บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 108

บทที่ 108 ร่มมังกรยักษ์เก้าปรก
บทที่ 108 ร่มมังกรยักษ์เก้าปรก

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

พลังปฐพีที่ห้าที่พลุ่งพล่านได้ขยายและหดตัวอย่างรุนแรง

มันเหมือนภูเขาสูงตระหง่านที่มีดวงดาวรายล้อม ฝ่ามือมหาดาราที่ครอบคลุมพื้นที่ถึงสี่จั้งได้ฟาดอย่างต่อเนื่อง จนเกิดหลุมขนาดมหึมาที่น่าสะพรึงกลัวลงบนพื้นดินกับภูเขานับสิบหลุม

ภูเขาต่างสั่นสะเทือนและแผ่นดินก็แยกออกจากกัน

เฉินซีพลันรู้สึกราวกับว่าได้ครอบครองพลังทำลายล้างที่ไร้ขอบเขต เพียงสัมผัสเบา ๆ ก็บดขยี้ดวงดาว และกีดกันดวงอาทิตย์และจันทราออกจากกันได้

แน่นอนว่านี่เป็นความเข้าใจผิดประเภทหนึ่ง เว้นแต่จะมีใครขึ้นไปถึงจุดสุดยอดของมหาเต๋า และเข้าใจกฎแห่งการกำเนิดสวรรค์และโลกเป็นอย่างอื่น มิฉะนั้นจะไม่มีใครครอบครองพลังวิเศษที่สามารถทำลายดวงดาราและดวงตะวันได้

แต่เฉินซีได้เห็นพลังของฝ่ามือมหาดารา เพียงฟาดฝ่ามือลงไปพื้นดินก็ทรุดตัวลงแล้วแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในขณะที่ก้อนหินและภูเขาค่อย ๆ พังทลายทีละน้อย ด้วยพลังของมันนั้นแข็งแกร่งจนเหลือเชื่อมาก

ยิ่งกว่านั้น เขาเพิ่งเริ่มบ่มเพาะทำให้ฝ่ามือมหาดารามีขนาดเพียงสี่จั้งเท่านั้น ด้วยความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ย่อมถือว่ายังไม่บรรลุให้เป็นที่น่าพอใจ

พร้อมกับความก้าวหน้าของการบ่มเพาะของเขา พลังอิทธิฤทธิ์แห่งบรรพกาลที่สืบทอดมาจะน่าเกรงขามและน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น!

พลังปฐพีที่ห้าที่นี่มีมากมายอุดมสมบูรณ์ และไม่มีวันหมดสิ้น การบ่มเพาะอยู่ในที่แห่งนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าการใช้ศิลาวิญญาณดาราเพื่อบ่มเพาะเลยแม้แต่น้อย ข้าต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและพัฒนาการบ่มเพาะอย่างเหมาะสม!

ยิ่งกว่านั้นขอบเขตปฐพีที่ห้านี้เป็นระดับที่หนึ่งของบททดสอบสรวงสวรรค์ ตามที่ผู้อาวุโสจี้อวี๋เคยกล่าวไว้ การบ่มเพาะอยู่ในที่แห่งนี้สามวันเทียบกับหนึ่งวันในโลกภายนอก เมื่อกาลเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าและยังเกื้อหนุนต่อการบ่มเพาะ ดังนั้นหากจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์ก็คงไม่เกินจริงนัก

นอกจากนี้ ยังมีเวลาอีกครึ่งปี ก่อนการประลองจัดอันดับมังกรซ่อนแห่งเมืองทะเลสาบมังกรในปีหน้า ถ้าบ่มเพาะอยู่ที่นี่ในช่วงครึ่งปี มันก็จะเทียบเท่ากับการบ่มเพาะเป็นเวลาถึงหนึ่งปีครึ่ง ย่อมเพียงพอที่จะพัฒนาการบ่มเพาะของข้าไปสู่อีกขอบเขตหนึ่ง!

เฉินซีครุ่นคิดอยู่ในใจ เมื่อครั้งที่อยู่ขอบเขตก่อกำเนิด หากต้องการบ่มเพาะและเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายเพียงเล็กน้อย เขาไม่ทราบว่าต้องดูดซับพลังดาราจักรไปมากถึงเพียงใด ซึ่งมันยากมาก

ทว่า หากอยู่ในขอบเขตตำหนักอินทนิล หลังจากควบแน่นอักขระจ้าววิญญาณและแปรเปลี่ยนเป็นปราณจ้าววิญญาณ ความแข็งแกร่งสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยไม่มีขีดจำกัด และนี่คือประโยชน์ของขอบเขตตำหนักอินทนิลในการขัดเกลากายา

‘อ้อ มีอีกอย่างที่ข้าลืมไป’ เฉินซีตบหน้าผากในขณะที่คิดอยู่ในใจ จากนั้นร่างของเขาก็หายไปในอากาศ

“ผู้อาวุโสจี้อวี๋” เฉินซียืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวและตะโกนเสียงดัง

วูบ!

