บทที่ 1041 ตั๊กแตนตำข้าวกับนกขมิ้น
บทที่ 1041 ตั๊กแตนตำข้าวกับนกขมิ้น
รูปร่างของยันต์อักขระโบราณที่เสียหายเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ ในฐานะปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระ เสวียนอวิ๋นกวาดตามองเพียงชั่วครู่ ก็จดจำได้ทันทีว่า ยันต์อักขระโบราณรูปร่างกลมเหมือนพระจันทร์เต็มดวงและมีสีขาวหิมะดุจหยกเนื้อดีนี้ คือยันต์อักขระโบราณที่เขาศึกษามันอย่างขมขื่นเป็นเวลาหลายร้อยปี แต่กลับไม่พบสิ่งใด
และได้ค้นพบว่า อักขระยันต์ได้บดบังผิวยันต์อักขระโบราณไว้อย่างสมบูรณ์
อักขระยันต์ที่มีความหนาแน่นราวกับดวงดาวในจักรวาลไม่ได้เสียหายอีกต่อไป มันงดงามไร้ที่ติราวกับงานศิลปะที่แกะสลักด้วยหัตถ์ของพระเจ้า และเต็มไปด้วยกลิ่นอายลึกลับสุดจะพรรณนา
กลิ่นอายนี้เหมือนมีมนต์วิเศษ จิตใจของเสวียนอวิ๋นถูกดึงดูดและจมดิ่งอยู่ภายในนั้น
สีหน้าของชายชราค่อย ๆ เปลี่ยนจากความประหลาดใจแกมยินดีเป็นงุนงงสับสน และเปลี่ยนเป็นความตกใจ เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวพึมพำ “อัศจรรย์ ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก หากข้าสามารถเข้าใจงานเขียนเทพอสูรได้อย่างถ่องแท้ ก็คงสามารถยกระดับความเข้าใจในเต๋าแห่งยันต์อักขระได้สูงขึ้น… ”
เมื่อกล่าวจบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
อู๋หยวนและอู๋ซวินที่มักจะให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของเสวียนอวิ๋นเสมอ เมื่อได้ยินเสวียนอวิ๋นกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่า เฉินซีได้ซ่อมแซมยันต์อักขระโบราณที่เสียหายสำเร็จแล้ว!
ทั้งคู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เมื่อนึกถึงฉากที่พวกเขาปลอบประโลมเฉินซีอย่างขมขื่น ทว่านี่ก็เป็นเรื่องเหนือการคาดเดาอย่างยิ่ง ใครจะไปคาดคิดว่ายันต์อักขระโบราณที่สำนักศึกษาจตุรเทพที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ กลับถูกซ่อมแซมโดยชายหนุ่มที่มีการบ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น?
แต่อย่างไรทั้งคู่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
การซ่อมแซมยันต์อักขระโบราณได้ ย่อมหมายความว่าเฉินซีจะได้รับความช่วยเหลือจากสำนักศึกษาจตุรเทพ และช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับปัญหาที่ยากเข็ญในภายภาคหน้าได้เช่นกัน
“ผู้อาวุโสเสวียนอวิ๋น คุณชายเฉินซีทำสำเร็จหรือไม่” อู๋หยวนเอ่ยถาม
เสวียนอวิ๋นพยักหน้าและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่มองเฉินซีด้วยความชื่นชมอย่างมาก “คุณชายเฉินซีนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย ยันต์อักขระโบราณนี้ สำนักศึกษาจตุรเทพและข้าจะไม่เฉยเมยต่อสิ่งที่คุณชายเฉินซีพบเจออย่างแน่นอน พวกเจ้ารอสักครู่ ข้าจะไปติดต่อผู้เยี่ยมยุทธ์ของสำนึกศึกษาก่อน!”
