บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1395

สรุปบท บทที่ 1395 หุ่นเชิดศึกภพอดีต: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

อ่านสรุป บทที่ 1395 หุ่นเชิดศึกภพอดีต จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บทที่ บทที่ 1395 หุ่นเชิดศึกภพอดีต คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 1395 หุ่นเชิดศึกภพอดีต

บทที่ 1395 หุ่นเชิดศึกภพอดีต

ที่ด้านนอกของแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า

จู่ ๆ หัวเจี้ยนคงก็กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน “พวกเขาเข้าสู่สระโลหิตอดีตชาติแล้ว” จากนั้นเขาก็หลับตาและนั่งสมาธิเงียบ ๆ

สำหรับเหตุผลนั้นง่ายมาก โลงศพเซียนยมโลกไม่เพียงแต่ขัดขวางพลังงานของเต๋าแห่งสวรรค์เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาไม่อาจรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นได้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงทำได้เพียงรอผลลัพธ์สุดท้ายเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าหวังต้าวหลูและจั่วชิวไท่อู่ก็ทราบเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งสมาธิบนพื้นและรออย่างใจเย็น

โอม!

คลื่นพลังงานอันแปลกประหลาดเกิดขึ้น ในช่วงเวลาถัดมา กลุ่มของเฉินซีก็ปรากฏตัวในสถานที่แปลกประหลาดแล้ว

ท้องฟ้า พื้นดิน ภูเขา… ทุก ๆ ที่ที่สายตามองเห็นล้วนเป็นสีดำสนิท และดูเหมือนว่ามันถูกปกคลุมไว้ภายใต้ม่านแห่งราตรีนิรันดร์

มีเพียงสระโลหิตที่ลอยอยู่ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด สระโลหิตนั้นมีรูปทรงกลมเกลี้ยง ครอบคลุมพื้นที่ราวสองลี้ ทั้งยังเปล่งแสงสีโลหิตที่งดงามและแวววาว

ภายใต้ความมืดมิดอันกว้างใหญ่นี้ สระโลหิตลอยคว้างอยู่กลางท้องฟ้า ขณะที่แสงสีโลหิตพุ่งขึ้นไปบนผืนนภา และเต็มไปด้วยความผันผวนที่คลุมเครือ ซึ่งทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหว มันดูน่าทึ่งเป็นอย่างมาก

ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ทันทีที่กลุ่มสามคนของเฉินซีได้ปรากฏตัวภายในโลกที่อยู่ภายใต้ม่านแห่งราตรีนิรันดร์ ชั้นของระลอกคลื่นสีโลหิตก็พลุ่งพล่านออกมาจากภายในสระโลหิต และระเบิดเสียงดังก้องกังวาน ซึ่งฟังดูเหมือนเสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ทั้งยังทำลายความเงียบงันของโลกอันมืดมนนี้

เพียงแค่ชั่วพริบตา โลกทั้งใบดูเหมือนจะตื่นจากการหลับใหลอันเป็นนิรันดร์ ทั้งยังแผ่กลิ่นอายที่แปลกประหลาดและคลุมเครือ ซึ่งทำให้หัวใจสั่นไหว

กลิ่นอายของมันลึกลับ และนำมาซึ่งแรงกดดันต่อหัวใจอย่างอธิบายไม่ได้ มันเป็นดวงตาของเทพอสูรผู้ไร้เทียมทานจดจ้องไปที่พวกเขา ทำให้สีหน้าของเฉินซีและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปทันที

ช่างเป็นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

ในขณะนี้ ทั้งสามล้วนโคจรปราณเซียนพิสุทธิ์ไปทั่วร่างกายโดยสัญชาตญาณ ทำให้พลังชีวิตส่งเสียงดังกึกก้อง วิญญาณ แก่นแท้ และพลังงานภายในร่างกายปะทุเหมือนภูเขาไฟ พวกเขาต่างปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อต้านทานแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้

ครืน!

