บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1034

บทที่ 1034 โถงแลกเปลี่ยนสมบัติ

บทที่ 1034 โถงแลกเปลี่ยนสมบัติ

น้ำเสียงของหรานจิงเผยให้เห็นความรู้สึกมั่นใจในชัยชนะ นางเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคือเฉินซีอย่างแน่นอน แม้จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ไม่สามารถปกปิดการบ่มเพาะและพลังต่อสู้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้พลิกหาทั่วเมืองรัศมีเมฆา ไม่มีทางมีผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นคนใดสามารถบดขยี้จ้าวเฉิง และคนอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน

“นึกไม่ถึงว่าข้าจะโชคดีขนาดนี้ โอ้ หากข้าสามารถเอาชนะชายคนนี้ได้ ข้าควรส่งตัวเขาให้ตำหนักราชันเซียนหรือไม่? ได้ยินมาว่ารางวัลนำจับเป็นถึงสมบัติอมตะระดับวิญญาณทมิฬเลยด้วย”

หรานจิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แต่ความจริง นางไม่ได้สนใจรางวัลนี้แม้แต่น้อย หญิงสาวแค่ต้องการเอาชนะเฉินซี เพื่อพิสูจน์ว่านางแข็งแกร่งกว่า หากชนะ… อันดับของนางในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปก็จะแซงหน้าเขา นั่นก็เพียงพอแล้ว!

แต่ทันทีที่กล่าวจบ ขนบนร่างกายพลันลุกชัน รู้สึกเย็นยะเยือกเสียดแทงไปถึงกระดูก

หรานจิงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นดวงตาเย็นยะเยือกและไม่แยแสคู่หนึ่ง ไม่มีความอบอุ่นหรือความรู้สึกแม้แต่น้อย ทั้งยังลึกเหมือนประตูสู่ขุมนรกที่สามารถกลืนกินวิญญาณของนางได้ทุกเมื่อ

“จะ… เจ้าคิดจะทำอันใด?” หรานจิงตกตะลึง ร่างกายของนางรู้สึกราวกับตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง ความรู้สึกบีบคั้นจนอึดอัด ความระแวงระวังจึงเพิ่มขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าสีหน้าของนางซีดลงอย่างน่าสยดสยองแค่ไหน

เฉินซีไม่กล่าวอะไร แล้วเบือนสายตาออก หันหลังกลับและจากไป

“เจ้า… ” หรานจิงกำลังจะตามไป แต่เมื่อหวนนึกถึงความเย็นยะเยือกและไร้ความรู้สึกของเฉินซีเมื่อครู่ นางก็ตัวสั่นเทาและหยุดเคลื่อนไหวทันที

มันเป็นความรู้สึกราวกับเฉินซีจะฆ่าตัวนางได้โดยไร้ความลังเล ยิ่งไปกว่านั้น นางจะไม่สามารถหยุดยั้งความตายที่คืบคลานเข้ามาได้โดยสิ้นเชิง

นางยืนอยู่หน้าบันได ขณะจ้องมองความว่างเปล่าจุดที่ร่างสูงใหญ่หายไป และกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากที่ผ่านไปครู่ใหญ่ ก่อนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว พร้อมกับพึมพำ “ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน! เจ้าหมอนั่นจะต้องฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ถึงได้มีสายตาน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น… ”

หรานจิงลังเลอยู่นาน ก่อนจะล้มเลิกความคิดที่จะสู้กับเฉินซีในที่สุด

เพราะนางสัมผัสได้ถึงความหมายในสายตาของเฉินซี ก่อนที่เขาจะจากไป มันเป็นดั่งคำเตือนและคำขู่ไร้เสียง ซึ่งนางก็ไม่กล้าที่จะเมินเฉย

“บัดซบ! เจ้าคิดว่าตนเองแข็งแกร่งมากหรือ? ฝากไว้ก่อนเถอะ! ข้าจะแซงหน้าเจ้าในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปอย่างแน่นอน!” หรานจิงหายใจเข้าลึก ๆ นางกัดฟันด้วยความเกลียดชัง และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะสงบคลื่นพลุ่งพล่านในใจ

เฉินซีเข้าพักในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง และเริ่มตั้งสมาธิทำความเข้าใจต่อพลังของกฎ

เนื่องจากเขารวบรวม กฎแห่งทอง กฎแห่งพฤกษา กฎแห่งวารี กฎแห่งอัคคี และกฎแห่งพสุธา ทำให้พลังต่อสู้เกิดเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้สามารถสังหารสยงหมิงผู้อยู่ในขอบเขตเซียนลึกลับได้สำเร็จ

