บทที่ 1569 โซ่แห่งกรรม
……….
บทที่ 1569 โซ่แห่งกรรม
อี้เทียนลุกโชนด้วยไฟโทสะ และทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนเงียบกริบเหมือนจักจั่นในฤดูหนาว
อันที่จริง เมื่อพวกเขาทราบข่าวจากแนวหน้า ทุกคนก็รู้สึกไม่เชื่ออย่างมากเช่นกัน เนื่องจากเทพกว่าสี่สิบคนถูกส่งออกไป แต่จริง ๆ แล้วกลับถูกชายหนุ่มจากภพเบื้องล่างเข่นฆ่าจนขวัญหนีดีฝ่อ และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โชคดีพอจะหลบหนีไปได้!
หากสิ่งนี้เกิดกับผู้บ่มเพาะขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ศัตรูก็เป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาเช่นกัน มิหนำซ้ำ แม้ศัตรูเพิ่งมาถึงแดนโลกาวินาศได้ไม่นาน แต่ก็สามารถทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้ และมันก็ไม่ปกติอย่างยิ่ง!
ลุงเก้าทอดถอนหายใจ ผลลัพธ์นี้อยู่ในความคาดการณ์ของเขามานานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครฟังแนะนำจากตาเฒ่าจนเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
“นายน้อย เราควรรวมกองกำลังที่กระจัดกระจายทั้งหมดไว้ที่นี่เป็นการด่วน ด้วยวิธีนี้เราอาจหยุดยั้งไอ้สารเลวนั่นได้” แม้นเขาจะไม่เห็นด้วยกับปฏิบัติการนี้ แต่ลุงเก้าก็ยังอดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำ เนื่องจากอี้เทียนเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลอี้ และหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับอี้เทียน เขาก็จะต้องประสบคราวเคราะห์เช่นกัน
“ลุงเก้า เรามาทำตามที่เจ้าบอกกันเถอะ” โดยไม่คาดคิด อี้เทียนไม่ได้ปฏิเสธในครั้งนี้ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่สีหน้าค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบ “ข้ายอมรับว่าก่อนหน้านี้ข้าประเมินเจ้าเด็กนั้นต่ำไปจริง ๆ แต่ตอนนี้ ข้าไม่มีทางถอยอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อเห็นแก่ความรุ่งโรจน์ของตระกูลอี้ของเราหรือเพื่อการแก้แค้น ข้าก็ไม่อาจหยุดได้อีกต่อไป”
อี้เทียนหยุดครู่หนึ่ง สีหน้าฟื้นคืนความสงบอย่างสมบูรณ์ ดวงตาจดจ้องไปยังระยะไกล พลางกล่าวคำต่อคำ “หากข้าไม่สามารถบดขยี้เจ้าเด็กนี้ได้ แล้วข้าจะมีหน้าไปเข้าร่วมการชุมนุมดาราของจักรพรรดินีอวี้เชอได้อย่างไร”
ลุงเก้าเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นพยักหน้า “เหล่าบรรพบุรุษจะต้องยินดีอย่างแน่นอน ที่นายน้อยสามารถคิดเช่นนี้ได้ ไม่ต้องกังวลนายน้อย แม้ว่าข้าจะต้องสละชีวิต ข้าจะช่วยให้นายน้อยบรรลุความปรารถนาให้จงได้”
ทันทีที่กล่าวจบเขาก็หันหลังกลับและไปวางแผนทุกอย่าง
“ลุงเก้า…” อี้เทียนผงะ อารมณ์และความอบอุ่นทะลักออกมาหัวใจ
“นายน้อย ท่านมีคำแนะนำอื่นใดอีกหรือไม่?” ลุงเก้าหยุดเคลื่อนไหวและหันหลังกลับพลางถาม
“ขอบคุณ” อี้เทียนประสานมือคารวะ
ลุงเก้ายิ้มอย่างเบิกบาน ร่างอันสง่าที่สูงถึงเก้าจั้งของเขาเต็มไปด้วยความอหังการ “นายน้อยไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพียงรอข่าวเจ้าหนุ่มนั่นถูกฆ่าก็พอ”
…
ร่างสองร่างกำลังยืนตัวตรงบนสนามรบที่ถูกปกคลุมไปด้วยความอ้างว้าง หนึ่งในนั้นเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาวเรืองรอง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ได้อย่างชัดเจน
อีกด้านหนึ่งเป็นหญิงสาวสวมชุดสีเขียว มีผมขดเป็นมวยสองข้างศีรษะ และถือตะกร้าดอกไม้ นางมองไปยังระยะไกล ดูเหมือนจมอยู่กับความคิด แล้วพลันหัวเราะเบา ๆ “ท่านเทพธิดา ความสามารถของน้องชายคนนั้นน่ากลัวกว่าที่ข้าจินตนาการไว้เสียอีก”
คนสองคนนี้ย่อมเป็นเทพธิดาลึกลับและฮุ่ยฉง
“รากฐานในเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี” เทพธิดาเงียบไปครู่หนึ่ง “ฮุ่ยฉง โชคชะตาของเด็กคนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ และต้นกำเนิดของเขาก็พิสดารนัก เมื่อเจ้าออกไปท่องไปตามเอกภพต่าง ๆ ในอนาคต หากเจ้าพบกับเขา เจ้าต้องจำไว้ว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับเขาเป็นอันขาด!”