ชายชรากล่าวพลางก้าวยาว ๆ จากไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับได้รับสมบัติล้ำค่า
เฉินซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก เห็นได้ชัดว่าเสวียนอวิ๋นไม่ได้มองความลึกล้ำของยันต์อักขระโบราณได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเสวียนอวิ๋นจึงไม่ทันสังเกตว่า สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในยันต์อักขระโบราณชิ้นนี้ ตกอยู่ในมือของเฉินซีแล้ว
เฉินซีไม่ได้คิดปกปิดเรื่องนี้ เพราะกุญแจสำคัญของการสืบทอดเคล็ดหม้อกลั่นนพเก้าเทพยมโลกได้สลักฝังอยู่ในจิตใจ ไม่อาจส่งต่อให้ผู้อื่นได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ จึงไม่สามารถถ่ายทอดมรดกนี้ให้ผู้อื่นได้เช่นกัน
“ไม่เป็นไร ข้าจะนับว่าเป็นหนี้บุญคุณ และจะชดใช้คืนอย่างแน่นอน’’ เฉินซีครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจได้ในที่สุด
เสวียนอวิ๋นกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน ริมฝีปากแย้มยิ้มสดใสจนถึงใบหู “เรียบร้อยแล้ว ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้เยี่ยมยุทธ์ของสำนักศึกษาจตุรเทพจะมารวมตัวกับเรา ดังนั้นไปกันเถอะ”
“คุณชายเฉินซีสามารถไปกับเราได้หรือ!? วิเศษยิ่ง!” อู๋ซวินที่อยู่ใกล้เคียงรู้สึกยินดีและกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนี้ ระหว่างทางข้าจะสามารถปรึกษาคุณชายเฉินซีเกี่ยวกับเต๋าแห่งยันต์อักขระได้ นี่เป็นความสุขที่สุดอย่างหนึ่งของชีวิตข้าเลย”
อู๋ซวินเป็นชายหนุ่มที่คลั่งไคล้ในเต๋าแห่งยันต์อักขระ หลังจากที่ได้เห็นการแสดงอันน่าอัศจรรย์ของเฉินซี เขาก็เทิดทูนชายหนุ่มเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในเต๋าแห่งยันต์อักขระ ดังนั้นการได้ร่วมเดินทางกับเฉินซี จึงมีความหมายสำหรับตน
อู๋หยวนแค่นหัวเราะ และแสดงสีหน้าพึงพอใจเมื่อเห็นบุตรชายของตนมีความสุข หากบุตรชายสามารถเป็นสหายกับเฉินซีได้ ย่อมไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ในฐานะพ่อค้ามากประสบการณ์ เขารู้ว่าศักยภาพของเฉินซีนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
แม้ตอนนี้ เฉินซีจะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง แต่หลังจากเข้าสู่ภพเซียนไม่นาน กลับสามารถสังหารเซียนลึกลับได้ นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญในเต๋าแห่งยันต์อักขระก็เป็นสิ่งที่แม้แต่ปรมาจารย์ของสำนักศึกษาจตุรเทพยังด้อยกว่า ทั้งยังอายุน้อยมาก…
ตราบเท่าที่ชายหนุ่มมีเวลาขัดเกลา เขาจะเปล่งประกาย และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภพเซียนอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม เฉินซีกลับไม่รู้ความคิดของอู๋หยวนและอู๋ซวิน ในใจรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยินว่าตนสามารถออกจากทวีปสันติบูรพาได้ในที่สุด ถึงเวลาที่เขาจะได้หยุดพักแล้ว และไม่จ้องเผชิญโชคร้ายเหมือนหลายวันที่ผ่านมา…
พวกเขาไม่ชักช้าให้เสียเวลาอีกต่อไป เสวียนอวิ๋นเตรียมรถม้าสัมฤทธิ์ออกมา จากนั้นจึงพาเฉินซีและอู๋ซวินเข้าไป และออกจากศาลาเซียนคลื่นทองคำ หลังจากกล่าวลาอู๋หยวน
…
ในขณะเดียวกัน ที่ชั้นสามของภัตตาคารตรงข้ามกับศาลาเซียนคลื่นทองคำ
ซุนหงและชายหนุ่มทั้งสองกำลังนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ขณะที่สีหน้าของพวกเขาหม่นหมองเล็กน้อย
ทั้งสามรออยู่ที่นี่เป็นเวลาห้าวัน แต่ดูเหมือนเป้าหมายจะหายเข้ากลีบเมฆไปเสียแล้ว หลังจากเฉินซีเข้าไปในศาลาเซียนคลื่นทองคำ และไม่ก้าวออกมาอีกเลย
ระหว่างนี้ พวกเขาไปที่ศาลาเซียนคลื่นทองคำเพื่อตรวจสอบอยู่หลายครั้ง น่าเสียดาย ที่ไม่ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ใด ๆ
“ท่านซุนหง หรือว่าเป้าหมายจะลอบหนีไปแล้ว?” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ฮึ่ม! เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่า จางจื่อฉุนจากนิกายรัศมีเมฆาส่งคนไปเฝ้าศาลาเซียนคลื่นทองคำในช่วงหลายวันมานี้?” ซุนหงแค่นเสียงเย็น “ในฐานะผู้เยี่ยมยุทธ์ของเมืองรัศมีเมฆา หากจางจื่อฉุนไม่สามารถจับตาดูผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นได้ แล้วจะมีหน้ามาดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสในนิกายรัศมีเมฆาต่อไปได้อยู่อีกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...