บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1514

สรุปบท บทที่ 1514 บุกหุบเขาปีศาจ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

อ่านสรุป บทที่ 1514 บุกหุบเขาปีศาจ จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บทที่ บทที่ 1514 บุกหุบเขาปีศาจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 1514 บุกหุบเขาปีศาจ

……………………………………………………………………..

บทที่ 1514 บุกหุบเขาปีศาจ

ในชั่วพริบตา ผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพที่เทียบได้กับขอบเขตราชันเซียนล้วนพ่ายแพ้อย่างหมดรูป และไร้พลังดิ้นรนเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินซี!

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและหายใจไม่ออก ในที่สุดนางก็ตระหนักว่าชายที่ยืนอยู่ไกลออกไป ซึ่งเกี่ยวข้องกับนางทางสายเลือดนั้นแข็งแกร่งกว่าที่จินตนาการไว้มาก!

แต่…ในเมื่อเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดถึงไม่หาเราในตลอดหลายปีที่ผ่านมาล่ะ?

หญิงสาวตกตะลึง คลื่นก็ซัดสาดอยู่ในหัวใจปั่นป่วน และนางก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

โอม!

ตะเกียงวังสีเขียวปรากฏขึ้น จากนั้นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็สะพัดออกมาจากภายใน

เฉินซีเหยียดมือออกแล้วคว้า จากนั้นยันต์และข้อจำกัดก็ถูกกวาดออกไป มันกระชากวิญญาณของถูกวงออกจากร่างอย่างแข็งขัน จากนั้นถูกผนึกไว้ในตะเกียงวังไหมเขียวพร้อมกับเสียงดังลั่น

ฟู่! ฟู่!

ตะเกียงวังไหมเขียวเป็นสมบัติอมตะโบราณ และเปลวไฟภายในนั้นมีความรุนแรงอย่างไม่มีใครเทียบได้ ทันทีที่วิญญาณของถูกวงถูกผนึก มันก็ถูกเผาไหม้ด้วยคลื่นเปลวไฟ และเกิดเสียงดังฟู่เหมือนน้ำมันที่เดือดพล่าน

“อ๊าาาก!!! ข้ายอมแล้ว ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง โปรดให้ข้าได้ตายทันทีเถิด!” มันทำร้ายถูกวงจนต้องกรีดร้องโหยหวน และจิตวิญญาณก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เขาไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่เกินจะทานทน และยอมจำนนอย่างสิ้นเชิง

“ข้าจะให้เวลาเจ้าสามลมหายใจ” เฉินซีกล่าวอย่างไม่แยแส

“สตรีนางนั้น… ยังไม่ตาย นางถูกพาตัวไปโดยจักรพรรดิแห่งพิภพวิญญาณ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียง!” ถูกวงตอบอย่างรวดเร็ว เสียงของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความหดหู่อย่างสุดจะพรรณนา

“จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียง? ตอนนี้มันอยู่ที่ใด?” เฉินซีกล่าวต่อ และถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะฟ่านอวิ๋นหลานยังไม่ถึงฆาต

“หุบเขาปีศาจที่อยู่ใจกลางธารแยกแดนดิน”

“มีกี่กองกำลัง?”

“มีราชันเซียนต่างพิภพทั้งหมดแปดคน รวมถึงจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียง และกองทัพต่างพิภพ หนึ่งแสนคน นั่นคือฐานทัพของกองกำลังต่างพิภพของเราที่จะโจมตีสามภพในครั้งนี้”

โครม!

เมื่อทราบเรื่องเหล่านี้แล้ว เฉินซีไม่ได้แสดงความเมตตาใด ๆ และทำลายวิญญาณตรงหน้าทันที

“เจ้า… ไม่กังวลว่ามมันจะหลอกลวงหรือ?” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถาม

“มันไม่กล้าหรอก” เฉินซียิ้มและไม่ได้ให้คำอธิบายใด ๆ ด้วยความรู้สึกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะโกหกหรือหลอกลวงก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาเขาได้

“ไปที่ธารแยกแดนดินกันเถอะ” ขณะที่กล่าว ชายหนุ่มก็เคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติ และพาหญิงสาวไปด้วย