หลังจากที่ทั้งสามโคจรพลังเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นมาจากสระโลหิตที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า จากนั้นคลื่นโลหิตก็พุ่งขึ้นไป และส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งฟ้าดิน

ภายในคลื่นโลหิตที่พลุ่งพล่านนั้น กลับมีร่างที่สูงราวสี่จั้ง ซึ่งปกคลุมไปด้วยโลหิต ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากสระโลหิต

ร่างนั้นถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีโลหิต ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ได้อย่างชัดเจน มีเพียงดวงตาสีแดงเข้มที่เฉยเมยและสงบคู่นั้นที่กะพริบเป็นเส้นแสงช่างแปลกประหลาดและลี้ลับ

พร้อมกับการปรากฏตัวของร่างนี้ สระโลหิตที่แต่เดิมส่งเสียงดังกึกก้อง และพลุ่งพล่านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็กลับมาสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ราวกับกลายเป็นสระน้ำที่ไม่ไหวติง

เมื่อมองจากระยะไกล ร่างนั้นดูเหมือนทวยเทพผู้ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจ ซึ่งทำให้ฟ้าดินมืดสลัว

“หุ่นเชิดศึกภพอดีต!” หลิงชิงอู๋ร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว นางจำต้นกำเนิดของร่างนั้นได้ และมันไม่ใช่อสูรภพอดีต แต่เป็นหุ่นเชิดศึกภพอดีตที่น่ากลัวยิ่งกว่า

“หุ่นเชิดศึกภพอดีตคือสิ่งใด?” เฉินซีและเยี่ยถังต่างก็ตกตะลึง

“สัตว์ประหลาดนั้นถูกล้างบางไปจากสามภพเมื่อนานมาแล้ว ตามตำนานเล่าว่า มันเป็นสุดยอดมรดกของเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ เนื่องจากหุ่นเชิดศึกดังกล่าวได้รับพลังงานจากสระโลหิตอดีตชาติ ร่ำลือว่าเป็นอมตะ ทุก ๆ ครั้งที่มันถูกฆ่า มันจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ และพลังจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!” หลิงชิงอู๋อธิบายอย่างรวดเร็ว “ข้าอ่านเรื่องนี้มาจากตำราโบราณ เดิมทีข้าคิดว่าคู่ต่อสู้ของเราในครั้งนี้จะเป็นอสูรภพอดีต ใครจะคิดว่าจะเป็นเจ้าตัวประหลาดนี่!”

เผ่าช่างฝีมือวิญญาณ!

สิ้นเสียงพูด เฉินซีก็หวนนึกถึงเหตุการณ์มากมายในอดีตทันที

นานมาแล้วตอนที่เขายังอยู่ในภพมนุษย์ เฉินซีและอาซิ่วได้เข้าไปในสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ และได้เห็นหุ่นวิญญาณศึกจำนวนมากจากเผ่าช่างฝีมือวิญญาณที่นั่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่แท่นบูชายัญลึกลับ เฉินซียังได้เคล็ดวิชาลับที่สืบทอดภายในเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ ซึ่งเป็นคัมภีร์จักรพรรดิแห่งการควบคุม จนเกือบจะลืมมันไปแล้ว

ถึงอย่างไร เคล็ดวิชาลับนี้มาจากเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ ซึ่งอยู่ในยุคบรรพกาลที่นิกายต่าง ๆ ได้แย่งชิงความเป็นใหญ่ เผ่าช่างฝีมือวิญญาณถูกขับออกจากสามภพ ปัจจุบัน มันกระจัดกระจายไปทั่วนอกพิภพ และกลายเป็นสมาชิกของคนต่างพิภพ ดังนั้นในสามภพ เคล็ดวิชาลับนี้จึงถือเป็นสิ่งต้องห้าม หากมีคนใช้มัน จะต้องนำปัญหาและข้อพิพาทมากมายมาสู่ผู้ที่ครอบครองอย่างแน่นอน

ทว่าเฉินซีก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า สระโลหิตอดีตชาติที่ลึกลับที่สุดภายในแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าจะเกี่ยวข้องกับเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ

หรือจักรพรรดิเต๋ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ? มิฉะนั้นหุ่นเชิดศึกภพอดีตจะมีอยู่ในสระโลหิตอดีตชาติได้อย่างไร?

ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นมาในใจของเฉินซีทันที “การทดสอบของเราในครั้งนี้ คงจะไม่ใช่การเอาชนะหุ่นเชิดศึกภพอดีตกระมัง?”

หลิงชิงอู๋และเยี่ยถังพยักหน้าพร้อมกัน

ณ กลางอากาศ เฉินซีและหุ่นเชิดศึกภพอดีตยืนเผชิญหน้ากัน พลังชีวิตพุ่งออกมาราวกับมังกรที่ออกจากรัง และประจันหน้ากันจากระยะไกล

หากสังเกตดูดี ๆ แม้กลิ่นอายของหุ่นเชิดศึกภพอดีตจะน่าทึ่ง แต่มันก็คงอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์เท่านั้น ด้วยเนตรเทวะแห่งความจริงของเฉินซี เขาสามารถสังเกตได้ว่า กลิ่นอายของมันเชื่อมโยงกับสระโลหิตอดีตชาติ และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงที่ลึกลับระหว่างพวกมัน ทำให้กลิ่นอายของหุ่นเชิดศึกภพอดีตไม่อาจหยั่งถึงได้

เคร้ง!

