บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1401

บทที่ 1401 แต้มดาราที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน

บทที่ 1401 แต้มดาราที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน

สามวันต่อมา เฉินซีตื่นจากการทำสมาธิ แววตาของเขาลึกล้ำราวกับบ่อน้ำโบราณเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันเงียบสงบ

ในขณะที่รู้สึกถึงปราณเซียนพิสุทธิ์ที่พลุ่งพล่านไปทั้งร่าง แก่นแท้ จิตวิญญาณ และพลังงานก็เปี่ยมด้วยพลังที่มีชีวิตชีวา เฉินซียืนเส้นยืนสาย รู้สึกสบายไปทั้งตัว

เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา แม้จะไม่มีความก้าวหน้าในระหว่างการทำสมาธินี้ แต่สภาพจิตใจก็พัฒนาขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุก ๆ การเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต และไม่อาจสั่นคลอนได้

กลิ่นอายอันน่าเกรงขามเช่นนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับการบ่มเพาะอย่างหนักเท่านั้น เปรียบเสมือนบัณทิตที่เขียนตำรา ทุกถ้อยคำล้วนแฝงกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา ประหนึ่งบรรลุเรื่องราวในโลก

หืม?

เฉินซีสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตราดาราม่วง จำนวนแต้มดาราที่เห็น ทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออก

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ในเวลาเดียวกัน ณ โถงแต้มดารา

โถงแต้มดาราในวันนี้กลับแตกต่างไปจากครั้งก่อน ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมอย่างมาก เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างมารวมตัวกันที่เวทีประมูล พวกเขาต่างมองขึ้นไปราวกับตั้งตารออะไรบางอย่าง

เซี่ยวผิงเป็นอาจารย์ของฝ่ายนอก และมีความอาวุโสในสำนักที่สูงมาก ทว่าการบ่มเพาะกลับติดอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์มาจนถึงปัจจุบัน

เหตุผลก็คือ เขาโชคร้ายที่เผชิญกับการโจมตีของวัตถุมีพิษแปลกประหลาด ขณะฝึกฝนอยู่ที่นอกสำนัก ทำให้ดวงวิญญาณบาดเจ็บสาหัส และแม้จะพยามยามทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์

เป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้การบ่มเพาะของเขาติดอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์ และไม่อาจทะลวงได้จนถึงบัดนี้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องร้ายแรงต่อผู้บ่มเพาะอย่างยิ่ง

หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาคงจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งก้าวนานแล้ว และเข้าสู่สำนักฝ่ายในเพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าอาจารย์ มิฉะนั้นเขาจะเสียเวลาไปกับความหดหู่ใจที่สำนักฝ่ายนอกได้อย่างไร?

นับว่าโชคดี หลังจากที่ค้นหาวิธีรักษาจิตวิญญาณในตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา และอย่างที่กล่าวกันว่า ทุกสิ่งจะมาหาผู้ที่ทุ่มเท ในที่สุดเขาก็พบร่องรอยแห่งความหวัง และมันคือโอสถนพเก้าคืนวิญญาณ

แม้จะค้นพบวิธีการรักษา แต่ไม่อาจรวบรวมสมุนไพรอมตะที่ใช้สำหรับการกลั่นยาได้ เพราะเขาขาดสมุนไพรเพียงชนิดเดียว นั่นคือสมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อ!

เซี่ยจื้อเป็นสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลที่มีชื่อเสียงในยุคบรรพกาล เสียงคำรามของมันสามารถทำลายดวงตะวันและจันทราได้ ทั้งยังมีความแข็งแกร่งทางกายภาพอันไร้ขอบเขตที่สามารถพลิกคว่ำมหาสมุทร ว่ากันว่ามันสืบทอดสายเลือดของมังกรที่แท้จริง และมีพลังมหาศาล

ตามตำนานเล่าว่า ช่วงเวลาที่เซี่ยจื้อใกล้ตาย ร่างกายของมันจะกลายเป็นผืนดินที่เปื้อนเลือด ดวงวิญญาณจะกลายเป็นเมล็ดที่หยั่งรากลึกลงในผืนดิน หลังจากที่ผ่านการเติบโตมาเป็นเวลานาน มันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าของฟ้าดิน สมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อ!

สมบัติที่ล้ำค่าเช่นนี้ ถือว่าเป็นสมุนไพรอมตะที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ แต่ที่สำคัญที่สุด คือมันสามารถควบแน่นพลังวิญญาณ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับแก่นวิญญาณไปจากภายในสู่ภายนอก สรรพคุณของมันก็ลึกซึ้งอย่างสุดจะพรรณนา

แต่น่าเสียดาย เมื่อกาลเวลาผ่านไป สมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อก็เกือบจะสูญพันธุ์ไปจากภพเซียน มันประเมินค่าไม่ได้ และได้มาเพราะโชคเท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เซี่ยวผิงคงไม่เสียเวลาไปหลายพันปีอย่างเปล่าประโยชน์ เพื่อตามหามันได้อย่างไร?

