บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1195

บทที่ 1195 จนถึงที่สุด

บทที่ 1195 จนถึงที่สุด

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของทุกคนดังก้องอยู่ในหู แต่หัวใจของกู่เยวหมิงกลับเย็นเยียบ

แผนร้าย! นี่จะต้องเป็นแผนการร้ายอย่างแน่นอน และแม้แต่เหลียงเริ่นก็ถูกดึงมาเอี่ยวด้วยเช่นกัน…

ไม่ได้การ ข้าต้องห้ามเขาไม่ให้เข้าร่วมการประลอง!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ กู่เยวหมิงก็ไม่อาจใส่ใจกับอาการบาดเจ็บทั่วร่างหรือเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากผู้คนรอบข้าง เขากัดฟันอย่างแรง ก่อนจะหันหลังกลับและจากไปอย่างเร่งรีบ

ไม่มีใครหยุดเขา เพราะหลิวอี่หมิงและคนอื่น ๆ ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว

ขณะจ้องมองแผ่นหลังของกู่เยวหมิงจนลับสายตา ใบหน้าของเหล่าศิษย์อาวุโสล้วนแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยาม

“เฉินซีล่ะ?” หลิวอี่หมิงถามทันที

“ตั้งแต่ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น ศิษย์น้องเซวียนเจิ้นได้ไปแจ้งเขาแล้ว ข้าคิดว่าเขาจะมาแน่นอนหลังจากที่ทราบเรื่องนี้” หูไห่หัวเราะเบา ๆ

“ดีมาก เราต้องเตรียมการอย่างเหมาะสมเช่นกัน เพื่อที่เราจะสามารถมอบบทเรียนอันยอดเยี่ยมให้กับอันดับหนึ่งผู้นี้ และจะน่ายินดียิ่ง ถ้าทำให้เขาไม่สามารถลืมชื่อของเราได้” หลิวอี่หมิงยิ้มอย่างอ่อนโยน หัวใจของนางเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

“มีคนมาขอพบข้าอีกแล้วหรือ?”

เฉินซีขมวดคิ้วและหงุดหงิดเล็กน้อย

ไม่กี่ชั่วยามก่อน ชายหนุ่มเพิ่งส่งถังอิงกลับไป ทว่าไม่นานหลังจากนั้น ก็มีคนมาเยี่ยมตนอีกครั้ง หากสิ่งนี้เกิดขึ้นทุกวี่วัน ก็คงไม่อาจบ่มเพาะได้อย่างสงบสุข

“แล้วไปเถิด ข้าจะออกไปดูอีกครั้ง และหากคนผู้นี้มาเพื่อเชิญข้าไปที่ฝ่ายบำเพ็ญเต๋า ข้าก็จะปฏิเสธเขาโดยตรง จากนั้นข้าจะเปิดใช้งานข้อจำกัดทั้งหมดของเคหา และไม่สนใจต่อเรื่องนี้อีก”

เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาสงบอีกครั้ง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน และออกจากโลกแห่งดารา

ด้านนอกเคหา เซวียนเจิ้นยืนอยู่ตรงนั้นในชุดคลุมสีทองหรูหรา เขามีการแสดงออกที่เย่อหยิ่ง ในขณะที่หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเย็นชาที่ไม่สามารถปกปิดได้ เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เป็นคนเย่อหยิ่งไปถึงกระดูกดำ

เมื่อเห็นเฉินซีเดินออกจากเคหา เซวียนเจิ้นดูเหมือนจะรู้สึกว่ากำลังถูกดูหมิ่น เขาขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้องเฉินซี เจ้าปฏิบัติต่อแขกของเจ้าเช่นนี้หรือ?”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันที เขาจึงหันหลัง หมายกลับไปยังเคหาโดยไม่คิดฟังความใด ๆ

โลกนี้มีคนมากมายที่เข้าใจได้ยาก และข้าก็ไม่รู้จักคนผู้นั้นด้วยซ้ำ แต่เขากลับแสดงกิริยาท่าทางเช่นนี้ ข้าชักสงสัยว่าคนผู้นี้ไปเอาความรู้สึกเหนือกว่ามาจากใดกัน?”

เมื่อรวมกับการมาเยี่ยมที่ไร้มารยาทเช่นนี้ ชายหนุ่มจึงไม่รู้สึกประทับใจในตัวเซวียนเจิ้นเลยสักนิด เฉินซีจึงตัดสินใจว่า ในอนาคต เมื่อเข้าสู่การปิดด่านบ่มเพาะ เขาจะเปิดใช้งานข้อจำกัดของเคหา ตัดขาดจากเสียงรบกวนทั้งหมด

“ฮึ่ม! ศิษย์น้อง เจ้าช่างไร้มารยาทยิ่งนัก ถ้าข้าไม่เห็นแก่สหายสองคนของเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บ ข้าก็ไม่อยากจะลดตัวมาแจ้งข่าวแก่เจ้าหรอก” เมื่อเห็นเฉินซีแสดงท่าทีเช่นนั้น ใบหน้าของเซวียนเจิ้นก็กลายเป็นหมองคล้ำ น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยเย็นชา

เฉินซีชะงัก และถามโดยไม่ได้หันกลับมา “เจ้าว่าอะไรนะ?”