หุ่นเชิดศึกเหวี่ยงหอกโลหิต ชี้ไปทางเฉินซี จากนั้นแรงกดดันก็ถาโถมออกมาจากร่างของมัน

หอกส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนไปถึงสวรรค์ทั้งเก้า หุ่นเชิดศึกภพอดีตแผ่กลิ่นอายที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะที่หอกโลหิตทะลุผ่านท้องฟ้าและฉีกมิติที่อยู่ข้างหน้ามันเป็นเสี่ยง ๆ!

เมื่อมันเหวี่ยงหอกโลหิต ปราณโลหิตก็พวยพุ่งและทำลายเมฆไปทุกทิศทุกทาง เมื่อมองจากระยะไกล มันเหมือนกับเตาหลอมที่กำลังปลดปล่อยปราณโลหิตออกมา

ฟิ่ว!

ในเวลาเดียวกัน สายตาของเฉินซีก็จดจ้องไปราวกับสายฟ้าฟาด ก่อนที่จะก้าวออกไปอย่างกล้าหาญ ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานไปข้างหน้า เกิดเป็นลำแสงเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ทอดยาวออกไปเป็นระยะทางหลายร้อยลี้ เขาเป็นเหมือนดาวหางที่พุ่งลงมาจากจักรวาล ทั้งพร่างพราย สุกสกาว จนไม่สามารถมองตรง ๆ ได้!

ชายหนุ่มเหวี่ยงกระบี่เซียนนภาม่วงราวกับจอมเทพกระบี่ที่จุติลงมายังโลก และตั้งใจที่จะฟันกรงที่ปกคลุมฟ้าดินออกจากกัน!

กระบี่เซียนนภาม่วงดูเหมือนกำลังลุกไหม้ และมันเปล่งประกายด้วยแสงอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้ฟ้าดินสั่นสะท้าน ในขณะที่คำรามเสียงแหลมคมดังกึกก้อง

ตู้ม!

การโจมตีครั้งนี้เหมือนกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ชนกัน ฟ้าดินพังทลาย ม่านราตรีนิรันดร์ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้แต่อวกาศก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ฝุ่นผงกลายเป็นเถ้าธุลี

รอยแยกมิติขนาดมหึมานับหมื่นปรากฏขึ้น และแผ่ขยายไปสู่บริเวณโดยรอบราวกับใยแมงมุมที่สลับซับซ้อน ซึ่งน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ในสนามรบ ไม่ว่าจะเป็นเฉินซีหรือหุ่นเชิดศึก พวกเขาก็เป็นเหมือนราชาในหมู่ปราชญ์ และแผ่กลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาออกมา ยิ่งไปกว่านั้น ทุกกระบวนท่า ก็ทำให้ฟ้าดินพังทลาย

“ช่างน่าสะพรึงยิ่งนัก!” เยี่ยถังอุทานด้วยความประหลาดใจ และจ้องมองการต่อสู้ตาไม่กะพริบ “พลังต่อสู้ของศิษย์น้องเฉินซีนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเซียนปราชญ์ที่ข้าเคยพบ ทั้งที่ยังไม่ได้สร้างกฎปราชญ์เต๋าของตัวเอง มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ”

“เขาน่ากลัวมากจริง ๆ แต่อย่าลืมว่าหุ่นเชิดศึกภพอดีตจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่มันถูกฆ่า หากเฉินซีไม่สามารถหาวิธีที่เอาชนะมันได้อย่างสมบูรณ์ ผลที่ตามมาก็คงไม่อาจจินตนาการได้”

หลิงชิงอู๋ต้องยอมรับจากใจจริงว่าเฉินซีนั้นน่าเกรงขามอย่างยิ่ง ถึงขั้นรู้สึกว่าถ้าต้องต่อสู้กับเฉินซี ก็คงมีโอกาสชนะเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

แต่นางไม่สามารถใส่ใจเรื่องอื่นได้ในขณะนี้ เพราะหุ่นเชิดศึกภพอดีตก็น่ากลัวอย่างยิ่ง และมันทำให้นางไม่มีอารมณ์ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับเฉินซีอีกต่อไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]