บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1416

บทที่ 1416 ถอนหายใจด้วยอารมณ์ไปตลอดทาง

บทที่ 1416 ถอนหายใจด้วยอารมณ์ไปตลอดทาง

เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น แสงอรุณเพิ่งเริ่มสาดส่องท้องฟ้า เฉินซีกับโตวเตี่ยนก็ออกจากเมืองรุ่งอรุณอย่างรวดเร็ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการรุกรานของกองทัพต่างพิภพ ราชวงศ์หลายแห่งในโลกโถงโบราณจึงล่มสลาย และถูกกวาดล้างภายในวันเดียว

สถานการณ์ของราชวงศ์ซ่งก็ไม่ดีไปกว่ากัน กองทัพต่างพิภพโจมตีมาจากทุกทั่วสารทิศอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมืองชายแดน การต่อสู้ปะทุขึ้นที่นั่นทุกวัน

ด้วยเหตุนี้ กองกำลังต่าง ๆ ในโลกแห่งการบ่มเพาะของราชวงศ์ซ่งจึงได้ร่วมมือกัน พวกเขาได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิซ่งคนปัจจุบัน ให้ต่อต้านการรุกรานของเผ่าต่างพิภพ

ปัจจุบัน ตวนมู่เจ๋อเป็นผู้นำของตระกูลตวนมู่ และมีการบ่มเพาะที่ขอบเขตเซียนปฐพี เขาถูกส่งไปประจำการที่เมืองรุ่งอรุณ ทำการนำผู้บ่มเพาะในเมืองเพื่อต่อต้านเผ่าต่างพิภพ ดังนั้นจึงไม่สามารถวางมือจากภาระหน้าที่เหล่านี้ได้

เป็นเพราะเหตุนี้ เขาจึงไม่อาจติดตามเฉินซีกลับไปยังดินแดนทางใต้

ก่อนที่จะจากไป เฉินซีได้ทิ้งศิลาอมตะ สมบัติอมตะ และเคล็ดวิชาที่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของตวนมู่เจ๋อเอาไว้ เพราะทราบดีว่าตนไม่อาจรั้งอยู่ในภพมนุษย์ได้นานนัก และไม่รู้ว่าจะได้พบกับตวนมู่เจ๋ออีกเมื่อไหร่ ดังนั้นในฐานะสหาย เฉินซีทำได้เพียงช่วยเหลือตวนมู่เจ๋อเท่าที่จะทำได้

ฟิ่ว!

แสงส่องประกายระยิบระยับบนท้องฟ้า และเคลื่อนตัวไปทางทิศใต้อย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งก้านธูป เฉินซีก็มาถึงดินแดนทางใต้ จากนั้นเขาก็ชะลอความเร็ว และหยุดนิ่งในที่สุด

เพราะที่นี่คือดินแดนทางใต้ บ้านเกิดของเขา!

เมื่อจ้องมองไปยังภูมิประเทศที่คุ้นเคย ความรู้สึกมากมายผสมปนเปในใจไม่รู้จบ หลายร้อยปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเขาได้กลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้ง ดังนั้นหัวใจจึงเต็มเปี่ยมล้นด้วยอารมณ์มากมาย

โตวเตี่ยนที่ยืนอยู่ข้างเคียงมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย

ขณะที่นางอยู่ในเมืองรุ่งอรุณ นางรู้แล้วว่า ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือบุคคลผู้มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของราชวงศ์ซ่งเมื่อหลายร้อยปีก่อน

เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวีรกรรมของคนผู้นี้ยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลกโถงโบราณจนถึงปัจจุบัน เช่น เขาผ่านสมรภูมิบรรพกาลด้วยอันดับหนึ่ง หรือเป็นศิษย์ของหนึ่งในสิบนิกายเซียนที่ยิ่งใหญ่ของแดนภวังค์ทมิฬ อย่างนิกายกระบี่เรืองรอง และการที่ขึ้นสู่ภพเซียน…

แม้ว่าโตวเตี่ยนยังเด็ก แต่นางก็มักจะได้ยินเรื่องราวในตำนานเหล่านี้จากนักเล่านิทานในโรงน้ำชาบ่อยครั้ง ซึ่งก็รู้ด้วยซ้ำว่าผู้อาวุโสเฉินอันและเฉินอวี่ ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงราวกับดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าบนท้องฟ้ายามเที่ยงวัน คือบุตรชายและหลานชายของผู้อาวุโสเฉินซี

แต่นางไม่คิดเลยว่า คนตรงหน้านี้จะเป็นเฉินซีตัวจริง! ผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นเหมือนตำนานเดินได้!

สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกตกใจและไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหวนนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเรียกคนผู้นี้ว่าวิตถารและจอมโกหก นางก็รู้ละอายใจยิ่งนัก ใบหน้าพลันร้อนผ่าวราวกับลุกไหม้

การได้รู้เรื่องนี้ทำให้นางล้มเลิกความตั้งใจที่จะฝากตัวเป็นศิษย์กับเฉินซี ช่วยไม่ได้ ช่องว่างระหว่างพวกนางใหญ่เกินไป เฉินซีเป็นถึงเซียนที่แท้จริง ดังนั้นเขาจะรับผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำเป็นศิษย์ได้อย่างไร?

