บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1266

บทที่ 1266 ประสบการณ์ดั่งตำนาน

บทที่ 1266 ประสบการณ์ดั่งตำนาน

หลังจากที่เดินออกจากห้องรับรองพิเศษ ท่าทางของทุกคนนอกเหนือจากเฉินซีก็ดูงุนงงราวกับถูกครอบงำ

วิปลาสหลิ่วรู้สึกประหลาดใจ และมักจะกัดฟันอยู่บ่อยครั้ง พลางถอนหายใจยาวเหยียด

ชีเซียวอวี่กลับมีท่าทางสับสน และมักจะเอียงศีรษะขณะครุ่นคิดด้วยใบหน้าคิ้วขมวด ซึ่งดูเหมือนกำลังมึนงงกับการคำนวณที่ซับซ้อน

ในส่วนของผู้ดูแลแสนสวยจื่ออวี้ นางก็ดูงุนงงเช่นกัน ทั้งยังเดินอย่างไม่มั่นคง จนเกือบชนเฉินซี

“มีอะไรผิดปกติหรือ?” เฉินซีขมวดคิ้ว ในขณะที่ใช้พลังเพื่อช่วยนางให้ยืนได้อย่างมั่นคง

“มะ…ไม่มีอะไร” จื่ออวี้ตกตะลึง และจิตใจของนางก็ปลอดโปร่งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางจะรีบส่ายหน้า

เฉินซีพยักหน้าและไม่กล่าวอะไร

จื่ออวี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างลับ ๆ และหวนนึกถึงฉากในห้องรับรองพิเศษก่อนหน้านี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คลื่นพายุพัดโหมเข้าสู่หัวใจน้อย ๆ ของนางอย่างอดไม่ได้

ภายในห้องรับรองพิเศษก่อนหน้านี้ เฉินซีได้หยิบวัตถุดิบเซียนที่ล้ำค่าออกมากองเป็นภูเขาอย่างต่อเนื่อง มากถึงขนาดสามารถเติมเต็มห้องรับรองพิเศษได้ถึงเก้าห้อง!

พวกเขาล้วนตกใจอย่างรุนแรงถึงเก้าครั้ง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนางนึกถึงใบหน้าที่เปลี่ยนไปมาของเซวียนจง และแววตาที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเสียสติ จื่ออวี้ก็รู้สึกขบขันในใจอย่างอดไม่ได้ เพราะแม้แต่ผู้ประเมินสมบัติที่รอบรู้ ก็ไม่สามารถสงบจิตใจได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับคนอื่น ๆ?

หลังจากนั้น ดวงตาที่งดงามของนางก็เหลือบมองเฉินซีที่ยืนอยู่ข้างเคียงอย่างไม่รู้ตัว ความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่อาจควบคุมได้ก็ผุดขึ้นในใจของจื่ออวี้ทันที “เขา…เขารวบรวมสมบัติล้ำค่ามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? หรือว่าเขาจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่น่าเกรงขามเช่นกัน?”

“นี่คือห้องโถงสมบัติใช่หรือไม่??” เฉินซีหยุดขณะที่จ้องมองไปทางห้องโถงที่ใหญ่โตและโอ่อ่าตรงหน้า ในชั่วพริบตา ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองดูแสงเรืองรองอันงดงามต่าง ๆ ของสมบัติที่มีอยู่เต็มไปหมด

มันมีสมบัติมากมายเรียงรายอยู่บนชั้น ทั้งยังเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง นอกจากนี้ เฉินซียังรู้สึกราวกับไม่อาจเห็นจุดสิ้นสุดของแถวสมบัติ ในขณะนี้มีลูกค้ามากมาย ทั้งชายและหญิงกำลังมองไปที่สมบัติเหล่านั้น ทุกคนล้วนสวมเสื้อผ้าที่หรูหราและมีเกียรติ

เฉินซีเหลือบมองวิปลาสหลิ่วและชีเซียวอวี่ที่ยืนอยู่ข้างเคียง จากนั้นไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “ข้าต้องการสมบัติอมตะและโอสถทิพย์ที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์และขอบเขตเซียนลึกลับต้องการ”

ดวงตาของจื่ออวี้สว่างวาบ เพราะนี่เป็นการค้าครั้งใหญ่ ขอบเขตเซียนสวรรค์ถูกแบ่งออกเป็นสี่ขั้น ส่วนขอบเขตเซียนลึกลับนั้นถูกแบ่งออกเป็นสามขั้น ซึ่งทุก ๆ ขั้นจะมีสมบัติและโอสถทิพย์ที่เหมาะแก่การบ่มเพาะโดยเฉพาะ

ตัวอย่างเช่น ในแง่ของโอสถทิพย์ มันมีไม่น้อยกว่าร้อยชนิดที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นจะต้องกินและบ่มเพาะด้วย!

“ข้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น” เฉินซีกล่าวเสริม

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของจื่ออวี้ก็สว่างวาบยิ่งขึ้น ดียิ่ง! นั่นหมายความว่า หากนางสามารถทำการค้าครั้งนี้ได้สำเร็จ นางก็จะได้รับส่วนแบ่งจากมันมากขึ้น!

