บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1297

บทที่ 1297 การเผชิญหน้าระหว่างสุริยันอันเจิดจ้าทั้งสองดวง

บทที่ 1297 การเผชิญหน้าระหว่างสุริยันอันเจิดจ้าทั้งสองดวง

ในวันนี้ ฝ่ายบำเพ็ญเต๋าคึกคักเป็นพิเศษ สรรพเสียงเซ็งแซ่สะเทือนก้อง

แม้ว่าจะเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่ทั่วทั้งฝ่ายบำเพ็ญเต๋าก็เต็มไปด้วยผู้คน ไม่ใช่แค่อาจารย์และศิษย์ที่มารวมตัวกันที่นี่ ยังมีคนอื่น ๆ จากอีกหกสำนักที่มาเฝ้าดูงาน

ทุกที่ที่สายตาส่องถึง ล้วนเต็มไปด้วยผู้คนอยู่อย่างหนาแน่นและดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

ในฐานะที่เป็นงานถกวิถีเต๋าครั้งใหญ่ที่ได้รับการคาดหมายมากที่สุดในภพเซียน การถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จึงดึงดูดความสนใจจากทั่วทั้งภพเซียน

ปัจจุบัน ในเมืองเซียนสัประยุทธ์เต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะที่มาจากทั่วทุกสารทิศ แม้พวกเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมได้ แต่ขอเพียงสามารถได้รับข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของการถกวิถีเต๋าได้ก่อนใคร ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง

เพราะนี่เป็นการชิงชัยระหว่างยอดผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนทองคำรุ่นใหม่ในภพเซียน และเป็นการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจสูงสุดระหว่างศิษย์ของเจ็ดสำนักที่ยิ่งใหญ่ ย่อมเป็นการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อสู้ระหว่างสุริยันที่เจิดจ้าสองดวงอาจปะทุขึ้นในระหว่างการถกวิถีเต๋าครั้งนี้ ดังนั้นจะมีใครพลาดการต่อสู้ที่หาได้ยากเช่นนี้ได้?

เมื่อเฉินซีและเยี่ยถังเพิ่งมาถึงฝ่ายบำเพ็ญเต๋า คลื่นเสียงโห่ร้องก็ปะทะเข้าใบหน้า และเสียงพูดคุยต่าง ๆ นานาก็ดังสนั่นไปทั่วฟ้าดิน ทำให้มันดูคึกคักอย่างยิ่ง

เฉินซีกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นว่าฝ่ายบำเพ็ญเต๋าในวันนี้ดูจะไม่เหมือนครั้งก่อน สิ่งที่แตกต่างไปคือสนามประลองที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้า

ทางด้านตะวันออกและตะวันตกของสนามประลอง มีเมฆมงคลจำนวนมากลอยอยู่ที่นั่น โดยที่โต๊ะ เก้าอี้ และผลไม้สดตามฤดูกาลทั้งสี่ น้ำค้างอมตะ หรือสุรารสเลิศก็ถูกจัดวางไว้บนเมฆมงคลเหล่านั้น

เมฆมงคลทางทิศตะวันออกเป็นของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และเป็นที่นั่งของเจ้าภาพ เมื่อการถกวิถีเต๋าเริ่มขึ้น ศิษย์ที่เข้าร่วมจะขึ้นไปยังที่นั่นและรอคำสั่งของพวกเขา

สำหรับแขกคนอื่น ๆ กับศิษย์และอาจารย์ของอีกหกสำนักที่มาร่วมงาน พวกเขาทำได้เพียงอยู่ใต้เมฆมงคล และหาสถานที่สำหรับรับชมด้วยตัวเอง

นอกจากนั้น เฉินซีสังเกตเห็นว่า ทางทิศใต้ของสนามประลองที่ลอยอยู่กลางอากาศ มีระฆังสัมฤทธิ์โบราณที่สูงสิบจั้งแปดฉื่อ น่าประหลาดใจที่มันคือระฆังเต๋าแห่งการประชัน!

