บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1227

สรุปบท บทที่ 1227 เหยี่ยวสุญญะ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปตอน บทที่ 1227 เหยี่ยวสุญญะ – จากเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

ตอน บทที่ 1227 เหยี่ยวสุญญะ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 1227 เหยี่ยวสุญญะ

บทที่ 1227 เหยี่ยวสุญญะ

การสนทนาในห้องโถงจบลงด้วยการแสดงสมบัติอมตะระดับวีรบุรุษ และสมบัติอมตะระดับจักรวาลสองชิ้น

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แสงอรุณเพิ่งจะสาดส่องลงมา โจวจื่อหลีนำเฉินซีและคนอื่น ๆ ไปที่จัตุรัสกลางของเมืองเมฆาสุบิน

ในขณะนี้ มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่นี่ นอกจากศิษย์จากอีกหกสำนักศึกษาที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากจากกองกำลังอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ขอบเขตเซียนทองคำ และดูเหมือนจะไปสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพในสมรภูมิฝันร้ายเช่นกัน

นี่เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง แม้ว่าสมรภูมิฝันร้ายจะเป็นสนามรบขนาดกลาง แต่ก็เต็มไปด้วยผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพจำนวนมาก หากอาศัยเพียงพลังของศิษย์จากสำนักศึกษาที่ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด แน่นอนว่า ไม่สามารถสังหารพวกมันได้อย่างแน่นอน

ถึงอย่างไรศิษย์เหล่านี้ก็มาเพื่อสอบเท่านั้น ในขณะที่ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นมาเพื่อฆ่าผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพ ดังนั้นเป้าหมายของพวกเขาจึงเรียบง่ายอย่างยิ่ง นั่นคือการสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพ เพื่อรับวัตถุและสมบัติอมตะมากมายที่ไม่สามารถพบได้ในภพเซียน

“อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก หากเจ้าประสบกับเหตุร้ายแรง ให้ใช้ยันต์ข้อความ แล้วเราจะมาช่วยเหลือเจ้าเอง” โจวจื่อหลีแนะนำศิษย์ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าตน จากนั้นก็โบกมือ และกล่าวเสียงก้อง “ไปได้!”

เฉินซีและศิษย์คนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติขนาดใหญ่ที่จัตุรัสกลางทันที

โอม~

คลื่นเสียงดังก้องกังวาน ก่อนที่เฉินซีและศิษย์อีก 49 คนจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าจะหายตัวไป

“พวกเราต้องเตรียมพร้อมออกเดินทางทุกเมื่อ สมรภูมิฝันร้ายเต็มไปด้วยภยันตรายมากมาย หากเกิดเหตุร้ายเราต้องรีบรุดไปช่วยพวกเขาให้เร็วที่สุด”

ทั้งสามคนพยักหน้ารับคำ

โอม~

เมื่อเฉินซีลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง

ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติแยกเหล่าศิษย์ออกจากกัน เฉินซีหายใจเข้าลึก ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นอันตรายใด ๆ ชายหนุ่มก็ดึงแผนที่ซึ่งจารึกไว้ในยันต์หยกออกมา มันเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ของสมรภูมิฝันร้าย

สมรภูมิฝันร้ายตั้งอยู่ ณ ชายแดนของแม่น้ำแห่งดวงดาว เป็นพื้นที่ที่ก่อตัวขึ้นจากดวงดาวหลายหมื่นดวง แผนผังทางภูมิประเทศของมันซับซ้อนมาก ช่องว่างระหว่างดวงดาวก็เต็มไปด้วยกระแสมิติ รอยแยกมิติ หลุมดำ พายุห้วงมิติ และภัยพิบัติอื่น ๆ ที่น่าสะพรึงกลัวของจักรวาล สภาพแวดล้อมจึงอาจกล่าวได้ว่าน่ากลัวถึงขีดสุด

“ตำแหน่งของข้าน่าจะอยู่ที่ชายแดนของสมรภูมิฝันร้าย ซึ่งเป็นดวงดาวที่เรียกว่า ดาวสุญญะตามข้อมูลบนแผ่นหยก ดาวดวงนี้เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย…” หลังจากนั้นไม่นาน เฉินซีก็ขมวดคิ้วและเก็บแผ่นหยก แววตาทอประกายอำมหิต พลังในร่างกายพลุ่งพล่าน ชายหนุ่มเข้าสู่สภาวะของการต่อสู้ทันที

ชู่ว!

