บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1495

สรุปบท บทที่ 1495 ตั้งทัพประชิดเมือง: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปตอน บทที่ 1495 ตั้งทัพประชิดเมือง – จากเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

ตอน บทที่ 1495 ตั้งทัพประชิดเมือง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 1495 ตั้งทัพประชิดเมือง

……………………………………………………………………..

บทที่ 1495 ตั้งทัพประชิดเมือง

โลกแห่งดารา

ยันต์เทวะอนันต์ลอยอยู่ภายในพื้นที่ลึกลับ โดยที่ปลดปล่อยคลื่นพลังผันผวนที่รกร้าง กว้างใหญ่และลี้ลับ

นี่คือสถานที่ซึ่งมรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์แห่งเขาเทพพยากรณ์ได้สถิตอยู่ ยันต์เทวะอนันต์ที่อนุมานต่อความลึกล้ำอันไร้ขอบเขตของเต๋าแห่งยันต์อักขระจนถึงขีดจำกัด

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เฉินซีได้บรรลุมรดกของเคล็ดกระบี่เบญจธาตุ กระบี่ของหยินหยาง กระบี่แห่งลมและสายฟ้า รวมทั้งมรดกอื่น ๆ อีกมากมายในเต๋าแห่งกระบี่จากสถานที่แห่งนี้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยันต์เทวะอนันต์ไม่ใช่ยันต์เทวะที่แท้จริง และมันเป็นมรดกประเภทหนึ่ง!

มรดกประเภทนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก และกล่าวกันว่าไม่มีขีดจำกัด จำนวนเคล็ดกระบี่ที่สามารถบรรลุได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนของมหาเต๋าที่ครอบครองอยู่ และความสำเร็จในเต๋าแห่งกระบี่

ในขณะนี้ เฉินซีมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะนั่งขัดสมาธิต่อหน้ายันต์เทวะอนันต์ พร้อมกับสร้างผนึกที่คลุมเครือและลึกซึ้งมากมายอย่างไม่หยุดยั้ง

กระบี่สีดำสนิทที่เรียบง่ายและมืดมิดลอยอยู่ตรงหน้า พื้นผิวของมันเปล่งประกายแวววาว และเผยให้เห็นแผนผังมากมายของยันต์เทวะ

ยันต์เทวะเหล่านี้ได้แก่ ยันต์เทวะพฤกษาคราม ยันต์เทวะผสานธาตุ ยันต์เทวะคงคาทมิฬ ยันต์เทวะไฟโลกันตร์ ยันต์เทวะสยบปฐพี ยันต์เทวะวิหคอมตะวายุ ยันต์เทวะวิญญาณอสูร ยันต์เทวะจักรพรรดิบูรพา และยันต์เทวะอสนีบาตทมิฬ

มียันต์เทวะทั้งหมดเก้าอัน และพวกมันสถิตอยู่ภายในยันต์ศัสตรา ในขณะนี้ เนื่องจากพวกมันได้รับการขัดเกลาโดยเฉินซี เงาภาพของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดินีก็ปรากฏขึ้นจากภายในกระบี่ ซึ่งทุกคนล้วนครอบครองพลังอันศักดิ์สิทธิ์อันมหาศาล และดูเหมือนเทพผู้ยิ่งใหญ่

โอม! โอม!

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ดวงแสงจำนวนมากที่สว่างจ้าราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ ก็ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ดวงแสงทุกดวงเป็นตัวแทนของวัตถุดิบเซียนที่หาได้ยากในโลก และในขณะนี้พวกมันกำลังถูกเฉินซีขัดเกลาด้วยทักษะที่ซับซ้อน ซึ่งกำลังเปลี่ยนรูปแบบเป็นวัตถุดิบที่ใช้สำหรับขัดเกลาอุปกรณ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด

หนึ่งในนั้นคือหอกทลายวิญญาณเขียว ปิ่นทองคำวิญญาณอัสนี และสมบัติเซียนอันทรงพลังอื่น ๆ อีกมากมายที่ระดับว่างเปล่าขั้นสุดยอด

ปัจจุบัน พวกมันทั้งหมดได้กลายร่างเป็นดวงแสงที่บริสุทธิ์เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับขัดเกลา และเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา

“ฮึบ!” ทันใดนั้นดวงตาของเฉินซีก็เปิดขึ้นอย่างกะทันหัน ถ้อยคำคลุมเครือแปลกประหลาดดังก้องประหนึ่งเสียงฟ้าร้อง

ครืน!