เดิมที เซี่ยวผิงได้ทิ้งความหวังไปทั้งหมดแล้ว และตั้งใจที่จะรับตำแหน่งอาจารย์ธรรมดา ๆ อยู่ที่สำนักฝ่ายนอกไปตลอดชีวิต ทว่าเวลานี้กลับมีสมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อบนแท่นประมูล!

นี่นับเป็นความประหลาดใจอันน่ายินดีอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจึงมารออยู่ที่หน้าแท่นประมูลแทบจะตลอดเวลา เพื่อชิงสมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อมาเป็นของตน

ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่การประมูลจะสิ้นสุดลง!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยวผิงก็หายใจเข้าลึก ๆ ขณะจ้องมองไปที่สมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อที่อยู่บนแท่นประมูล และกล่าวในใจว่า สมุนไพรอมตะนี้มีการเสนอราคาขั้นต่ำที่สามล้านแต้มดารา ตอนนี้ข้าได้ใส่ราคาไปสิบล้านแต้มดาราแล้ว มาดูกันว่าจะมีใครกล้าแข่งกับข้าอีก!

ใช่แล้ว เขาเสนอราคาสูงเทียมฟ้าถึงสิบล้านแต้มดารา ซึ่งราคานี้เพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ต้องยอมถอยเมื่อเห็นมัน แต่เซี่ยวผิงก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย

หากเซียนปราชญ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อนานมาแล้ว ยังมีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ มันคงเป็นเรื่องตลกของผู้อื่นอย่างแน่นอน

แต่เซี่ยวผิงไม่คิดใส่ใจ เพราะสมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อมีความสำคัญอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูดวงวิญญาณ บรรลุขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น หรือเข้าสู่ฝ่ายในเพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าอาจารย์… ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แล้วเขาจะสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร?

“เฮ้อ! การเสนอราคาช่างดุเดือดยิ่งนัก ผู้คนทั้งสามสิบกว่าคนกำลังเสนอราคาแข่งกับข้า เพื่อชิงชิ้นส่วนเหล็กโมราปะการังวิญญาณ แรงกดดันรุนแรงเสียเหลือเกิน ข้าไม่มั่นใจเลย” คนที่อยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า

“ฮ่า ฮ่า! เจ้าจงพอใจกับมันเสียเถอะ ในบรรดาสมบัติห้าร้อยชิ้นที่เฉินซีได้ลงประมูลไว้ การแข่งขันของเจ้าถือว่าเล็กน้อยนัก เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่า มีคนกว่าร้อยคนกำลังแข่งเสนอราคาเพื่อชิงกระดูกต้นกำเนิดของวัวกุย ยิ่งไปกว่านั้น ราคาของมันยังเพิ่มขึ้นเป็นสิบเอ็ดล้านแต้มดารา! และข้าคิดว่าราคาสุดท้ายอาจจะสูงกว่านี้อีก”

“อันที่จริง เฉินซีผู้นี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในสำนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่ความมั่งคั่งก็ยังไม่ธรรมดา นำสมบัติหายากมาลงประมูลถึงห้าร้อยชิ้นในคราวเดียว เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ข้ารู้สึกว่าการใช้ชีวิตของข้านั่นแย่มาก”

“ใช่แล้ว อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับเขาเลย มิฉะนั้น รังแต่จะทำให้ตัวเองเสียใจเปล่า ๆ”

มีระลอกเสียงสนทนาดังก้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ขณะที่ชื่อของเฉินซีได้กลายเป็นหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด บางคนรู้สึกอิจฉา บางคนชื่นชม บางคนเทิดทูน และอื่น ๆ อีกมากมาย

เซี่ยวผิงเพียงฟังผ่าน ๆ เพราะเขาทราบดีว่า สมุนไพรอมตะเซี่ยจื้อที่ตนประมูลนั้นมาจากเฉินซี และตามข่าวลือ เฉินซีได้รับมันมาจากทะเลอนันตรา

ไม่ใช่แค่นั้น สมบัติทั้งห้าร้อยชิ้นที่เฉินซีนำมาลงประมูลในครั้งนี้ มาจากสมรภูมินอกพิภพและทะเลอนันตราทั้งสิ้น ยิ่งกว่านั้น พวกมันยังเป็นสมบัติที่เกือบจะสูญพันธุ์ไปจากภพเซียนแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การประมูลครั้งนี้ดุเดือดอย่างยิ่ง ทั้งยังดึงดูดเหล่าอาจารย์และศิษย์จำนวนมาก ให้เสนอราคาสู้กัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]