“ข้าบอกว่าสหายของเจ้าได้รับบาดเจ็บที่ฝ่ายบำเพ็ญเต๋า เจ้าควรรีบไปพาพวกเขากลับมา เห็นได้ชัดว่าสองคนนั้นแส่หาเรื่องเจ็บตัว ทั้งที่ฝีมือต่ำเตี้ยเรี่ยดินถึงเพียงนั้น” รอยยิ้มเย็นชาปกคลุมมุมปากของเซวียนเจิ้นหนาแน่นยิ่งขึ้น ขณะกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

ได้ยินเช่นนั้น เฉินซีก็หันควับ ในดวงตาเต็มไปด้วยแสงเย็นเฉียบราวกับประกายกระบี่ “กู่เยวหมิงกับเหลียงเริ่น?”

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาอันน่าตกตะลึงของเฉินซี ความหวาดกลัวพลันก่อตัวขึ้นในใจของเซวียนเจิ้นโดยไม่มีสาเหตุ เขาพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

ฟิ่ว!

ในพริบตาต่อมาบางสิ่งแวบผ่านหน้าเซวียนเจิ้นไป รู้ตัวอีกทีร่างของเฉินซีก็หายไปจากสายตาแล้ว

“ฮึ่ม!” เมื่อตระหนักได้ว่า ตนรู้สึกหวาดกลัวต่อการจ้องมองของอีกฝ่าย คลื่นแห่งความโกรธและความอับอายก็บังเกิดขึ้นในใจของเซวียนเจิ้น เขาจึงไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป รีบไปที่ฝ่ายบำเพ็ญเต๋าทันที

ฝ่ายบำเพ็ญเต๋า เป็นสถานที่ที่สำนึกศึกษาเตรียมไว้สำหรับศิษย์ที่จะประลองกัน โดยที่นี่จะถูกแบ่งตามการบ่มเพาะเป็นสามเขตใหญ่ อันได้แก่ เขตเซียนลึกลับ เขตเซียนทองคำ และเขตเซียนปราชญ์

แน่นอนว่าผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนทองคำและขอบเขตเซียนปราชญ์สามารถเข้าสู่ลานบำเพ็ญเต๋าของเขตเซียนลึกลับ และสามารถเข้าร่วมในการประลองได้

ทว่าข้อจำกัดของลานบำเพ็ญเต๋า เซียนทองคำที่เข้าสู่ขอบเขตเซียนลึกลับจะถูกลดขั้นการบ่มเพาะให้อยู่แค่ขอบเขตเซียนลึกลับเป็นการชั่วคราว ซึ่งนี่เป็นการรับประกันต่อความยุติธรรมในการประลองและในการหารือถึงเต๋า

ท้ายที่สุดแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหล่าศิษย์จะประลองกัน และไม่ใช่สถานที่ต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ดังนั้นมันจึงมุ่งเน้นความยุติธรรม ไม่มีใครได้รับการยกเว้นทั้งสิ้น

ในขณะนี้ ณ ลานบำเพ็ญเต๋าแห่งหนึ่งในเขตเซียนลึกลับ

เมื่อกู่เยวหมิงที่ได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัวมาถึงที่นี่ หัวใจของเขาพลันเย็นเฉียบ เพราะเห็นเหลียงเริ่นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดไหลนอง เสื้อผ้าชุ่มโชก อาการของเหลียงเริ่นร้ายแรงกว่าตนนัก

ในขณะเดียวกัน มีศิษย์อาวุโสของฝ่ายนอกหลายคนกำลังหัวเราะเย้ยหยัน เหลียงเริ่น

“ศิษย์น้อง เจ้าเป็นสหายของคนผู้นี้หรือ? เข่นนั้นข้าคงต้องรบกวนเจ้าให้พาเขากลับไปรักษาอาการบาดเจ็บ โอ้ นี่คือขวดยารักษา รับไปซะ ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับพวกเจ้า”

ศิษย์อาวุโสคนหนึ่งสังเกตเห็นการมาถึงของกู่เยวหมิง เขาเงยหน้าขึ้นทันที ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ร่างซึ่งนอนอยู่บนพื้น จากนั้นก็ควักขวดยาออกมา และโยนมันไปด้านข้างของเหลียงเริ่น ราวกับกำลังให้ทาน

ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือการกระทำของศิษย์อาวุโส มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย่อหยิ่งและดูถูกเหยียดหยาม มันทำให้กู่เยวหมิงอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]