บทที่ 1049 กดดันไปทีละขั้น
บทที่ 1049 กดดันไปทีละขั้น
อู๋อี้ฟ่านกดดันไปทีละขั้น เพื่อบีบให้เหลียงปิงทำการประลองกับตน แขกเหรื่อที่อยู่รอบ ๆ ต่างตั้งตารอชมการประลอง ซึ่งพวกเขาค่อนข้างตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง
พวกเขาส่วนใหญ่เป็นลูกหลานจากตระกูลเหลียงสายรอง และมักถูกสยบโดยลูกหลานสายตรง ซึ่งในยุคปัจจุบัน มีเพียงเหลียงปิงเท่านั้นที่ถือว่าโดดเด่นในหมู่ทายาทสายตรง อย่างไรก็ตามนางเป็นผู้หญิง ดังนั้นคนอื่น ๆ จึงรู้สึกไม่พอใจในเรื่องนี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้
ยามนี้ พวกเขามีโอกาสทำให้ทายาทสายตรงอับอาย ทั้งยังสามารถโจมตีฐานอำนาจและอิทธิพลของเหลียงปิงได้ ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ ต่างก็มีความสุขกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ เสียงที่ดังก้องกังวาน และคำพูดที่มีเจตนาปกป้องเหลียงปิง ทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานขมวดคิ้ว พวกเขาไม่พอใจเล็กน้อย รู้สึกเกลียดชังคนผู้นี้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาสร้างความวุ่นวาย
ฝูงชนพลันแยกออกจากกัน เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มและเถิงหลาน
ทุกคนต่างตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้ และรู้สึกไม่คุ้นเคยสักนิด แต่ดวงตาเหล่าหญิงสาวกลับส่องประกายระยิบระยับ ขณะที่ใบหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำ
ชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ดวงตาลึกล้ำราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว สวมเสื้อคลุมปักสีเขียวอ่อน เข็มขัดหยกสีขาวพันไว้รอบเอว และสวมรองเท้าที่มีลวดลายเหมือนเมฆ รูปร่างของเขาสูงใหญ่สง่างาม ทุก ๆ อิริยาบถเต็มไปด้วยความสง่างามอันไม่ธรรมดา ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างดี
ชายหนุ่มคนนี้ย่อมเป็น เฉินซี!
แต่แขกเหรื่อที่อยู่รอบ ๆ กลับจำไม่ได้ และพูดคุยคาดเดาตัวตนของเขาอย่างมีชีวิตชีวา
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย”
“ข้าก็ไม่รู้ แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นศิษย์ของตระกูลเหลียงนะ”
“โอ้ สวรรค์! ช่างมีเสน่ห์เสียนี่กระไร! เขาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” นี่คือคำพูดที่เต็มไปด้วยหลงใหลของหญิงสาว
อีกด้านของห้องโถง ริมฝีปากสีแดงของเหลียงปิงเผยอออกเล็กน้อย ใบหน้าอันงดงามเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา เพราะการแต่งตัวของเฉินซีในค่ำคืนนี้ ทำให้แม้แต่นางก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกใหม่และน่าพึงพอใจยิ่ง
ภายใต้การนำของเถิงหลาน เฉินซีจึงเดินเข้าไป ท่าทียังคงเฉยเมยและสงบนิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับสายตาประหลาดใจ สับสน หรือร้อนแรงจากผู้คนรอบข้าง
“คุณหนูใหญ่ โปรดอนุญาตให้บริวารผู้ต่ำต้อยของท่าน ได้รับคำชี้แนะจากคุณชายอู๋ในการสร้างยันต์อักขระได้หรือไม่?” เฉินซีเดินไปยืนต่อหน้าเหลียงปิง และโค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“บริวารหรือ?”
เหลียงปิงตกตะลึง จากนั้นนางก็เข้าใจอย่างฉับพลัน นางรู้ว่าเฉินซีจงใจลดตัวลง เพื่อช่วยเหลือนาง ซึ่งชั่วขณะหนึ่ง หญิงสาวรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งในใจ
เพราะนี่คือผู้สืบทอดแห่งเขาเทพพยากรณ์!
ตอนนี้เขาตั้งใจลดตัวลงจริง ๆ แล้วนางจะไม่สำนึกบุญคุณได้อย่างไร?
