายอมแต่โดยดี ข้าจะรับประกันความปลอดภัยให้ได้” หลัวชงที่อยู่ใกล้เคียงได้กล่าวเสริม

“ข้าสร้างปัญหา? ข้าละเมิดกฎเหล็กของจวนแม่ทัพ? ถ้าไม่ยอมรับความผิด เจ้าก็จะฆ่าข้า และหากยอมรับความผิด เจ้าก็จะทำลายการบ่มเพาะของข้า และส่งไปเป็นแรงงานทาสในเหมืองแร่…” เฉินซีก้มหน้าพึมพำครู่หนึ่งและโกรธจนถึงขั้นปวดหัวใจ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เงยหน้าพลางกล่าวเสียงเย็นยะเยือกระคนไม่แยแส “ให้ข้าถามพวกเจ้าสองคน จวนแม่ทัพอยู่ที่ใด เมื่อคนกว่าหนึ่งหมื่นคนในเขตสามัญชนเสียชีวิตอย่างน่าสังเวชภายใต้คมกระบี่ของตระกูลหลี่? แล้วพวกเจ้าอยู่ที่ใด เมื่อร้านค้าของตระกูลจางและร้านอาหารนทีกระจ่างถูกทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพัง? ในปีนั้น เมื่อตระกูลเฉินของข้าถูกทำลายล้าง เจ้าสองคนไปมุดหัวอยู่ที่ใดกัน?”

“ท่านทั้งสองปิดหูปิดตาเพิกเฉยต่อการกระทำชั่วช้า แต่ผู้คนที่มีจิตใจดีและกล้าหาญต้องขอรับความกรุณาจากพวกเจ้าที่เหยียบย่ำและทำให้อับอาย? คนชั่วที่น่ารังเกียจเช่นเจ้าทั้งสองรังแกผู้อ่อนแอและเกรงกลัวต่อผู้แข็งแกร่ง เช่นนั้นจะมีคุณสมบัติอะไรที่จะเป็นตัวแทนของราชวงศ์ซ่ง?

“เจ้าพล่ามอะไร?” ฉินฮั่นเหลือบมองที่เฉินซี กลิ่นอายและแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

คำพูดของชายหนุ่มกระตุกต่อมโทสะเข้าให้แล้ว และทำให้เขาไม่อาจหาอะไรมาหักล้างได้ เพราะทุกคนในเมืองหมอกสนรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ดี แต่ไม่มีใครกล้ากล่าวถึงอย่างเช่นเฉินซีที่หาได้มีความเกรงกลัว

นี่คืออานุภาพแห่งจวนแม่ทัพ ซึ่งไม่อนุญาตให้ใครก็ตามขัดต่อคำสั่ง ในเวลาเดียวกันกับที่จวนแม่ทัพดำเนินการตามกฎเกณฑ์ จวนแม่ทัพเองก็กำลังเหยียบย่ำกฎเกณฑ์ คอยข่มเหงคนดีและประจบประแจงคนชั่ว

ดังคำกล่าวที่ว่า …กฎถูกตั้งไว้เพื่อผูกมัดและกักขังผู้อ่อนแอ ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งยืนอยู่เหนือทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดที่กล้าวิจารณ์ ยามพวกเขาแหกกฎซะเอง

นี่เป็นกฎที่ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร กฎที่ซ่อนอยู่ไม่สามารถประกาศด้วยปากเปล่าได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎที่มีอยู่ แต่กฎเหล่านี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก

ในขณะนี้ คำกล่าวของเฉินซีได้เปิดเผยทุกอย่างแล้ว และมันก็เหมือนการตบหน้าฉินฮั่นดังฉาด!

“ข้าพล่ามอะไรน่ะหรือ? ในหมู่คนที่อยู่ด้วย ข้าเกรงว่ามีแต่เจ้าที่แสร้งทำเป็นไม่รู้จึงถามแบบนี้” เฉินซีพร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่างแล้ว จวนแม่ทัพแล้วอย่างไร ราชวงศ์ซ่งนับเป็นอันใด? เฉินซีจะต้องสนใจด้วยหรือ? เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเฉกเช่นเมื่อก่อนที่ต้องอยู่ใต้เงาความเมตตาของผู้อื่น เมื่อต้องเผชิญกับความยั่วยุขนาดนี้ ความกลัวและการยอมจำนนย่อมไม่อาจรักษาชีวิตของเขาไว้ได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]