ฮุ่ยฉงตะลึงลาน แล้วอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย “ท่านเทพธิดา เพราะเหตุใดหรือ?”
“สิ่งที่ไม่รู้นั้นอันตรายที่สุด เส้นทางที่มุ่งสู่เต๋าของชายหนุ่มคนนั้นเต็มไปด้วยความไม่สงบ และไม่มีใครสามารถทำนายได้แม้แต่เศษเสี้ยว เมื่อเจ้าเกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว มันจะส่งผลต่อเส้นทางที่มุ่งสู่เต๋าของเจ้าอย่างแน่นอน มิหนำซ้ำยังมิอาจบอกได้ว่าผลลัพธ์จะดีหรือร้าย” เสียงของเทพธิดาสงบและไม่แยแส แต่ก็เผยให้เห็นน้ำเสียงที่สง่างามที่กระทบหัวใจโดยตรง
“แต่… เมื่อเรารวบรวมราชาเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ เราก็ได้ช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่งแล้วมิใช่หรือ?” ฮุ่ยฉงขมวดคิ้วและเป็นกังวลเล็กน้อย นางไม่สามารถแยกแยะความลึกซึ้งเบื้องหลังคำพูดของเทพธิดาได้ แต่สัญชาตญาณบอกนางว่า ที่เทพธิดากล่าวเช่นนี้ ทั้งหมดก็เพื่อตัวนางเอง
“นั่นก็… จริงเช่นกัน” คราวนี้เทพธิดาตกตะลึงและเงียบไป จากนั้นนางก็ทอดถอนหายใจเบา ๆ “ไม่น่าแปลกใจเมื่อข้ามาถึงซากคุนเผิงในครั้งนี้ จู่ ๆ ลางสังหรณ์ที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นในใจ เป็นเพราะโซ่แห่งกรรมถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม”
ฮุ่ยฉงยิ่งงุนงงยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังรู้สึกสับสนเล็กน้อย พลางครุ่นคิดในใจว่า “น้องชายคนนั้นช่างพิเศษจริง ๆ เขาทำให้ท่านเทพธิดาต้องลำบากใจเช่นกัน…”
“ทราบแล้ว ท่านเทพธิดา ครั้งนี้เราได้รวบรวมราชาเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ และสามารถสกัดโอสถวิญญาณหอสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!” ฮุ่ยฉงไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของเทพธิดา และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน
“สกัดโอสถเหรอ? ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” ร่องรอยของความสับสนผุดขึ้นในใจของเทพธิดา แผ่กระจายออกไปราวกับระลอกคลื่นในจิตใจอันเงียบสงบของนาง
หัวใจและจิตใจของนางกระสับกระส่าย!
สำหรับตัวตนเช่นนาง เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว
“โอ้” ฮุ่ยฉงรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเช่นกัน ตามแผนที่วางไว้ โอสถวิญญาณหอสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้เตรียมไว้สำหรับนางโดยเฉพาะ ทว่าขณะนี้ เมื่อรวบรวมวัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ได้ครบ เทพธิดากลับบอกนางว่าจะยังไม่สกัดพวกมัน สิ่งนี้ทำให้ความหวังของนางพังทลาย จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ในใจ
“ฮุ่ยฉง” ทันใดนั้นเทพธิดาก็กล่าวอีกครั้ง
“เพคะ?” ฮุ่ยฉงเงยหน้าขึ้น
“เจ้าห้ามบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดในวันนี้เป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่?”
“มาเถอะ แดนเทพโบราณจะไม่สงบสุขอีกต่อไปในภายภาคหน้า…”
…
ฟิ่ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...