บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1264

บทที่ 1264 อำนาจจากชื่อเสียง

บทที่ 1264 อำนาจจากชื่อเสียง

ทวีปดาราวีรบุรุษ

เมืองเซียนสัประยุทธ์

ชิ้ง~

กระแสพลังผันผวนผุดขึ้นมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ เมื่อเปิดใช้งานมาอีกครั้ง ก็มีกลุ่มผู้บ่มเพาะพุ่งออกมาจากภายใน หนึ่งในนั้นคือเฉินซี เซวียนหยวนอวิ่น วิปลาสหลิ่ว และชีเซียวอวี่

พวกเขากลับมาจากทวีปเซียนสายหมอกได้เพียงหนึ่งวันก็มาถึงเมืองเซียนสัประยุทธ์ สำหรับเฉินซีแล้วก็เป็นเหมือนวัฏจักรความสุขและความเศร้า

การได้อาจารย์ของตนอย่างวิปลาสหลิ่วกลับมา ทำให้เขาดีใจมาก แต่พอได้เห็นความทุกข์ทรมานที่วิปลาสหลิ่วต้องเผชิญมาตลอดหลายปีก็ทำให้ทั้งโกรธทั้งเสียใจ

มันจึงเป็นทั้งความสุขและความเศร้า จริง ๆ แล้วพลังบ่มเพาะดวงจิตแห่งเต๋าในตอนนี้สามารถควบคุมอารมณ์ทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขาไม่อยากทำเช่นนั้น

ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเป็นเซียน แต่ก็ไม่ใช่พวกเย็นชาไร้ความรู้สึกกันทั้งนั้น หากสูญเสียอารมณ์ความรู้สึกไปแล้วจะต่างอะไรจากหุ่นเชิดหรือศพเดินได้กัน แล้วจะบ่มเพาะพลังอย่างไร? จะทำความเข้าใจเต๋าได้อย่างไร?

ณ สถานที่ตั้งสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนจากทั่วทั้งภพเซียนเดินทางมายังเมืองเซียนสัประยุทธ์ทุกเมื่อเชื่อวัน ในด้านความรุ่งเรืองนับว่าเมืองอื่นเทียบไม่ติด

วันนี้ในเมืองเซียนสัประยุทธ์ก็คึกคักเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ดั่งเคย

พวกเขาเดินไปตามถนนที่ผู้คนและเกวียนพลุกพล่าน เห็นผู้บ่มเพาะจากหลากหลายเผ่าพันธุ์และหลายต้นกำเนิดในภพเซียน สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยปราณเซียนหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นวิปลาสหลิ่วหรือชีเซียวอวี่ล้วนเบิกตากว้าง ร้องเสียงตกใจออกมาไม่หยุด

สำหรับวิปลาสหลิ่วและชีเซียวอวี่ที่ถูกขังเป็นนักโทษอยู่ภายในเหมืองหลอมวิญญาณอันมืดมิด ภาพตรงหน้าเป็นดั่งความฝัน นี่คือภพเซียนที่แท้จริง!

พอเห็นวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่ที่ตามมาด้านข้างมีสีหน้าตกตะลึง เฉินซีก็สัมผัสได้ว่าพวกเขามีความเกรงกลัวต่อสถานที่รุ่งเรืองตรงหน้าอยู่บ้าง เหมือนบ้านนอกเข้าเมืองเป็นครั้งแรก…

ซึ่งทำให้เฉินซีรู้สึกเศร้า พลันรู้สึกเจ็บอยู่ในใจ

จากนี้ต่อไป ตัวข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาต้องทนทุกข์อีก! เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเม้มปาก เขาไม่พูดอะไรและตัดสินใจเงียบต่อไป

จากนั้นไม่นาน เซวียนหยวนอวิ่นก็บอกลา แล้วกลับไปจัดเตรียมที่ไว้ให้วิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่พักอาศัย

นั่นก็เป็นเพราะสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า แม้เฉินซีจะเป็นคนพาวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่กลับมาด้วย แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองคน จึงต้องหาสถานที่ปลอดภัยให้พักก่อน

ตระกูลเซวียนหยวนมีสาขาอยู่ในเมืองเซียนสัประยุทธ์ หากเขาสามารถหาที่พักให้วิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่พักในอาณาเขตตระกูลเซวียนหยวนได้ จึงนับว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด

เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเขตของหนึ่งในเจ็ดตระกูลบรรพกาลอย่างตระกูลเซวียนหยวน หากคนภูเขาหมอกเซียนไล่ล่าวิปลาสหลิ่วมาถึงที่นี่ ก็คงไม่สามารถเข้าเขตตระกูลเซวียนหยวนมาได้

เฉินซีไม่รีบกลับสำนัก เขาพาวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่เดินชมรอบเมืองเซียนสัประยุทธ์

เขารู้ดีว่าตนเองมีเรื่องต้องทำมากมาย ดังนั้นไม่ว่าการทิ้งทั้งสองคนไว้จะรู้สึกเจ็บปวดเพียงใด แต่ในยามนี้เขาไร้ทางเลือก ยังต้องกลับไปทำการฝึกฝนต่อ เช่นนี้โอกาสได้พบวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่จึงหาได้ยากนัก

เขาจึงฉวยโอกาสนี้ทิ้งทุกอย่างมาพาทั้งสองเดินเที่ยวสักรอบก่อนลาจาก

แต่ไม่นาน เฉินซีก็เห็นว่าวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก จึงกวาดตามองรอบข้างและเข้าใจในทันที

กลายเป็นว่าเสื้อผ้าของวิปลาสหลิ่วกับชีเซียวอวี่ดูแทบไม่ได้ เยื้องย่างไปทางไหนก็เหมือนบ้านนอกเข้าเมืองอย่างแท้จริง ดูหวาดกลัวสงบเสงี่ยมจนเกินไป เรียกสายตาแปลก ๆ จากคนรอบข้างที่ผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี

ถึงขนาดที่พวกปากเสียบางคนไม่ปิดบังความเกลียดชัง เอ่ยเยาะเย้ยพวกเขาขึ้นมา

“ตาแก่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นพาหนูน้อยขอบเขตเซียนปฐพีมาเสียด้วย ไม่รู้ว่ามาจากหมู่บ้านไหน นับเป็นภาพที่หาได้ยากในเมืองเซียนสัประยุทธ์ ที่ทุกคนล้วนมีเงินหรือไม่ก็เป็นคนชั้นสูง ฮ่า ๆ!”

เฉินซีเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งนี้ ยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยดังมาจากข้างถนนแล้ว

ผู้พูดคือสตรีในชุดหรูหราคนหนึ่ง สวมเข็มขัดที่ทำจากหยก บนผมปักปิ่นล้ำค่า กำลังโบกพัดขนนกที่ส่องแสงเรืองของสมบัติล้ำค่าออกมา ท่าทีหยิ่งผยองเหมือนนกยูงรําแพนหาง

แต่ตอนนี้รอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากทำให้นางดูใจร้ายนัก

เฉินซีขมวดคิ้วแล้วส่งสายตาเย็นชามองไป

“มองอะไรของเจ้า? ไม่พอใจหรือ? ในเมื่อเจ้ามากับตาแก่กับแม่หนูนั่น ก็คงจะเป็นขยะไม่ต่างกัน” หญิงสาวเห็นเฉินซีมองมาจึงเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะเชิดหน้าชูคอขาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจเดียดฉันท์

เพียะ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]