ครั้งหนึ่ง เมื่อเฉินซีผ่านการทดสอบของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และก้าวเท้าเข้าสู่ประตูสำนักเป็นครั้งแรก เขาเคยเห็นระฆังใบนี้

ระฆังใบนี้มีเจตจำนงของการประชันเพื่อชิงอำนาจสูงสุดในหมู่ผู้เยี่ยมยุทธ์ มันถูกสร้างขึ้นสำหรับสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าโดยเฉพาะ ซึ่งจักรพรรดิสิ่งประดิษฐ์ในยุคบรรพกาลได้ใช้เหล็กกล้าโกลาหลในการสร้างมัน ตัวระฆังเป็นสมบัติอมตะระดับว่างเปล่า และมีเพียงราชันเซียนเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้!

สรรพคุณของระฆังก็เรียบง่ายมาก เมื่อมันดังขึ้น มันจะดังก้องไปทั่วฟ้าดิน และไม่เพียงแต่จะได้ยินอย่างชัดเจนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า แต่ทั่วทั้งเมืองเซียนสัประยุทธ์ก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่า เพื่อประโยชน์ของการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนัก การที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านำสมบัติชิ้นนี้ออกมา ก็เพื่อประกาศศักดาของงานอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ต่อโลกภายนอก

“ดูเหมือนทางสำนักจะมีความมั่นใจมาก”

ในขณะนี้ เฉินซีอดไม่ได้ที่จะยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นระฆังเต๋าแห่งการประชัน

หลังจากนั้น ก็สั่งให้พวกหลิงไป๋อยู่นิ่ง ๆ ก่อนจะพุ่งไปทางเมฆมงคลทางทิศตะวันออกของสนามประลองพร้อมกับเยี่ยถัง

“ดูนั่น! ศิษย์พี่เยี่ยถังและเฉินซีมากันแล้ว!”

“ฮ่า ฮ่า! เฉินซีออกมาจากการปิดด่านบ่มเพาะจริง ๆ! ข้ารู้ว่าคนอย่างเขาจะไม่มีวันพลาดงานใหญ่เช่นนี้อย่างแน่นอน!”

“น่าเสียดายที่ศิษย์พี่หญิงหลิงชิงอู๋ออกไปฝึกฝนที่โลกภายนอก มิฉะนั้น สำนักของเราคงบดขยี้อีกหกสำนักในการถกวิถีเต๋าครั้งนี้จนราบคาบอย่างแน่นอน”

“อันที่จริงข้าก็กังวลเล็กน้อยเช่นกัน ท้ายที่สุด นอกจากศิษย์พี่เยี่ยถังแล้ว ตัวแทนสำนักของเราในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นศิษย์ที่เพิ่งเข้าสู่เขตฝ่ายใน แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาจะไม่มีใครเทียบได้ แต่พวกเขาก็ยังขาดประสบการณ์เมื่อเทียบกับผู้เยี่ยมยุทธ์ของอีกหกสำนัก”

“อย่าได้กังวล ผู้อาวุโสของสำนักเตรียมการเช่นนี้ ย่อมต้องมีความมั่นใจมากอย่างแน่นอน เราแค่ต้องดูอย่างใจเย็นเท่านั้น”

เมื่อพวกเขาเห็นเฉินซีและเยี่ยถังปรากฏตัวพร้อมกัน บรรยากาศรอบข้างที่อึกทึกครึกโครมแต่เดิม ดูเหมือนจะตกสู่ความโกลาหลอีกครั้ง เหล่าศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าตื่นเต้นอย่างมาก และโห่ร้องให้กำลังใจแก่ทั้งสอง ทำให้เกิดคลื่นเสียงที่สั่นสะเทือนสวรรค์

สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยถังหรือเฉินซี ทั้งสองจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

“พวกเจ้ามากันแล้ว” บนเมฆมงคล หวังต้าวหลูคลี่ยิ้มแล้วลูบเครา และเดินไปต้อนรับทั้งสอง

“อาจารย์หวัง” เฉินซีและเยี่ยถังประสานมือคารวะ

หวังต้าวหลูยิ้มและกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องสุภาพ การถกวิถีเต๋าจะเริ่มในอีกหนึ่งก้านธูป เจ้าทั้งคู่ควรทำความเข้าใจกฎก่อนจะถึงเวลานั้น”

ขณะที่กล่าว เขาก็สะบัดแขนเสื้อ จากนั้นจึงมอบแผ่นหยกให้เฉินซีกับเยี่ยถังคนละชิ้น

เฉินซีนั่งไขว่ห้างอยู่หลังโต๊ะโดยตรง พลางดูแผ่นหยกในมืออย่างตั้งใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]