“นั่นคือเทือกเขาหมื่นพิษ เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ข้าออกจากดินแดนทางใต้เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมธารทองที่เมืองนภาคราม ข้าเคยผ่านสถานที่แห่งนี้” จู่ ๆ เฉินซีก็ชี้ไปที่เทือกเขาที่อยู่ห่างไกล และถอนหายใจแผ่วเบา

“มีแม่น้ำสายหนึ่งเรียกว่าแม่น้ำอัสดงอยู่ภายในนั้น ตามข่าวลือ อสูรมัจฉาได้รับการฝึกฝนที่นั่นและบรรลุเต๋าเมื่อหลายหมื่นปีก่อน จากนั้นก็ขึ้นสู่ภพเซียน ในเวลานั้น แสงเซียนปรากฏเต็มท้องฟ้า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม่น้ำสายนี้จึงถูกเรียกว่าแม่น้ำอัสดง และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันพร้อมกับตำนานอสูรมัจฉา”

โตวเตี่ยนได้สติจากการครุ่นคิด แล้วเหลือบมองเฉินซี ซึ่งก็รู้ว่าเขาเพียงนึกถึงอดีต และไม่ต้องการให้นางกล่าวอะไร ดังนั้นนางจึงฟังอย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทีเชื่อฟัง

“นั่นคือเมืองเมฆาหิมะ และเป็นศูนย์กลางของดินแดนทางใต้ เมืองทะเลสาบมังกรอยู่ห่างจากที่นั่นไปทางตะวันออกสองหมื่นลี้ เมื่อหลายปีก่อน ข้าเคยรับตำแหน่งผู้อาวุโสนิกายกระบี่เมฆาพเนจรของเมืองทะเลสาบมังกร ตอนนี้อาจมีศิษย์เพียงไม่กี่คนที่ยังพอจำชื่อข้าได้กระมัง…”

“ดูสิ นั่นคือเมืองห้วงทะเลทรายมรณะ…”

ตลอดทาง เฉินซีกล่าวอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่พวกเขาเดินทางผ่านเมือง ภูเขา หรือแม่น้ำ ก็ทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตเสมอ

โตวเตี่ยนเม้มฝีปากพลางฟังเงียบ ๆ นางรู้สึกว่ามันน่าสนใจและน่าหลงใหลมากกว่าการฟังตำนาน เพราะมันเป็นสิ่งที่เฉินซีได้ทิ้งไว้เมื่อครั้งที่เขาเติบโตขึ้น มันเป็นประสบการณ์ของผู้เป็นเซียนเมื่อยังเยาว์ และเมื่อผู้เป็นเซียนเล่าให้ฟัง ย่อมน่าพึงพอใจมากกว่าฟังเรื่องเล่าปรัมปรา

“นั่น… คือเมืองหมอกสน” ทันใดนั้น เฉินซีก็ยืนนิ่งและมองไกลออกไป สายตาว่างเปล่าเล็กน้อย

ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่ใบไม้ร่วงหล่นและพืชพรรณเหี่ยวเฉา ภาพแห่งความว่างเปล่าสะท้อนไปทั่วเมืองหมอกสน

เมืองที่อยู่ห่างไกลตั้งต่อหน้าเทือกเขาสูงต่ำ มันเคร่งขรึม สูงส่ง และเผยให้เห็นกลิ่นอายที่เจริญรุ่งเรืองอย่างหนาแน่น ในช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่าของปลายฤดูใบไม้ร่วง มันดูไม่หนาวเหน็บและไร้ชีวิตชีวา แต่กลับคึกคัก ทั้งยังได้ยินเสียงเซ็งแซ่แว่วมาแต่ไกล

ในที่สุดข้าก็กลับมาแล้ว… เฉินซีพึมพำ ความรู้สึกตื่นเต้นที่ประสบตลอดทางแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบสงบและความเฉยเมย

ปัจจุบัน ตระกูลเฉินแห่งเมืองหมอกสน กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในดินแดนทางใต้ สมาชิกในตระกูลมีมากมาย และเต็มไปด้วยผู้เยี่ยมยุทธ์ ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

ผู้นำอย่างเฉินฮ่าวสามารถนั่งเคียงข้างจักรพรรดิซ่งได้ และอาจกล่าวได้ว่ามีอำนาจมหาศาล!

ในฐานะที่เป็นที่ตั้งของตระกูลเฉิน เมืองหมอกสนได้กลายเป็นสวรรค์แห่งการบ่มเพาะ ซึ่งมีชื่อเสียงระบือไปทั้งใต้หล้า

เหตุผลนั้นก็ธรรมดามาก เพราะตระกูลเฉินแห่งเมืองหมอกสนมีผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ธรรมดาอยู่มากมาย เช่น ผู้นำตระกูลเฉินฮ่าว บุตรชายของเขาเฉินอวี่ หลานชายของเขาเฉินอัน และภรรยาของเฉินฮ่าว เฟยเหลิ่งชุ่ย ต่างก็เป็นตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกแห่งการบ่มเพาะ

บทที่ 1416 ถอนหายใจด้วยอารมณ์ไปตลอดทาง 1

บทที่ 1416 ถอนหายใจด้วยอารมณ์ไปตลอดทาง 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]