ในพริบตาต่อมา ร่างของเฉินซีเปลี่ยนเป็นเงาที่ไร้ตัวตน พุ่งไปยังระยะไกล เขาไม่ได้ใช้การเคลื่อนย้ายห้วงมิติ เพราะกังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่ปลายทาง

ดาวสุญญะ เต็มไปด้วยเหยี่ยวสุญญะ พวกมันมักซ่อนตัวอยู่ในสายลมแห่งความว่างเปล่าเพื่อล่าเหยื่อ พวกมันเป็นเหมือนนักฆ่าล่องหนที่ไม่สามารถป้องกันได้

หลังจากนั้นไม่นาน เฉินซีก็หยุดเคลื่อนไหว และจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า ทันใดนั้น ความรู้สึกผิดปกติสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ชายหนุ่มพลันสะบัดแขนเสื้อ จากนั้นอสูรเซียนสีขาวราวหิมะทั้งตัว มีขนาดใหญ่ประหนึ่งสิงโต และปล่อยกลิ่นอายที่กดขี่ออกมาปรากฏขึ้นข้างกาย มันคืออสูรวิญญาณดารา ชิงชิง

อันที่จริง เนื่องจากชิงชิงเข้าสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าพร้อมกับผู้เป็นาย มันจึงอาศัยอยู่ภายในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์มาโดยตลอด และถ้ามันไม่ได้ส่งสัญญาณของความตั้งใจที่ทำให้เฉินซีตื่นตระหนก เขาก็เกือบจะลืมมันไปแล้ว

อู้วววว~

ชิงชิงร้องขณะวิ่งไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่ามันเบื่อหน่ายกับเจดีย์บำเพ็ญทุกข์ขนาดไหน เมื่อยืดเส้นยืดสายจนพอใจ มันก็กลับมาที่ข้างกายชายหนุ่ม พลางมองด้วยสายตาไม่พอใจ

เฉินซีรู้สึกผิดอีกครั้ง และรีบดึงน้ำค้างอมตะออกมาให้ชิงชิง ชิงชิงก้าวไปข้างหน้าและสูดอากาศเข้าไป ก่อนจะเผยประกายเกลียดชัง จากนั้นมันก็ส่ายหัวซ้ำ ๆ

เฉินซีกล่าวสิ่งใดไม่ออก “…”

“อสูรวิญญาณดาราชอบกินแก่นดาราเท่านั้น สิ่งที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้ จะไม่สามารถทำให้มันเติบโตขึ้นได้”

หม้อใบจิ๋วกล่าวช้า ๆ การมาที่สมรภูมินอกพิภพ ดูเหมือนจะทำให้มันพอใจอย่างมาก น้ำเสียงเจือความอบอุ่นขึ้นมาก “ในความคิดของข้า สหายตัวน้อยผู้นี้ครอบครองกฎแห่งมหาเต๋า วายุ อัคคี ดารา และการกลืนกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎแห่งการกลืนกินนี้หาได้ยากมาก และทำให้พรสวรรค์ตามธรรมชาติของอสูรวิญญาณดารานี้ทัดเทียมกับสัตว์เทวะในยุคบรรพกาล”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชิงชิงยกหน้าอกขึ้นอย่างภาคภูมิ จากนั้นจึงส่ายหัวอย่างพึงพอใจราวกับว่ามันรู้ว่าหม้อใบจิ๋วกำลังชมเชยมัน

แต่เมื่อมันเลื่อนสายตาไปยังชายหนุ่ม นัยน์ตาของมันก็ได้เผยความรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจอยู่ในที ดูเหมือนมันจะกล่าวโทษเฉินซีที่ไม่เพียงแค่ปล่อยมันไว้เฉย ๆ ทั้งยังไม่ให้อะไรมันกินอีกด้วย มันรู้สึกว่าเฉินซีใจร้ายเสียเหลือเกิน

“ผู้อาวุโส แก่นดาราคือสิ่งใดกัน? ข้าจะหาพวกมันได้จากที่ใด?” เฉินซีรีบลูบหัวปุกปุยของชิงชิง ก่อนจะถามหม้อใบจิ๋วว่าตนควรจัดการกับปัญหาอย่างไร เพื่อให้ชิงชิงบ่มเพาะได้สำเร็จ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับแก่นดารา

เฉินซีสัมผัสได้ว่า กลิ่นอายคลุมเครือของการกลืนกินที่ปกคลุมร่างของชิงชิง กำลังดูดซับกฎแห่งวายุภายในศพของเหยี่ยวสุญญะ!