แต่ก่อนที่เหลียงปิงจะทันได้กล่าว อู๋อี้ฟ่านที่ยืนอยู่ในสนามประลองก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ข้าขอเรียนถามได้หรือไม่ ว่าสหายคนนี้เป็นใครในตระกูลเหลียง”
เขาจงใจเน้นคำว่า ‘ตระกูลเหลียง’ และต้องการสื่อว่า จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่เข้าไปยุ่ง ถ้าเฉินซีไม่ได้คนของตระกูลเหลียง
แน่นอนว่าอู๋อี้ฟ่านไม่กลัวว่าเหลียงปิงจะได้รับความช่วยเหลือจากคนนอก แต่ตนไม่พอใจที่เฉินซีเสนอหน้าออกมา ทำให้สถานการณ์วุ่นวาย คนที่มีการบ่มเพาะเพียงขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น จะมาทำให้แผนการของเขาวุ่นวายงั้นหรือ?!
แม้จะเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ได้ แต่อู๋อี้ฟ่านก็ไม่รู้สึกถึงความสำเร็จใด ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น หากปล่อยให้คนเช่นนี้ท้าทายเขาตามใจชอบ ก็คงน่าจะน่าเบื่อเกินไป ทั้งยังเสียเวลา แต่ส่งผลต่อแผนการในคืนนี้ ดังนั้นท่าทีที่มีต่อเฉินซีจึงไม่ถือว่าเป็นมิตรเท่าใดนัก
เฉินซีเงยหน้าขึ้นและยิ้ม “คุณชายอู๋ เจ้าได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าใครก็ตามในตระกูลเหลียงสามารถประลองกับเจ้าได้ เป็นไปได้ไหมว่าข้าได้ยินผิดไป? หรือบางทีคุณชายอู๋ไม่กล้ารับคำท้าของคนต่ำต้อยเช่นข้า?”
ทันทีที่กล่าวจบ แขกทุกคนต่างงุนงงเล็กน้อย และสงสัยเหลือเกินว่าเหลียงปิงไปได้บริวารเช่นนี้มาจากไหน เห็นได้ชัดว่าเขากล่าวอย่างถือดี แต่คำพูดของเฉินซีก็มีเหตุผลเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถโต้แย้งเรื่องนี้ได้
ความโกรธวูบวาบอยู่ในส่วนลึกของอู๋อี้ฟ่าน แต่ยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด ฝูงชนกลับแตกตื่น เนื่องจากมีชายหนุ่มร่างผอมสวมเสื้อคลุมสีทองหรูหราเดินออกมาจากฝูงชน และกำลังเดินช้า ๆ มาที่นี่
“เอ๊ะ คุณชายเหลียงผิงมิใช่หรือ?” ฝูงชนจำได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้คือ เหลียงผิง ทายาทที่โดดเด่นจากหนึ่งในตระกูลเหลียงสายรอง
“เหลียงปิง คุณชายอู๋เป็นแขกคนสำคัญที่ข้าเชิญมา และข้ายังไม่มีโอกาสแนะนำให้เจ้ารู้จัก” เหลียงผิงเดินไปยืนต่อหน้าเหลียงปิงอย่างรวดเร็ว และแสร้งทำเป็นแสดงความเคารพขณะประสานมือคำนับ จากนั้นยืดร่างตั้งตรง พร้อมเงยหน้าขึ้น “ทุกคนล้วนทราบดีว่าคุณชายอู๋อี้ฟ่านมาจากทวีปนภาเหมันต์ และเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงและมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นกับอนาคตอันไร้ขีดจำกัด”
“แต่ทุกคนอาจไม่รู้ แท้จริงแล้วคุณชายอู๋มาจากตระกูลอู๋ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ของทวีปนภาเหมันต์ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขายังเป็นทายาทสายตรงของตระกูลอู๋ทั้งยังได้เข้าร่วมกับสำนักศึกษาเมฆาหมอก ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสำนึกศึกษาที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแกร่งหรือภูมิหลัง คุณชายอู๋อี้ฟ่านก็สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้ารุ่นต่อไป!”
ทันทีที่กล่าวคำเหล่านี้ ทุกคนต่างตื่นตกใจ ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าภูมิหลังของอู๋อี้ฟ่านจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ในชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาล้วนมองอู๋อี้ฟ่านในมุมที่ต่างออกไป และมองด้วยสายตาเคารพยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...