บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1402

บทที่ 1402 ที่หนึ่งแห่งเทียบอันดับปราชญ์

บทที่ 1402 ที่หนึ่งแห่งเทียบอันดับปราชญ์

เมื่อตื่นขึ้นจากการทำสมาธิ เขาก็ได้รับแต้มดารามากว่าหนึ่งร้อยสี่สิบล้านแต้ม กระทั่งเฉินซีที่เป็นคนใจแข็ง เห็นแต้มดาราพุ่งพรวดขึ้นมาขนาดนี้ก็ยังตกตะลึงจนตาเบิกโพลง

จำนวนเช่นนี้น่าตกใจเกินไปแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ทันตั้งตัว ทำให้เฉินซีนิ่งอึ้งไปนานกว่าจะตั้งสติได้

ผลที่ได้จากการนำสมบัติทั้งห้าร้อยชิ้นไปขึ้นประมูลในวันนั้นยังหามาได้กว่าหนึ่งร้อยสี่สิบล้านแต้ม แม้จะถูกสำนักหักออกไปแล้วสามในสิบส่วน แต่มันก็ยังเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ดี เฉินซีได้แต่ถอนหายใจ นับว่าได้กำไรโดยแท้ เพราะคนที่ต้องการของเหล่านั้นย่อมยอมทุ่มเงินไม่อั้น

เพราะอย่างไรแต้มดาราก็สามารถหาได้เรื่อย ๆ แต่หากพลาดสมบัติพวกนั้นไป ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะได้เห็นพวกมันอีกเมื่อไหร่

ตอนนี้ข้าขาดเพียงเก้าล้านแต้มดาราก็จะสามารถแลกชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากได้แล้ว ฉวยโอกาสนี้รับภารกิจเกี่ยวกับเต๋าแห่งยันต์อักขระเลยจะดีหรือไม่? ไม่นาน เฉินซีก็หันไปจดจ่ออยู่กับการหาแต้มดาราอีกครั้ง

น่าเสียดายนักที่หลังจากไล่ดูภารกิจเต๋าแห่งยันต์อักขระในตราดาราม่วงแล้ว ก็ไม่เห็นว่ามีภารกิจใดตกรางวัลให้ได้มากพอที่จะเก็บเก้าล้านแต้มภายในระยะเวลาอันสั้นเลย

หากรออีกไม่ถึงเดือน ก็คงใช้อันดับบนศิลาวิถีของแดนเซียนสวรรค์มายาเพื่อรับแต้มดาราจำนวนมากได้ แต่ยังช้าเกินไป หลังจากได้หนึ่งร้อยสี่สิบล้านแต้มดารามาในวันเดียวอย่างไม่คาดคิด เหลืออีกไม่เท่าไหร่ก็จะได้ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากมาแล้ว จึงทำให้เฉินซีรู้สึกอดทนรอไม่ได้ อยากจะได้มันมาเสียเดี๋ยวนี้ มีหรือจะฝืนใจรออีกเกือบเดือนไหว

หืม? ข้าลืมไปได้อย่างไรกัน?! ถึงจะขึ้นขอบเขตเซียนปราชญ์มาแล้ว ทำให้อันดับบนเทียบอันดับทองคำตราดาราม่วงหายไป แต่ตอนนี้ข้าก็มีคุณสมบัติขึ้นแข่งบนเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์แล้วนี่! ทันใดนั้นเฉินซีก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงวิธีโกยแต้มดาราดี ๆ มาได้ คือการไต่เทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์นั่นเอง!

ฝ่ายใน เขามังกรหิมะ

หิมะสีขาวบริสุทธิ์ลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้า รอบกายถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง กลายเป็นสีเงินสุดลูกหูลูกตา เหมือนว่าทางใต้หล้ามีเพียงหิมะและน้ำแข็ง

มองมาจากไกล ๆ แล้ว เขามังกรหิมะนั้นตั้งสูงตระหง่าน เป็นสีขาวหมดจดดั่งมังกรน้ำแข็งที่กำลังพุ่งขึ้นฟ้า โอ่อ่าท้าทายใต้หล้าฟ้าดิน ดูยิ่งใหญ่ภาคภูมิไม่แพ้ใคร

หินศิลาสีหยกขาวที่เต็มไปด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์ตั้งตระหง่านอยู่ที่ยอดเขามังกรหิมะ มันมีความสูงเสียดฟ้า เปล่งรัศมีสีขาวเรืองรอง ดูเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ตระการตาไม่ใช่น้อย

มีเพียงศิษย์สายในขอบเขตเซียนปราชญ์เท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติขึ้นแข่งบนเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ และบนหินศิลาสีหยกขาวก็มีรายชื่อศิษย์อยู่ทั้งหมดสามสิบคน