ธารแยกแดนดินนั้นกว้างใหญ่ไพศาล มันแยกพิภพภายนอกและสามภพออกจากกัน

ผืนดินสีดำลอยอยู่ใจกลางธารแยกแดนดิน และทอดยาวไปอย่างไร้ขอบเขต

ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้คือหุบเขาปีศาจ

ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มันเป็นสถานที่ที่กองกำลังของสามภพและกองทัพต่างพิภพได้ต่อสู้แย่งชิงมาโดยตลอด เพราะตราบใดที่สามารถควบคุมหุบเขาปีศาจได้ ก็สามารถเดินทัพไปยังอีกฟากหนึ่งของธารแยกแดนดินได้

แต่ว่าบัดนี้ หุบเขาปีศาจได้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกองทัพต่างพิภพแล้ว

กองทัพต่างพิภพหนึ่งแสนคนได้ตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาปีศาจ และพวกมันเหมือนมวลตั๊กแตนที่แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของดินแดนกว้างใหญ่นี้

แต่ละคนเปี่ยมด้วยจิตสังหาร และเมื่อมาบรรจบกัน จิตสังหารมหาศาลก็เหมือนกับฝูงมังกรดำที่พุ่งทะยานไปบนท้องฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เกิดเป็นภาพที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง

ณ ใจกลางของหุบปีศาจ มีเมืองหนึ่งที่ดูเหมือนป้อมปราการตั้งอยู่

ในขณะนี้ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มีกลิ่นอายน่าเกรงขามกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง พวกมันมีทั้งหมดแปดคน และทุก ๆ คนก็สามารถต่อกรกับราชันเซียนได้!

บุคคลทั้งแปดนี้เป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่จากแปดพิภพภายนอก!

“ถูกวงตายแล้ว” ชายร่างผอมที่สวมชุดคลุมสีดำซึ่งยืนอยู่ตรงกลางกล่าวพลางขมวดคิ้ว เขามีผิวที่ขาวกระจ่างใสและดวงตาดุจอัญมณีสีแดงคู่หนึ่ง ซึ่งเปร่งประกายแสงอันน่าสะพรึงกลัว แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียง

หากเฉินซีอยู่ที่นี่ เขาคงสามารถระบุได้ทันทีว่าสวี่เซียงคือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผมขาวที่หลบหนีออกมาจากด่านแห่งความลึกล้ำภายในเหวเงาทมิฬ

ในตอนนั้น แม้แต่การรวมพลังของหม้อใบจิ๋วและตราที่จักรพรรดิมดทิ้งไว้เบื้องหลัง ก็ไม่สามารถทำให้มันทิ้งชีวิตไว้ได้ และความแข็งแกร่งมันก็น่ากลัวอย่างยิ่ง

“ชื่อเยียน เจ้าทำนายตัวตนของบุคคลนี้ได้หรือไม่?” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียงเหลือบมองชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง

ชายคนนี้สวมเสื้อคลุมสีแดงเพลิง และที่หว่างคิ้วก็มีรอยสักยันต์ที่ดูคลุมเครือ ในขณะนี้ เขากำลังหลับตา ร่างกายก็พลุ่งพล่านด้วยเกลียวคลื่นพลังลึกลับ

เขาคือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ชื่อเยียน ราชาสูงสุดที่มาจากพิภพประกายเพลิง และมีทักษะในการทำนายอันโดดเด่น

“ข้าไม่สามารถทำนายสิ่งใดได้เลย ชะตาของคนผู้นี้ผิดปกติอย่างยิ่ง คล้ายถูกปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์…” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ชื่อเยียนขมวดคิ้วพลางลืมตาขึ้น และเผยสีหน้าที่เคร่งขรึม “นิมิตเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าพลังฝีมือของคนผู้นี้ไม่ธรรมดา”

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนอื่น ๆ ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และดวงตาของพวกเขาพลันหรี่ลง

ขณะนี้สามภพกำลังเผชิญกับการรุกรานของนิกายอำนาจเทวะ ดังนั้นราชันเซียนทุกคนจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเอง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ใครจะมีเวลามาสนใจสิ่งต่าง ๆ ที่นี่อีก?