ประกายแวววาวพุ่งออกมาจากแม่น้ำ จากนั้นเฉินซีก็ยื่นมือออกไปคว้ามัน สิ่งนั้นคือแผ่นหยกแผ่นหนึ่ง

“นี่คือเคล็ดวิชาการบ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลของวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพ จงเอาไปบ่มเพาะอย่างถูกวิธี ในตอนนี้ข้ากำลังใช้เคล็ดวิชาเพื่อช่วยให้วิญญาณกระบี่หลอมรวมเข้ากับกระบี่ไผ่ทองคำนิลอยู่ จงอย่ามารบกวนข้า หากไม่มีอะไรสำคัญ”

เคล็ดวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพที่เฉินซีได้รับมาก่อนหน้านี้ เพียงแต่บันทึกเคล็ดวิชาการบ่มเพาะเพื่อก้าวสู่ขอบเขตตำหนักอินทนิล ส่วนเคล็ดวิชาการบ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั้งเก้าระดับไม่ได้ถูกบันทึกไว้

เขามาหาจี้อวี๋ด้วยเหตุนี้ แต่ไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะคาดเดาจุดประสงค์ของเขาได้เสียก่อน และไม่ต้องรอให้ต้องกล่าวอะไร จี้อวี๋ก็โยนเคล็ดวิชาการบ่มเพาะมาให้

ทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจี้อวี๋จะให้ความสนใจกับการบ่มเพาะของข้าอย่างใกล้ชิด

ยะฮู้!

ในเวลาต่อมา เฉินซีก็ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่บ่มเพาะระดับที่หนึ่งของบททดสอบแห่งสรวงสวรรค์อีกครั้ง หลังจากที่เขาผ่านระดับที่หนึ่งของบททดสอบไปแล้ว จากนี้เขาก็สามารถเข้าและออกได้ตามใจต้องการ

เก้าระดับของวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพของขอบเขตตำหนักอินทนิล คือการเปิดจุดชีพจรบนผิวหนัง และควบแน่นอักขระจ้าววิญญาณทั้งเก้า เคล็ดวิชาการบ่มเพาะแบ่งออกเป็นอักขระจ้าววิญญาณขั้นปฐพีที่ห้า อักขระจ้าววิญญาณขั้นพฤกษาที่สอง อักขระจ้าววิญญาณขั้นทองคำที่เจ็ด อักขระจ้าววิญญาณขั้นอัคคีที่สาม อักขระจ้าววิญญาณขั้นวารีที่สิบ… ทั้งหมดรวมเป็นเก้าบท

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ฝ่ามือมหาดาราและวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซ้ำยังมีเพียงการรวมกันของทั้งสองเท่านั้นถึงจะสร้างพลังอันน่าเกรงขามได้…

เกือบไปแล้ว! หากไม่ได้รับการสืบทอดเคล็ดวิชาฝ่ามือมหาดาราก่อนหน้านี้ ข้าจะต้องเสียใจเป็นแน่!

ขณะที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นและดูเนื้อหาของเคล็ดวิชาการบ่มเพาะ เฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

ระดับแรกของฝ่ามือมหาดาราคือขอบเขตปฐพีที่ห้าผสานเข้ากับอักขระจ้าววิญญาณขั้นปฐพีที่ห้า และปราณจ้าววิญญาณ ยิ่งพลังปฐพีที่ห้าเข้มข้นมากไปเท่าใด ฝ่ามือมหาดาราก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน ขอบเขตพฤกษาที่สองผสานเข้ากับอักขระจ้าววิญญาณขั้นพฤกษาที่สอง และสาม ขอบเขตทองคำที่เจ็ดผสานเข้ากับอักขระจ้าววิญญาณทองคำที่เจ็ด

อาจกล่าวได้ว่าหากเขาต้องการบ่มเพาะฝ่ามือมหาดาราจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ มันก็ไม่สามารถทำได้โดยปราศจากการบ่มเพาะของวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพ!

ฟู่วว!

เฉินซีสูดลมหายใจยาว และรู้สึกว่าตัวเขาโชคดีมากที่ได้รับเคล็ดวิชาการบ่มเพาะร่างกายและเคล็ดวิชาพลังอิทธิฤทธิ์ เขาจะไม่เสียใจที่ต้องขาดหนึ่งในสองสิ่งนี้อีกต่อไป

ในบรรดาธาตุทั้งห้าบนสวรรค์และโลก โลกมีคุณธรรมอันยิ่งใหญ่จากการปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เติบโตบนนั้น มันรวบรวมแก่นสารของสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลก…

เฉินซีไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป จากนั้นเขาจึงนั่งขัดสมาธิและเริ่มหมุนเวียนเคล็ดวิชาการบ่มเพาะ

ภายในโลกที่เต็มไปด้วยด้วยฝุ่นดิน มีเพียงร่างของเขาที่นั่งสมาธิอยู่เท่านั้น และดูเหมือนจะค่อย ๆ หลอมรวมเข้ากับท้องฟ้า ผืนดิน และภูเขา

พลังปฐพีที่ห้าที่มีอยู่ในโลกต่างพุ่งเข้าหาเขา และหลั่งไหลลงในอักขระจ้าววิญญาณขั้นปฐพีที่ห้าบนแผ่นหลัง ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นกระแสปราณจ้าววิญญาณขนาดเล็กระหว่างเลือดเนื้อและผิวหนัง

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบ

ขณะที่เฉินซีกำลังบ่มเพาะอยู่

ที่ชายแดนของห้วงทะเลทรายมรณะซึ่งอยู่ติดกับทุ่งหญ้าพเนจร อารมณ์ของซูติงอี้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำของตระกูลซูอีกห้าคนกลับทุกข์ระทมใจยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]