“นี่…” เฉินซีตกตะลึงเล็กน้อย ไม่คิดว่าชิงชิงจะสามารถใช้กฎแห่งการกลืนกิน เพื่อแปลงกฎของคนอื่นให้เป็นของตนได้ เป็นความสามารถที่อาจถือได้ว่าผิดปกติอย่างยิ่ง

เมื่อลองคิดดูแล้ว ทุกครั้งที่เขาฆ่าศัตรู ชิงชิงจะสามารถดูดซับกฎแห่งมหาเต๋าภายในร่างของศัตรูได้ และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ชิงชิงก็ไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะ และทำความเข้าใจต่อกฎนี้เลย ทั้ังยังทำให้กฎแห่งมหาเต๋าที่ชิงชิงครอบครองก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นมันจึงค่อนข้างน่ากลัว

“น่าเสียดายที่เจ้าตัวเล็กยังอยู่ในช่วงวัยเด็ก ดังนั้นมันจึงสามารถดูดซับและขัดเกลากฎแห่งมหาเต๋าที่ครอบครองโดยผู้อื่นได้เพียงหนึ่งส้วนเท่านั้น ถ้ามันเติบใหญ่ มันจะสามารถดูดซับกฎแห่งมหาเต๋าของผู้อื่นได้อย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนเป็นของตนเอง” หม้อใบจิ๋วถอนหายใจเบา ๆ และรู้สึกว่าเฉินซีกำลังทำให้ของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้เสียเปล่า และไม่เลี้ยงดูชิงชิงให้ดีมาตั้งแต่เริ่มต้น

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะลูบจมูกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และได้แต่คิดในใจ “ตอนนี้ข้าเข้าใจกฎแห่งการกลืนกินแล้วเช่นกัน ถ้าข้าดูดซับพลังของกฎจากคู่ต่อสู้ ข้าจะสามารถเปลี่ยนพวกมันให้เป็นของข้าเองได้หรือไม่?”

“อย่าทำเช่นนั้นจะดีกว่า เว้นแต่เจ้าควบแน่นกฎแห่งการกลืนกินให้เป็นตราศักดิ์สิทธิ์แห่งมวลสวรรค์ มิฉะนั้น กฎแห่งมหาเต๋าที่เจ้าดูดซับจะมีแต่มลทิน และส่งผลต่อการบ่มเพาะของเจ้าแทน” หม้อใบจิ๋วดูเหมือนจะมองความคิดของเขาออก และเอ่ยเตือนทันที “สำหรับเจ้าตัวเล็กนี้ มันจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นนั้น เพราะสายเลือดและความสามารถของมันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเทียบได้”

เฉินซีตกตะลึงและละทิ้งความคิดนี้ทันที ไม่ว่ามันจะดึงดูดใจเพียงใด สิ่งใดก็ตามที่มีผลต่อการบ่มเพาะในทางลบ จะเป็นสิ่งที่เขาจะไม่ทำอย่างแน่นอน

แผล่บ! แผล่บ!

ชิงชิงเลียริมฝีปากด้วยท่าทีไม่พอใจ ดวงตาของมันเปล่งประกาย จับจ้องเฉินซี ราวกับกำลังบอกว่ามันอยากกินมากกว่านี้…

“มาเถอะ เราจะฆ่าพวกมันระหว่างตามหาแก่นดารา!” เฉินซีหัวเราะเต็มเสียง จากนั้นก็เริ่มออกตามหาแก่นดาราทันที

ครั้งนี้ชายหนุ่มใช้เนรตเทวะแห่งความจริง ดวงตาแนวตั้งที่หว่างคิ้วเบิกกว้าง ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถมองทะลุสิ่งแปลกปลอมได้อย่างชัดเจน ทำให้เขามองเห็นร่องรอยของเหยี่ยวสุญญะ แม้ว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในสายลมก็ตาม

ในทางกลับกัน ชิงชิงพุ่งไปเคียงข้างเขา พร้อมกับสูดกลิ่นเป็นครั้งคราว มันค้นหากลิ่นอายของแก่นดาราไปตลอดทาง

เฉินซีรู้สึกขบขัน และรู้สึกว่าชิงชิงเป็นเหมือนสุนัขขนปุยที่เหมือนหิมะสีขาว ท่าทางของมันดูโง่งมมาก แต่ก็มีเสน่ห์เช่นกัน

หลังจากผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป ยอดเขาเตี้ย ๆ และขรุขระก็ปรากฏขึ้นข้างหน้า จู่ ๆ ชิงชิงก็หยุดเคลื่อนไหว และกู่ร้องอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะพุ่งเข้าหายอดเขานั้น

“ช้าก่อน!” เฉินซีหยุดชิงชิง ดวงตาแนวตั้งที่หว่างคิ้วกวาดไปยังยอดเขาเตี้ย ๆ

ในขอบเขตการมองเห็นของเขา พื้นที่โดยรอบของยอดเขาเต็มไปด้วยกระแสลมแรงที่ส่งเสียงหวีดหวิว และเหยี่ยวสุญญะจำนวนมากกำลังกระพือปีกอยู่ในนั้น พวกมันก่อตัวเป็นมวลหนาแน่นปกคลุมฟ้าดิน และปกคลุมยอดเขาไว้อย่างแน่นหนา ดูแล้วน่าจะมีอย่างน้อยมากกว่าหนึ่งพันตัว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]