ทันใดนั้น อักขระจำนวนมากมายได้ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของยันต์ศัสตราที่ลอยอยู่กลางอากาศ อักขระเหล่านี้หนาแน่นและกว้างใหญ่ราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และดูไร้ขอบเขต

พวกมันหมุนเวียน หลอมรวม และก่อตัวเป็นผังค่ายกลที่มีอยู่มากมายอย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากนั้น ผังค่ายกลเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สะท้อนซึ่งกันและกัน โดยท้ายที่สุดก็ก่อตัวเป็นยันต์เทวะแบบใหม่!

ยันต์เทวะแสงสว่าง

ยันต์เทวะความมืด

ยันต์เทวะดารา

ยันต์เทวะนิรันดร์

ยันต์เทวะรังสรรค์

ยันต์เทวะทำลายล้าง

ทันใดนั้น แผนผังยันต์เทวะทั้งเก้าแบบก็ปรากฏบนพื้นผิวของยันต์ศัสตรา!

อย่างไรก็ตาม ยันต์เทวะเหล่านั้นเป็นเพียงแผนผังยันต์เท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกมันมีเพียงอักขระยันต์ แต่ไม่มีอานุภาพและพลังงานของยันต์เทวะ

ไม่นานนัก เฉินซีก็กระตุ้นปราณเซียนพิสุทธิ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในจักรวาลในร่างกายตน และเริ่มสร้างผนึก ในชั่วพริบตา เขาได้สร้างผนึกจำนวนมากมายที่เต็มไปด้วยความล้ำลึกอันไร้ขอบเขต และพวกมันพุ่งเข้าสู่ดวงแสงของวัตถุดิบที่ใช้สำหรับขัดเกลาราวกับกระแสน้ำ

หลังจากนั้น พื้นที่ทั้งหมดนี้ก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง ในขณะที่ดวงแสงของวัตถุดิบก็เปล่งรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ออกมา มันส่งเสียงหวีดหวิวและพุ่งเข้าสู่แผนผังของยันต์อักขระแบบใหม่ราวกับฝนดาวตกอันงดงาม

ครืน!

ชั่วขณะหนึ่ง ยันต์เทวะจำนวนมากก็ส่งเสียงดังกึกก้องขณะที่พวกมันหมุนเวียนไปมา เปล่งแสงเจิดจ้าและก่อให้เกิดสายฝนแห่งแสงอันศักดิ์สิทธิ์โปรยปรายไปรอบ ๆ ทำให้พื้นที่ลึกลับอันกว้างใหญ่นี้สว่างไสวดุจเที่ยงวัน

ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ มีแสงสว่าง ความมืด แสงของดวงดาวที่ดูลวงตาและไม่มีตัวตน แสงที่ริบหรี่อันเงียบงันของการทำลายล้าง แสงที่สุกสกาวแห่งนิรันดร์ ทั้งยังรัศมีแห่งการรังสรรค์ที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นภาพที่งดงามและอลังการยิ่ง

ภาพอันงดงามนี้อาจกล่าวได้ว่า เหนือกว่าความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากในโลก

นี่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในยันต์ศัสตรา เมื่อมันประสบความสำเร็จ จากนั้นยันต์เทวะแบบใหม่ต่าง ๆ จะถูกตีตราอยู่บนตัวตัวยันต์ และกลายเป็นหนึ่งในพลังของมัน ซึ่งเพิ่มพลังอันไร้ขอบเขตให้กับยันต์ศัสตรา!

กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปตลอดทั้งเดือน

ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดนี้ เฉินซีไม่ได้ว่อกแว่กหรือหย่อนยานแม้แต่น้อย ความสนใจทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ในการขัดเกลายันต์ศัสตรา และเมื่อเวลาผ่านไป ใบหน้าก็เริ่มเคร่งขรึม ทั้งยังซีดเซียว หน้าผากก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกาฬ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากการต่อสู้ครั้งนี้ปะทุขึ้น มันจะเป็นการแข่งขันของจำนวนราชันเซียนที่แต่ละฝ่ายครอบครอง

ปัจจุบัน โจวจื่อหลีจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เซวียนหยวนพัวจวินและเสิ่นฮ่าวเทียนได้บรรลุขอบเขตราชันเซียนแล้ว หลังจากขัดเกลาและดูดซับชิ้นส่วนของโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา

นอกจากพวกเขาแล้ว มู่หรงเทียนแห่งตระกูลมู่ เฟยหมิงของตระกูลจั่วชิว จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดแห่งภพพุทธองค์ จ้าวหลิงซีแห่งเผ่าวิหคอมตะ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนเช่นกัน

หากรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน พวกเขาจะครอบครองราชันเซียนประมาณสิบคน และจำนวนนี้ไม่รวมเฉินซี ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าศัตรูของพวกเขาจะประกอบด้วยกองกำลังจำนวนมาก แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกเกรงกลัว

สิ่งที่พวกเขากังวลอย่างแท้จริงคือนิกายอำนาจเทวะ เพราะกองกำลังทั้งหมดที่ถูกส่งไปยังเมืองเซียนสัประยุทธ์ในครั้งนี้ ล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของนิกายอำนาจเทวะ

เมื่อผู้เยี่ยมยุทธ์ของนิกายอำนาจเทวะเข้ามาแทรกแซง สถานการณ์ก็จะอันตรายอย่างยิ่ง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมหวังต้าวหลู โจวจื่อหลี และคนอื่น ๆ ต่างก็มาตามหาเฉินซี

“ท่านเจ้าสำนักกำลังทำอันใดกันแน่” โจวจื่อหลีอดไม่ได้ที่เอ่ยถาม เมื่อไม่มีสัญญาณของการเคลื่อนไหวใด ๆ หลังจากที่พวกเขารออยู่ที่นี่เป็นเวลานาน คนอื่น ๆ ต่างหันหน้าไปทางเดียวกันและเผยสีหน้างุนงง เพราะเท่าที่พวกเขาทราบ เฉินซีเพิ่งบรรลุขอบเขตราชันเซียน ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อยู่ในการปิดด่านบ่มเพาะ เพื่อขัดเกลาการบ่มเพาะของตน

“ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” หวังต้าวหลูส่ายศีรษะ หากเป็นในอดีต บางทีเขาคงไม่รังเกียจที่จะถามเฉินซีเกี่ยวกับบางสิ่ง แต่ตอนนี้เฉินซีเป็นเจ้าสำนักแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าทำเกินขอบเขต

“ข้าคือผู้นำแห่งตระกูลเจี้ยง เจี้ยงไท่จง รีบไปแจ้งไอ้สารเลวเฉินซีให้ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!” ทันใดนั้น เสียงที่ลึกราวกับสายฟ้าก็ดังก้องมาจากขอบฟ้าอันห่างไกล และมันแพร่กระจายไปทั่วสำนัก มันทั้งหนักแน่นและอาฆาต

เหล่าอาจารย์และศิษย์ทุกคนต่างตกตะลึงในใจ การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วหรือ?

“ฮึ่ม! ตัวตนของเจ้าสำนักของข้านั่นสูงส่งอย่างยิ่ง! แล้วจะมีใครในภพเซียนที่คู่ควรให้เขาต้องออกมาพบเป็นการส่วนตัว? สำหรับข้า ดูเหมือนว่าเจ้าเจี้ยงไท่จงนั่นเป็นตัวโง่งมบัดซบ!” ทันใดนั้น โจวจื่อหลีก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และมองไปด้านนอกของสำนักจากระยะไกล ก่อนจะกล่าวเสียงเย็น

ที่ด้านนอกของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และภายในเมืองเซียนสัประยุทธ์ เจี้ยงไท่จงนิ่งเงียบและไม่กล่าววาจาใด ๆ เฉินซีได้สร้างกองกำลังและอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาแล้ว และได้แสดงศักดิ์ศรีของเจ้าสำนักออกมาอย่างเต็มที่ หากเฉินซีไม่ออกมาเผชิญหน้ากับเขา ก็คงไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้นัก

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กล่าวว่า “ในวันนั้น เขาได้สังหารคนจากตระกูลเจี้ยงของข้า ตระกูลจงหลี และตระกูลว่านฉีอย่างโหดเหี้ยม ความปฏิปักษ์เช่นนี้ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ และในเมื่อเขาไม่เต็มใจที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง เช่นนั้นเราก็จะใช้เลือดล้างสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเป็นเวลาสามวันนับจากนี้!”

เสียงของเขาอาฆาตพยาบาทและเปี่ยมด้วยความสยดสยองอย่างไร้ขอบเขต มันส่งผลกระทบทำให้ใจผู้คนสั่นสะท้าน

โอม

ในขณะนี้ เสียงกู่ร้องของกระบี่ที่ชัดเจนและไพเราะราวกับเสียงของเทพเจ้าก็ดังก้องมาจากภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า และมันพุ่งเข้าสู่จักรวาล สั่นสะเทือนปฐพี ทำให้สายลมและหมู่เมฆตกอยู่ในความวุ่นวาย!

อานุภาพดังกล่าวทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ในขณะที่สภาพแวดล้อมโดยรอบมืดหมองลง และกระแทกเข้าหัวใจของทุกคน ยิ่งกว่านั้น กลิ่นอายที่น่าเกรงขามและน่าสะพรึงกลัวของมันก็ทำให้ตกตะลึงถึงขีดสุด

ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ทุกคนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าที่ตกตะลึง แม้แต่กองกำลังทั้งหมดที่ตั้งทัพอยู่ในเมืองเซียนสัประยุทธ์ ก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวที่อธิบายไม่ได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]