“พวกเจ้าคิดว่าอาจเป็นชายหนุ่มคนนั้นที่เพิ่งเข้ายึดสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าหรือไม่? ปัจจุบัน เขามีชื่อเสียงที่สุดในสามภพ และได้ทำลายล้างราชันเซียนหลายคนอย่างต่อเนื่อง แม้แต่นิกายอำนาจเทวะก็ยังต้องล่าถอย ซ้ำยังไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียงขมวดคิ้วขณะที่กล่าว

มีใครจะไม่หวาดกลัวเมื่อเผชิญกับกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้หรือ?

เฉินซีตบไหล่นางพลางกล่าว “ข้าจะไม่ทำกระทำการบุ่มบ่าม เจ้าต้องซ่อนตัว และออกมาเมื่อข้าช่วยมารดาของเจ้าได้แล้ว”

ร่างของหญิงสาวแข็งทื่อเมื่อฝ่ามือของเฉินซีทาบทับลงมา ดูเหมือนนางจะไม่ยินยอม แต่สุดท้ายก็หยุดดิ้นรน และอาจถือได้ว่ายอมรับข้อตกลงโดยปริยาย

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อและซ่อนหญิงสาวไว้ในสมบัติอมตะ

ฟิ่ว!

หลังจากที่ทำทั้งหมดนี้แล้ว เฉินซีก็ไม่ลังเลอีกต่อไป และมุ่งหน้าไปที่หุบเขาปีศาจด้วยความเร็วสูงสุด ราวกับฉีกชั้นอวกาศออกทีละชั้น และมาถึงตรงหน้าหุบเขาปีศาจในทันที

“เร็วขนาดนั้นเชียว?” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของช่องเขาปีศาจต่างตกตะลึง

“หืม?” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ประกายเยียบเย็นพลันวูบในดวงตาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียงที่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง ซึ่งเฉินซีก็จ้องมองเขามาจากระยะไกลเช่นกัน

สายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของทั้งสองสบกันไม่หันหนี

“น่าสนใจจริง ๆ พลังของมันดูเหมือนจะมาถึงระดับเลิศล้ำของขอบเขตราชันเซียนแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่กล้าบุกเข้ามาเพียงลำพัง” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สวี่เซียงหัวเราะเสียงเย็น “แต่น่าเสียดาย การบุกเพียงลำพังไม่ต่างอะไรกับการเอาเชือกแขวนคอ หรือเจ้าเด็กนี่คิดว่าตนเองเป็นเทพที่สามารถกวาดล้างได้ทุกสิ่ง?”

ในขณะเดียวกัน กองทัพต่างพิภพนับแสนบนหุบเขาปีศาจก็สังเกตเห็นเฉินซีเช่นกัน

“เจ้าชนพื้นเมืองที่น่ารังเกียจนี้เสียสติไปแล้วหรือ?”

“เจ้านั่นคือเฉินซีกระมัง? ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นราชันเซียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในสามภพตอนนี้ แต่แท้จริงแล้ว มันกลับจองหองจนกล้าบุกเข้ามา ช่างหาที่ตายเสียจริง ๆ!”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น”

เมื่อเห็นเฉินซีบุกมาเพียงลำพัง บรรดากองทัพต่างพิภพล้วนรู้สึกว่าราชันเซียนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือกำลังรนหาที่ตาย

ชิ้ง!

เฉินซียังคงเฉยเมย และชักยันต์ศัสตราอย่างไม่แยแส ก่อนจะเปิดฉากโจมตี

“หยุดมัน!” ภายในช่องเขาปีศาจ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กุ้ยซูออกคำสั่ง และสั่งให้กองทัพหุ่นวิญญาณศึกมากกว่าหมื่นตัวเข้าโจมตี

โครม โครม!

ทันใดนั้น หุ่นวิญญาณศึกกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับเมฆดำ พวกมันก่อตัวเป็นมวลหนาแน่นเข้าโจมตีอย่างดุเดือด ทำให้มิติโดยรอบแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ หุ่นวิญญาณศึกทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ และตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในพวกมัน ก็เทียบได้กับขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กุ้ยซูไม่ได้หวังว่าพวกมันจะสามารถทำลายล้างเฉินซีได้ ขอเพียงชะลอเฉินซีได้ครู่หนึ่ง ก็เพียงพอแล้วที่เขาจะสร้างค่ายกลพิฆาตเพื่อดักจับและสังหารเฉินซี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]