บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1384

บทที่ 1384 แดนเซียนยมโลก

บทที่ 1384 แดนเซียนยมโลก

เมื่อเฉินซีผ่านสุสานจอมกระบี่บรรพกาลมาได้ ก็มีศิษย์คนอื่นที่เคลื่อนมิติออกมาจากสุสานแห่งราชันนิรันดร์เช่นกัน

คือจี้เซวียนปิง อ๋าวจ้านเป่ย และจ้าวเมิ่งหลี

ทั้งสามเคลื่อนมิติออกมาแทบจะพร้อมกัน ดังนั้นเมื่อเห็นอีกสองคนจึงได้แต่ยิ้มขื่นให้

ใช่แล้ว พวกเขาไม่ผ่าน ไม่สามารถเอาชนะศัตรูภายในหนึ่งพันครั้งได้

“สุสานแห่งราชันนิรันดร์นี่มันจะแกร่งเกินไปแล้วกระมัง? ศัตรูของข้าเป็นผู้อาวุโสเผ่าวิหคอมตะ แม้พลังจะถูกกดอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์ แต่ข้าก็เทียบนางไม่ติดเลย”

จ้าวเมิ่งหลียังคงมีความรู้สึกหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ในใจจนถึงตอนนี้ เพราะนางถูก ‘สังหาร’ ไปพันครั้ง ไม่ต่างจากการได้สัมผัสการเกิดดับนับพัน มันเป็นความหวาดกลัวที่ไม่อาจลบล้างในชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ได้

ไม่ใช่เพียงนางเท่านั้น แต่จี้เซวียนปิงและอ๋าวจ้านเป่ยก็เช่นกัน

ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ซึ้งถึงความเป็นความตายและไร้ความหวาดกลัวต่อมัน

ไม่แน่ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของแต่ละคน พวกเขาล้วนเป็นทายาทจากเจ็ดตระกูลใหญ่บรรพกาล ตระกูลจี้ หรือไม่ก็เป็นผู้สืบทอดวิหคอมตะแท้จริงแห่งเผ่าวิหคอมตะ ไม่เช่นนั้นก็เป็นทายาทภพมังกร ใช้ชีวิตหรูหรามาตั้งแต่เด็ก บ่มเพาะวิชาชั้นสูงหลากหลาย ได้รับการปฏิบัติจากผู้อาวุโสเป็นอย่างดี

ซึ่งฟังดูก็เหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่หากเทียบกับเฉินซีแล้ว พวกเขาถือว่าขาดการฝึกปรือ

แต่ถ้าจะให้พูดก็นับว่ามีความสามารถโดดเด่นแล้ว ยิ่งผ่านความเป็นความผ่านตายมาพันครั้ง ยิ่งทำให้พวกเขาได้ประโยชน์ไปชั่วชีวิต

“จริง ๆ แล้วข้าพ่ายแพ้เพราะความกลัวในระหว่างความเป็นความตาย หากมีเวลาเยอะกว่านี้ ก็คงจะสามารถเอาชนะศัตรูได้” จี้เซวียนปิงถอนหายใจแรง ๆ นอกจากความรู้สึกกลัวที่ยังคงหลงเหลืออยู่แล้ว น้ำเสียงเขายังเจือแววผิดหวังอยู่ไม่น้อย

พูดจบก็สังเกตเห็นว่าเจิ่นลู่ก็เคลื่อนมิติออกมาเช่นกัน

แต่เทียบกับคนทั้งสามแล้ว เจิ่นลู่ดูมีสีหน้าสงบนิ่ง หว่างคิ้วส่องแสงสว่างดูศักดิ์สิทธิ์

“เจ้า… จะทะลวงขอบเขตแล้วหรือ?” จี้เซวียนปิงถามด้วยความประหลาดใจ

จ้าวเมิ่งหลีกับอ๋าวจ้านเป่ยเองก็สังเกตเห็นเช่นกันและอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าเจิ่นลู่จะเริ่มมีสัญญาณการขึ้นสู่ขอบเขตเซียนปราชญ์ขึ้นมาจาง ๆ หลังจากได้ขัดเกลาฝีมือเช่นนี้

“ข้าได้ความเข้าใจบางอย่างมา น่าเสียดายที่แม้จะเข้าใจเป็นตาย ทว่าก็ยังเอาชนะศัตรูไม่ได้…” เจิ่นลู่ยิ้ม ถึงจะบอกว่าน่าเสียดาย แต่ใบหน้าก็ดูสบายใจยิ่ง

“ดูท่าครั้งนี้จะมีแค่พวกเราที่ทำไม่สำเร็จ เฉินซีและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะผ่านสุสานแห่งราชันนิรันดร์ไปได้ เข้าสู่สถานที่ตั้งของโลงศพเซียนยมโลกไปแล้ว” นัยน์ตากระจ่างของจ้าวเมิ่งหลีมองไปยังสุสานที่ตั้งเรียงราย ใบหน้านางพลันเจือแววซับซ้อน

“ไอ้หยา อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับเจ้าบ้าเฉินซีนั่นเลย เทียบไม่ไหวหรอก” จี้เซวียนปิงยู่ปาก จากนั้นถามขึ้นว่า “เรายังพอมีเวลาอีกหน่อยก่อนต้องออกจากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า พวกเจ้าอยากไปที่อื่นกันหรือไม่?”