โดยไม่ต้องไตร่ตรองใด ๆ ให้มากความจื่ออวี้จึงนำเฉินซีและคนอื่น ๆ เข้าไปในห้องโถงสมบัติ และพาผู้ดูแลวัยกลางคนเข้ามา หลังจากที่นางระบุความต้องการของเฉินซีอย่างชัดเจน ดวงตาของผู้ดูแลวัยกลางคนก็สว่างวาบเช่นกัน จากนั้นเขาก็ต้อนรับเฉินซีและคนอื่น ๆ อย่างอบอุ่น ก่อนจะพาเข้าไปในห้องส่วนตัว

หลังจากนั้น ห้องส่วนตัวก็ไม่เงียบอีกต่อไป และมันก็คึกคักเป็นอย่างยิ่ง

“คุณชาย โปรดดูสิ่งนี้ โอสถหลอมหทัยครามขวดนี้ มีราคาตลาดอยู่ที่ศิลาอมตะแปดหมื่นก้อน แม้มันจะมีราคาที่สูงลิ่ว แต่โอสถธรรมดาทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบได้ มันได้รับการกลั่นจากสมุนไพรอมตะอันล้ำค่าถึงหนึ่งร้อยเจ็ดชนิด และนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะแล้ว ยังส่งเสริมการบ่มเพาะของคนคนหนึ่ง ทำให้รากฐานแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น มันจึงเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง!” ผู้ดูแลวัยกลางคนมีนามว่าหลูเซิง มีรูปร่างอ้วนท้วน แต่การเคลื่อนไหวกลับคล่องแคล่วว่องไว เขาหยิบขวดยาออกมาทันที ก่อนจะแนะนำให้กับเฉินซี

“ข้าจะซื้อมัน!” เฉินซีไม่ลังเลเลยสักนิด และก่อนที่หลูเซิงจะรู้สึกยินดีจากสิ่งนี้ เฉินซีก็กล่าวเสริมว่า “ข้าเอาสองขวด”

“สองขวด!” นั่นคือศิลาอมตะหนึ่งแสนหกหมื่นก้อน เมื่อเห็นเฉินซีตรงไปตรงมา หลูเซิงก็รู้สึกยินดีทันที “ชายหนุ่มตรงหน้าจะต้องเป็นทายาทของตระกูลที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน! ชายผู้นี้คงมาจากครอบครัวที่มั่งคั่งเป็นแน่ เพราะท่าทางและการกระทำต่าง ๆ ของเขา ย่อมไม่มีทางที่คนธรรมดาจะลอกเลียนแบบได้!”

หลังจากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบจิตสงบใจอย่างแข็งขัน “ข้าไม่อาจตุกติกต่อลูกค้ารายนี้ ข้าต้องให้ส่วนลดและสิทธิพิเศษทั้งหมดที่ข้าควรให้ สรุปก็คือ… ข้าไม่สามารถทำให้เขารู้สึกว่าถูกโกงได้!” ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ข้าจะมีโอกาสทำให้เขาเป็นลูกค้าประจำ”

“รองเท้าเมฆาม่วงเกลียวแสงคู่นี้ เป็นหนึ่งในรองเท้าที่ดีที่สุดในบรรดาสมบัติอมตะระดับสามัญ และได้รับการหลอมสร้างโดยยอดปรมาจารย์ แม้ว่าจะเป็นเพียงสมบัติอมตะระดับสามัญ แต่สรรพคุณของมันก็ไม่ธรรมดา นอกจากจะสามารถเพิ่มความเร็วให้กับผู้สวมได้ถึงสามส่วนแล้ว ยังมีความสามารถอีกหลายอย่าง เช่น กันฝุ่น กันน้ำ กันลม กันไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย”

“ตกลง! เอามาสองคู่!” เฉินซีพยักหน้าอีกครั้ง

เฉินซีไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะกล้าหลอกลวงตน ประกอบกับความจริงที่ว่าเขาได้สังเกตเห็นคุณภาพของสมบัติตรงหน้าเหล่านี้ และรู้สึกว่ามันคุ้มค่าสมราคาอย่างยิ่ง จึงไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ

“เกราะดาราเก้าเรืองรองชุดนี้ มีคุณภาพสูงที่สุดในระดับวิญญาณทมิฬ มันมีม่านพลังป้องกันถึงสามสิบหกชั้น ทำให้ยากต่อการสั่นคลอน นอกจากนี้เมื่อสวมชุดเกราะนี้ในระหว่างบ่มเพาะ มันจะส่งผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมอย่างมาก สมบัติอันล้ำค่าเช่นนี้ มีราคาเพียงหนึ่งแสนเก้าหมื่นก้อนเท่านั้น”

“ตกลง เอามาสองชุด” เฉินซีพยักหน้าอย่างไม่ลังเลอีกครั้ง แม้ว่าวิปลาสหลิ่วและชีเซียวอวี่จะยังห่างไกลจากขอบเขตเซียนลึกลับ แต่เวลานั้นจะมาถึงในไม่ช้า ซึ่งมันจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง

“ผงนวชาดลึกล้ำ…”

“ข้าจะซื้อมัน!”

“เกราะไหล่บัญชาดารา…”

“ข้าจะซื้อมัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]