เป็นอันรู้กันว่ามีเซียนทองคำอยู่มากกว่าแปดร้อยคน และมีเซียนปราชญ์อยู่อีกกว่าสามร้อยคนในหมู่ศิษย์สายใน ดังนั้นคนที่สามารถขึ้นมาอยู่ในสามสิบอันดับแรกบนเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ได้ย่อมเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่ามันก็ไม่ต่างกับเทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์และเทียบอันดับทองคำตราดาราม่วง หากสามารถมีชื่อขึ้นเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ได้ ก็ไม่ใช่ว่าได้เพียงเกียรติยศเท่านั้น แต่ยังมีรางวัลเป็นแต้มดาราจำนวนมากอีกด้วย

อีกทั้งเมื่อนำรางวัลมาเทียบกับเทียบอันดับอื่น ๆ รางวัลจากเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ย่อมคุ้มกว่ามากทีเดียว!

ฟึบ!

ท่ามกลางหิมะและน้ำแข็งสีขาวโพลน เงาร่างสูงของคนผู้หนึ่งเหินร่างอยู่กลางอากาศ พริบตาเดียวก็ไปถึงยอดเขามังกรหิมะและหยุดอยู่ตรงหน้าเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ที่สูงเสียดฟ้าแล้ว

คนผู้นั้นคือเฉินซี

ครั้งนี้เขามาที่นี่เพราะตั้งใจจะใช้ฝีมือตนไต่เทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ในคราวเดียว เป้าหมายไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่เพื่อโกยแต้มดาราเพื่อเอามาแลกชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากโดยเร็วที่สุด

ทว่าเฉินซีก็ต้องประหลาดใจ เพราะเมื่อมาถึง ก็เห็นว่าเยี่ยถัง หลิงชิงอู๋ เจิ่นลู่ จี้เซวียนปิง และจ้าวเมิ่งหลีเองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน อีกทั้งดูจากรูปการณ์แล้ว พวกเขามาถึงสักพักแล้วด้วย

นอกจากทั้งห้าคนนี้แล้ว รอบข้างยังมีศิษย์สายในอยู่อีกหลายคน

“เอ๋ เฉินซี?”

“ฮ่า ๆ! ว่าแล้วว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องมา”

“อะไรกัน? ศิษย์น้องเฉินซี เจ้าคิดจะไต่เทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์เช่นกันหรือ?”

พอทุกคนเห็นเฉินซี เยี่ยถัง และคนอื่น ๆ ก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม

เฉินซียิ้มตอบทันที เขามีสัมพันธ์อันดีกับเจิ่นลู่ จี้เซวียนปิง และจ้าวเมิ่งหลีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาย่อมดีใจที่ได้เห็นคนทั้งสามอยู่ที่นี่

ส่วนหลิงชิงอู๋กับเยี่ยถังนั้นไม่ต้องกล่าว เมื่อสามวันก่อนเพิ่งจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ขัดเกลาฝีมืออยู่ภายในแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า ทำให้มีความสัมพันธ์อันดีเช่นกัน

พอคนอื่น ๆ เห็นเข้าก็เผยสีหน้าเคารพชื่นชม กลุ่มที่เฉินซีและคนอื่น ๆ สร้างขึ้นมานี่เก่งกล้าสามารถจริง ๆ เป็นทั้งทายาทหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่บรรพกาลนามตระกูลจี้ ผู้สืบทอดวิหคอมตะแท้จริงแห่งเผ่าวิหคอมตะ ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ภพพุทธองค์ ทั้งยังมีสุริยันอันเจิดจ้าชื่อดังลั่นโลกาอย่างเยี่ยถังกับหลิงชิงอู๋อีก รวมกับเฉินซีที่มีชื่อเสียงดังไกลไปทั่วภพเซียนแล้ว ใครเห็นเป็นต้องให้ความสนใจกับคนกลุ่มนี้

เมื่อได้พูดคุยกันแล้ว เฉินซีจึงเข้าใจทันทีว่าเจิ่นลู่ จี้เซวียนปิง และจ้าวเมิ่งหลีเองก็ได้โชคจากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าเช่นกัน ตอนนี้จึงขึ้นขอบเขตเซียนปราชญ์มาได้ แล้วจึงพากันมาไต่เทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ด้วยกัน

แต่น่าเสียดาย ด้วยความที่เพิ่งขึ้นขอบเขตเซียนปราชญ์มาได้ไม่นาน พลังต่อสู้จึงยังไม่แกร่งพอให้สามารถมีชื่อติดบนเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ในคราวเดียวได้

หลิงชิงอู๋กับเยี่ยถังเองก็เช่นกัน ทว่าหลิงชิงอู๋ไม่ได้สนใจอันดับเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นนางคงติดเทียบอันดับปราชญ์ดาราสวรรค์ก่อนได้เข้าแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าเสียอีก ไม่จำเป็นต้องรอถึงตอนนี้

แต่ที่นางมาด้วยเป็นเพราะเยี่ยถังพยายามชวนอย่างสุดความสามารถ นางถึงยอมมากับเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]