“ข้าว่าจะทำอย่างนั้นอยู่พอดี” เจิ่นลู่ตอบเป็นคนแรก เขารู้ดีว่าในแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าไม่ได้มีเพียงมรดกจักรพรรดิเต๋า ยังมีแดนอื่น ๆ นับร้อยอยู่อีกด้วย แต่ละแดนจะมีทรัพย์สมบัติและแดนสวรรค์ซุกซ่อนไว้อยู่หลากหลายอย่าง

ตอนนี้พวกเขาได้โอกาสเข้ามา ย่อมไม่อยากเสียเวลาไปเปล่า

“เอาละ แต่ข้าตั้งใจจะไปแดนวิหคอมตะโลหิตก่อน ได้ยินจากบรรพชนว่า ที่นั่นมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเผ่าวิหคอมตะของข้า” จ้าวเมิ่งหลีเอ่ยขึ้นช้า ๆ

“ส่วนข้าจะไปสมรภูมิโลหิตมังกร” อ๋าวจ้านเป่ยที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างมานานพลันเอ่ย แต่จี้เซวียนปิงและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจ

ช่วยไม่ได้นี่นา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แทบจะเรียกว่าเป็นความสัมพันธ์ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่หากเขาคิดจะเดินทางไปด้วย อีกฝ่ายคงไม่มีใครเต็มใจให้ไป

อ๋าวจ้านเป่ยยิ้มอาย จากนั้นจึงป้อง “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” กล่าวจบร่างเขาแวบหายไปทันที

“สภาพจิตใจของเจ้านี้เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ…” จี้เซวียนปิงพูดแล้วก็เหมือนคิดอะไรอยู่

จ้าวเมิ่งหลีกับเจิ่นลู่ไม่ได้เห็นด้วยหรือปฏิเสธแต่อย่างใด

“ไปเถอะ เราจะช่วยเจ้าผ่านแดนวิหคอมตะโลหิตก่อน” จี้เซวียนปิงเอ่ยยิ้ม ๆ

เจิ่นลู่ไม่ได้ปฏิเสธ จากนั้นทั้งสามก็หายตัวไปเช่นกัน

“โชคดีที่ครั้งนี้มีศิษย์ถึงหกคนได้เข้าแดนเซียนยมโลก ไม่แน่ว่าอาจจะมีสักคนได้รับการยอมรับจากมรดกจักรพรรดิเต๋าก็เป็นได้” ที่ด้านนอกแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า หัวเจี้ยนคงอธิบายสถานการณ์ให้หวังต้าวหลูและจั่วชิวไท่อู่ฟัง

คนเหล่านั้นก็คือเฉินซี เยี่ยถัง หลิงชิงอู๋ เนี่ยซิงเจิน กู่เยวหรู และจงหลีหลัว ทว่าหัวเจี้ยนคงสังเกตเห็นว่าเนี่ยซิงเจิน กู่เยวหรู และจงหลีหลัวจับกลุ่มรวมกันหลังจากเข้าแดนเซียนยมโลกไปแล้ว

ทว่าหลิงชิงอู๋ไปคนเดียว ส่วนเฉินซีกับเยี่ยถังจับกลุ่มกัน

ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ดูไม่ดีเท่าไหร่

แดนเซียนยมโลกเป็นสถานที่ตั้งของโลงศพเซียนยมโลก แม้ว่าหัวเจี้ยนคงจะไม่เคยเข้าแดนนี้มาก่อน แต่ในฐานะผู้นำการเดินทางไปแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าครั้งนี้ เขาจึงมีความเข้าใจสถานการณ์ของแต่ละแดนเป็นอย่างดี

ดังนั้นจึงรู้ดีว่าหากใครอยากผ่านการทดสอบแดนเซียนยมโลก การไปเพียงลำพังจะเป็นการยากมาก ไม่ใช่เพราะมีกำลังไม่มากพอ แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมภายในดินแดนนั้นมีความพิเศษ มีแต่ต้องร่วมมือกับผู้อื่นเท่านั้นจึงจะมีโอกาสผ่านไปได้มากกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]