ความสำเร็จในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องยอมล่าถอย หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า อย่างน้อยในบรรดาผู้ที่อยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ ก็แทบจะไม่มีใครที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้

แต่เฉินซียังไม่พอใจ เพราะคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไป ส่วนผู้อ่อนแอที่สุดอย่างปิงซื่อเทียนก็มีการบ่มเพาะที่ขอบเขตเซียนทองคำ จึงยังไม่อาจมีความรู้สึกภาคภูมิใจและพึงพอใจได้

ตรงกันข้าม เมื่อความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับภพเซียนลึกซึ้งยิ่งขึ้น เฉินซีก็จะสามารถตระหนักถึงข้อบกพร่องของตนได้อย่างชัดเจน เป็นความรู้สึกหวาดระแวงถึงอันตรายที่ไม่สามารถกำจัดได้

ทั้งหมดนี้มาจากใบประกาศจับของราชันเซียนลิ่นฮ่าว ปิงซื่อเทียน กองกำลังของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองในภพเซียนและตระกูลจั่วชิว…

ดังนั้นเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุด

มีหลายวิธีที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่การควบแน่นพลังของกฎนั้นเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับเฉินซีในตอนนี้

เซียนสวรรค์ทั่วไปส่วนใหญ่มักควบแน่นได้น้อยกว่าสามกฎ และผู้ที่มีความสามารถในการควบแน่นกฎที่สมบูรณ์แบบได้ถึงสามประเภท อาจถือได้ว่ามีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา ขณะที่ผู้ที่ควบแน่นกฎได้มากกว่าห้าประเภท นับว่าเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ในหมู่เซียน

เฉินซีเข้าใจกฎของธาตุทั้งห้า และเกือบทั้งหมดของมหาเต๋าที่เขาได้หยั่งถึงก็บรรลุระดับสมบูรณ์แบบแล้ว ดังนั้นหากควบแน่นทั้งหมดให้เป็นกฎ พลังต่อสู้คงจะเหนือจินตนาการอย่างแน่นอน

แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะของเขาว่าจะสามารถปลดปล่อยพลังได้รุนแรงเพียงใด ท้ายที่สุด การบ่มเพาะที่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นนั้นจำกัดพลังต่อสู้ที่สามารถใช้ได้

โอม! โอม!

ภายในห้องพัก หนึ่งดำและหนึ่งขาว ความลึกล้ำของมหาเต๋าสองประเภทโผล่ออกมาจากร่างของเฉินซี จากนั้นมันก็กลายร่างเป็นมังกรดำกับพยัคฆ์ขาว วนเวียนไล่ตามกันไปรอบ ๆ ตัวของชายหนุ่ม บังเกิดเป็นฉากแปลกประหลาดของการผสมหยินหยาง และการพบกันของพยัคฆ์และมังกร

สิ่งเหล่านี้คือความลึกล้ำของมหาเต๋าหยินและหยาง ตัวแทนของปราณบริสุทธิ์และปราณขุ่นมัวของจักรวาล ซึ่งลอยขึ้นเพื่อก่อตัวเป็นท้องฟ้า และตกลงมาก่อตัวเป็นพื้นปฐพี การพัฒนาของโลกถูกกำหนดโดยหยินและหยาง

ในขณะนี้ มหาเต๋าทั้งสองถูกควบคุมโดยเฉินซี และเขาค่อย ๆ ขัดเกลามัน บังเกิดเป็นเสียงท่วงทำนองของมหาเต๋า คล้ายกับเสียงเหล็กกระทบกัน แต่ก็ไพเราะเสนาะหูราวกับเสียงของธรรมชาติ

โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ม่านแห่งรุ่งอรุณก็ปรากฏที่ขอบฟ้าแล้ว

เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ปราณสีดำและสีขาวที่ล้อมรอบร่างกายของเขาก็เหมือนมังกรที่พุ่งกลับเข้าไปในร่าง

“ช่างน่าเสียดาย เวลาข้ามีน้อยเกินไป อาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนในการควบแน่นกฎของหยินและหยาง อีกทั้งโรงเตี๊ยมนี้ก็ค่อนข้างไม่ปลอดภัย เมื่อข้าแลกเปลี่ยนศิลากำเนิดวิญญาณครามเสร็จ ข้าจะซื้อที่พักสักแห่ง เพื่อเข้าสู่การปิดด่านบ่มเพาะภายในโลกแห่งดารา…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]